Global Silver Age – ธีมลงทุนที่เป็นมากกว่า Healthcare

GSA Banner2
Credit Pic: Getty Images
  1. Global Silver Age คือ อะไร?
Global Silver Age เกิดจากแนวคิดว่า บรรดาพี่ๆ กลุ่ม Baby Boomers ซึ่งเกิดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มทยอยเกษียณ โดยกลุ่ม Baby Boomers มีลักษณะพิเศษ คือ ขยัน รักการทำงาน และเป็นกลุ่มที่มีระดับการศึกษาสูงกว่าคนรุ่นก่อน เพราะส่วนใหญ่จบปริญญาตรีหรือสูงกว่า จุดเด่นอีกข้อคือ “เก็บเงินเก่ง” เมื่อเกษียณก็จะมีเงินเก็บจำนวนมาก มี “ความมั่งคั่ง” หรือ Wealth ถึงจุดสูงสุดหลังจากได้ทำงานเก็บเงินมาตลอดชีวิต และพร้อมที่จ่ายเงินเพื่อ “ซื้อความสุข” ให้กับตัวเอง
เทคโนโลยีทางการแพทย์บวกกับการหมั่นออกกำลังกายและดูแลตัวเอง ทำให้ Baby Boomers กลายเป็นกลุ่มคนเกษียณรูปแบบใหม่ที่ยัง Active ร่างกายยังแข็งแรง ใจยังรักสนุก ไม่อยากอยู่นิ่งและไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และตอบรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ … นึกถึงภาพคุณพ่อคุณแม่ที่ติด Candy Crush, Facebook, Line นะครับ
คนเกษียณกลุ่มนี้จึงแปลงสภาพจากที่เคยถูกมองว่าเป็น “ภาระ” (burden) กลายเป็น “โอกาส” (opportunity) ของธุรกิจใหม่ๆที่จะตามมาอีกมากมาย จนถูกเรียกว่า “The Silver Age” (คำนี้แปลว่า ผมสีดอกเลา) ซึ่งมีลักษณะดังนี้
  • อายุประมาณ 50 – 70 หรือเลยไปถึง 75 ปี หากยังแข็งแรง
  • มีกำลังซื้อสูง เพราะลักษณะของ Baby Boomers คือขยันทำงานและเก็บเงินเก่ง
  • มีความมั่งคั่งถึงจุดสูงสุด พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเอง
  • ร่างกายยังแข็งแรง ใจยังรักสนุก ชอบเดินทางท่องเที่ยว และทำกิจกรรม outdoor เช่น camping, jogging หรือ ขี่จักรยาน เมื่อมีเวลาว่างมากขึ้นหลังเกษียณ
  • ยังอยากให้ตัวเองดูหนุ่มสาวและไม่แก่ก่อนวัย
Extreme mountain bike sport athlete man riding outdoors lifestyle trail
Extreme mountain bike sport athlete man riding outdoors lifestyle trail

