วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

เหตุผลที่ทำให้ตลาดอสังหาฯในศรีราชาบูม

คอลลิเออร์สฯ ชี้ตลาดที่อยู่อาศัยในศรีราชาเติบโต 20% รับนักลงทุนญี่ปุ่นและคนทำงานหลังมีการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนและจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เผยราคาที่ดินพุ่ง 2 เท่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจังหวัดชลบุรีมีการขยายตัวเพิ่มของพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างมาก ส่งผลให้กลายเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนิคมอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศไทย โดย ณ สิ้นปี 2557 ชลบุรีมีพื้นที่อุตสาหกรรมรวมมากกว่า 30,000 ไร่ หรือประมาณ 21% ของพื้นที่อุตสาหกรรมทั้งหมด และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการลงทุนและการขนส่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึก และปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่นี้คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมอีกจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยชาวญี่ปุ่นในจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ศรีราชาเติบโตต่อเนื่องตามอัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่อุตสาหกรรมและคนทำงาน
“ปัจจุบันน่าจะมีชาวญี่ปุ่นในบริเวณพื้นที่ศรีราชากว่า 15,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 15% จากปีก่อนหน้า ทำให้ในบริเวณนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยครบครันสำหรับชาวญี่ปุ่น โซนร้านอาหารญี่ปุ่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเช่าหนังสือภาษาญี่ปุ่น และดีวีดีภาพยนตร์ภาษาญี่ปุ่น รายการโทรทัศน์ที่ชาวญี่ปุ่นสามารถดูได้ แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน แม้กระทั่งโรงเรียนสำหรับลูกหลานชาวญี่ปุ่น ไม่นับรวมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอื่นๆที่มีอยู่แล้ว เช่น ธนาคาร โรงพยาบาล เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเลือกพักในเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ หรืออพาร์ทเมนต์มากกว่าการเช่าคอนโดฯ แต่ก็มีผู้ประกอบการหลายรายที่เปิดขายโครงการคอนโดฯ ในศรีราชาเพื่อขายให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า ให้กับชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ รวมทั้งให้กับบริษัทที่จำเป็นต้องเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ หรือคอนโดฯ ให้กับผู้บริหารและพนักงานชาวญี่ปุ่นทำให้ตลาดคอนโดฯ ในศรีราชาขยายตัวค่อนข้างเติบโตมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”นายสุรเชษฐกล่าว
สำหรับเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์นั้นยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่ต้องการพักอาศัยในศรีราชาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักส่วนใหญ่จะเกือบเต็ม 100% เพราะมีซัพพลายอยู่ไม่มาก แต่ความต้องการจากคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปี จากจำนวนคนญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาทำงานในชลบุรีที่มากขึ้นต่อเนื่อง
“เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์จึงยังคงเป็นอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้มากในศรีราชา นอกจากนี้ กลุ่มสหพัฒน์ที่ลงทุนเปิดโครงการเจพาร์ค ยังมีแผนจะพัฒนาเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์เดิมที่มีอยู่และสนใจที่จะลงทุนบ้านเช่าที่เจาะจงกลุ่มญี่ปุ่นอีก”
สำหรับตลาดคอนโดฯ และบ้านจัดสรรนั้น นายสุรเชษฐกล่าวว่ามีการลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของถนนสุขุมวิท พื้นที่ตามแนวถนนหมายเลข 3241 ที่ในปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดฯ ของผู้ประกอบการายใหญ่ และท้องถิ่นหลายโครงการ และมียอดขายที่ค่อนข้างสูง บางโครงการขายหมดในเวลารวดเร็ว
ในช่วงระหว่างปี 2556 – 2557 มีคอนโดฯ เปิดขายในศรีราชา(ฝั่งตะวันตกของถนนสุขุมวิท) ประมาณ 3,280 ยูนิต จากทั้งหมด 7 โครงการ โดยเป็นโครงการของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ทั้งหมด และส่วนใหญ่มียอดขายเกิน 70% ทำให้อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดฯ ในศรีราชาอยู่ที่ประมาณ 83% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63,500 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 52,000 บาทต่อตารางเมตร และขึ้นไปถึงมากกว่า 95,000 บาทต่อตารางเมตร
สำหรับโครงการคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ทั้งหมดที่เปิดขายในปีช่วงปี 2556-2557 จะมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2558-2559 และอาจจะมีโครงการใหม่ๆ เปิดขึ้นอีกในอนาคต แต่ผลที่ตามมาก็คือ ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นมากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาตลาดอยู่ที่ตารางวาละประมาณ 300,000 บาทเพิ่มขึ้นจากเมื่อสองปีก่อนถึงประมาณ 2 เท่าตัว แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของพื้นที่นี้เป็นอย่างดี
ภาพ: นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง via www.ieat.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น