  1. Global Silver Age เกี่ยวข้องกับ Demographic Megatrend อย่างไร?
เราทราบกันดีว่าสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเร็วมากทั่วโลก นับเป็น Demographic Megatrend ที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รอบตัวเราต่อไปอีกหลายสิบปี โดยผู้สูงอายุมีอัตราการเพิ่มสูงมากเป็นพิเศษในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเชียและลาตินอเมริกา สำหรับเอเชีย สัดส่วนประชากรอายุ 60+ จะเพิ่มจาก 12% เป็น 25% ในปี 2050 คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 114%
ในอดีตเราเคยคิดว่า ผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วคือคนที่จะกลายเป็นภาระให้ลูกหลานดูแล หรือไม่ก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา แต่ในปัจจุบันเราจะพบว่า คนที่อายุ 50+ ซึ่งอยู่ในวัยใกล้เกษียณ หรือ 60+ ที่เพิ่งเกษียณหมาดๆ หลายคนยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง หลายคนยังทำงานแบบเต็มเวลาได้
มีการสำรวจในสหรัฐอเมริกา พบว่า อายุเฉลี่ยของผู้สูงอายุที่ย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิม 60 ปลาย เป็นมากกว่า 80 ในปัจจุบัน แปลว่า คนที่อายุ 60-70 ยังแข็งแรงและดูแลตัวเองได้ และธุรกิจที่กำลังฮิตมากในสหรัฐฯ คือ การให้บริการฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุแบบ 24 ชั่วโมง เพราะคนที่เกษียณแล้วส่วนใหญ่ยังอยากอยู่บ้านตัวเอง แต่ก็อยากอยู่ใกล้หมอเพื่อให้อุ่นใจ หากเจ็บป่วยขึ้นมา สามารถโทรเรียกแพทย์ พยาบาล หรือรถพยาบาล ได้
เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงเรื่องความมั่งคั่งของ Baby Boomers ก็จะพบว่า พี่ๆ ที่กำลังทยอยเกษียณจะกลายเป็น “ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมหาศาล” พร้อมที่จะ spend เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่หรือรถคันใหม่. ทำกิจกรรม outdoor, ท่องเที่ยว, ผลิตภัณฑ์ skincare และ Anti-aging ฯลฯ
  1. Global Silver Age เป็นมากกว่า Healthcare อย่างไร?
เวลาที่เราลงทุนในกองทุน Healthcare เรากำลังลงทุนใน “Sector Fund” ซึ่งเลือกลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์เท่านั้นครับ โดยกลุ่ม Healthcare มี sector ย่อยๆ ประกอบด้วย
1. Pharmaceuticals – บริษัทยา
2. Medical Equipment – เครื่องมือแพทย์
3. Healthcare Services – โรงพยาบาลและคลินิก
4. Biotech Companies – ค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นในกลุ่ม Healthcare โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Pharmaceuticals และ Biotech ขึ้นไปเยอะมาก ขณะนี้ซื้อขายกันที่ P/E มากกว่า 40-50 เท่า ในระยะยาวอาจจะยังพอไปต่อได้ แต่ upside ค่อนข้างจำกัดครับ
ส่วน Global Silver Age เป็น “Long Term Investment Theme” คือ เป็นธีมลงทุนระยะยาว ที่จับประเด็น Demographic Megatrend เรื่อง Baby Boomers ที่กำลังทยอยเกษียณในอีก 10-20 ปีข้างหน้า และมีแนวทางการลงทุนที่กว้างกว่า Healthcare โดยในกองทุน Global Silver Age มีการลงทุนใน Healthcare อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่เน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองจำพวก Anti-aging, กลุ่ม Medical Equipment และ Healthcare Services ที่มีกระแสเงินสดดี และยังซื้อขายด้วย P/E 15-20 เท่า
Global Silver Age ลงทุนในหุ้น กลุ่ม ดังนี้
Source: CPR Asset Management
Source: CPR Asset Management

  1. Well-Being – ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง (หุ้นอันดับ 1 คือ Allergan ผู้นำตลาด Botox และ Filler) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เน้น Anti-aging (L’Oreal, Estee Lauder, Shiseido, AmorePacific เจ้าของแบรนด์ Etude), ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่
  2. Leisure – บริษัททัวร์หรือเรือสำราญ (Carnival, TUI, MINT) สถานบันเทิงแบบกาสิโน เพราะสังเกตว่า คุณลุงคุณป้าชอบเล่น slot machine
  3. Healthcare – ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องวัดความดัน เครื่องช่วยฟัง ฯลฯ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตา (หนึ่งในหุ้น top5 คือ Valeant เจ้าของแบรนด์ Bausch and Lomb)
  4. Asset Gatherers – สถาบันการเงินที่ให้คำปรึกษาการวางแผนทางการเงินหลังเกษียณ อาทิ บริษัทจัดการกองทุน ประกันชีวิต และ Private Wealth (BlackRock, AXA, ING, Credit Suisse)
  5. harmaceuticals – ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์เน้นโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุ อาทิ หัวใจ, ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, มะเร็ง (Roche, Novartis, Pfizer)
  6. Automobiles – บริษัทรถยนต์ที่ผลิตรถโดยคำนึงถึงกลุ่มผู้บริโภคผู้สูงอายุ (BMW, Ford, Toyota)
  7. Security – ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยและสัญญาณเตือนภัย (Securitas, SECOM)
  8. Dependency – โรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์สำหรับผู้สูงอายุ (HCA, Raffles Medical)
เป็นที่น่าสังเกตว่า การลงทุนโดยเลือกบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคของกลุ่ม Global Silver Age เป็นแนวทางการลงทุนระยะยาว หรือ Very Long-term Investment Theme ที่น่าจะไปไกลกว่ากลุ่ม Baby Boomers เพราะเชื่อว่า เมื่อคนรุ่นผมที่เป็น Gen X เกษียณในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ก็คาดว่าจะมีแนวคิดการดูแลตัวเองและชอบ Active Lifestyle คล้ายๆ กัน
  1. Global Silver Age ลงทุนในหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง?
    เรามาดู Top 5 Holdings ของกองทุน Global Silver Age กันครับ
    1. Allergan ผู้คิดค้นเทคโนโลยี Botox ซึ่งได้รับการรับรองโดย FDA เมื่อปี 2002 ปัจจุบันยังเป็นผู้นำตลาด Botox และ Filler ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องของผู้สูงอายุเท่านั้น เดี๋ยวนี้หนุ่มสาวก็นิยมทำกัน ขอกระซิบบอกว่า ในทางการแพทย์ Botox ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความงามเท่านั้น ยังได้รับการรับรองจาก FDA ให้ใช้รักษาโรคไมเกรน (12% ของคนอเมริกันเป็นโรคนี้). อาการใบหน้ากระตุกครึ่งซีก, อาการเหงื่อออกผิดปกติ  ฯลฯ
      Botox Allergan
    2. C. R. Bard เป็นบริษัทเครื่องมือแพทย์ขนาดใหญ่สัญชาติอเมริกัน มีพนักงาน 12000 คนใน 90 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์สำคัญ อาทิ เครื่องตรวจการทำงานของลิ้นหัวใจ อุปกรณ์ผ่าตัดรักษาทางเดินปัสสาวะ และเป็นผู้คิดค้นอุปกรณ์ Drug Coated Balloon ชื่อ Lutonix เพื่อสอดบอลลูนที่เคลือบตัวยาไปขยายหลอดเลือดอุดตัน
      CR Bard Lutonix
    3. ING Group สถาบันการเงินรายใหญ่ของโลกสัญชาติเนเธอร์แลนด์ มีรายได้ครึ่งหนึ่งจากธุรกิจธนาคาร และอีกครึ่งหนึ่งจากค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งจากธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัย การจัดการกองทุน Private Wealth และการให้คำปรึกษาทางการเงิน
    4. Valeant Pharmaceuticals เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ของแคนาดา เจ้าของผลิตภัณฑ์รักษาดวงตาชั้นนำภายใต้แบรนด์ Bausch and Lomb และเครื่องมือแพทย์ด้านเสริมความงาม ได้แก่ Fraxel (รักษาหลุมสิวและริ้วรอย), Thermage (ยกกระชับใบหน้า) และ Vaser (สลายไขมันเฉพาะจุด)
    5. McKesson Corp. ผู้ให้บริการด้านการจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต่างๆ ให้กับทั้งผู้บริโภคและโรงพยาบาล รวมทั้งให้บริการให้คำแนะนำด้านระบบให้กับโรงพยาบาลและคลินิคต่างๆ เป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

  1. อยากลงทุน Global Silver Age Theme ต้องทำอย่างไร?
บลจ. CIMB Principal ได้นำกองทุน Global Silver Age มาให้ผู้ลงทุนชาวไทยได้เลือกลงทุน ใช้ชื่อว่า CIMB-Principal Global Silver Age Fund โดยเปิดขาย IPO ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2558 นี้ครับ
กองทุนนี้บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพของ CPR บริษัทในเครือ Amundi (อ่านว่า อะ-มุน-ดิ) บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศส ที่บริหารสินทรัพย์ขนาดใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลก
CPR ได้จัดตั้งกองทุน CPR European Silver Age ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2009 ลงทุนเฉพาะหุ้นในยุโรป โดยได้รับผลตอบแทนย้อนหลังนับแต่จัดตั้งกองทุนสูงถึง 116% สูงกว่าดัชนีอ้างอิง (MSCI Europe) กว่า 41% ต่อมาได้ขยายวงไปจัดตั้งกองทุน Global Silver Age เพื่อลงทุนทั่วโลกเมื่อเดือน พ.ย. 2014 ซึ่งได้ผลตอบแทนชนะดัชนีอ้างอิงเช่นกันครับ

โดย วิน พรหมแพทย์, CFA
Chief Investment Officer (CIO)
CIMB-Principal Asset Management Co. Ltd.
http://www.cimb-principal.co.th