Smart Life ฉบับนี้มีความยินดีที่จะแนะนำผู้บริหารหนุ่มที่ชื่อเสียงโด่งดังในกลุ่มผู้ทำธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน จนได้รับฉายาจากสื่อว่า สุภาพบุรุษ AEC หรือ Mr. AEC เพราะอะไร คุณสยาม รามสูต ประธานบริหาร บริษัท สยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จึงได้รับการกล่าวขานเช่นนี้และเขาทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จพาธุรกิจหลากหลาย อาทิ วุฒิศักดิ์ คลินิค บิวตี้ บัฟเฟต์ เครื่องดื่มชูกำลัง M150 โออิชิ และสินค้าอุปโภคบริโภคอีกมากมายไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน Smart Life จะพาท่านไปพบคำตอบ
ด้วยบุคลิกของชายหนุ่มอารมณ์ดี คุณสยามได้บอกเล่าถึงอดีตของชีวิตอย่างสนุกสนาน ชีวิตของเด็กชายที่เดินทางย้ายตามบิดาที่รับราชการไปทั่วประเทศไทย จนบอกกับเราว่า “ไม่มีเพื่อน” มาเริ่มต้นชีวิตวัยหนุ่มหลังจบการศึกษาระดับชั้น ปวส. ที่เชียงใหม่ ในกรุงเทพฯที่วัดบวรนิเวศวิหาร ด้วยการเป็นลูกศิษย์วัดไปบิณฑบาตพร้อมหลวงตา “อยู่วัดบวรฯกับหลวงตา ได้อาศัยทานข้าวกับที่พักฟรี ตอนเช้าก็เดินไปทำงานที่ถนนราชดำเนิน เดินทุกวัน เริ่มงานครั้งแรกที่บริษัทรังสิยาได้เงินรายวัน วันละ 80 บาท” ชีวิตการทำงานของคุณสยามเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพียง 2 ปี จากลูกจ้างรายวันกลายเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทด้วยเพราะความอดทน ขยัน เรียนรู้งานทุกอย่างที่ทำ ในวัยเพียง 26 ปี
เมื่อชีวิตต้องก้าวต่อไป คุณสยามได้พบรักและแต่งงานกับคุณสุพิชชา ที่ได้ชักชวนให้คุณสยามลาออกจากงานและเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน คุณสยามได้เล่าให้ Smart Life ฟังว่า “เขาเป็นคนชวนผมว่าแต่งงานกันไหม ถ้าแต่งงานแล้วต้องออกเลยนะ ออกมาทำธุรกิจกัน” เป็นจุดเริ่มต้นของ “กิ่งทองใบหยก” ที่ชีวิตคู่ใช้จุดเด่นของแต่ละฝ่ายมาส่งเสริมกัน “ถ้าผมคนเดียว ก็มาไม่ได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าเขาคนเดียวก็มาไม่ถึงทุกวันนี้เหมือนกัน เราผสมผสานและส่งเสริมกัน” ผู้บริหารหนุ่มเล่าต่อด้วยอารมณ์ขันว่า “พอออกมาก็หาเงินแต่งงาน มาขายทุเรียน ขายเงาะ เหมาจากสวนมาขายเป็นคันรถ คำนวณอย่างดีว่าจะได้กำไรเท่าไหร่ สุดท้ายขาดทุนผลไม้เสียหมด”
แต่ด้วยความมุ่งมั่น ชีวิตบทใหม่เริ่มต้นเมื่อ นำที่ดินของคุณพ่อภริยาไปกู้ธนาคารได้เงินทุนมาพร้อมกับได้รู้จักเจ้าของที่ที่จังหวัดตราดจึงชักชวนทำบ้านจัดสรร และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ขยายโครงการในจังหวัดตราดอีกหลายโครงการจนเจอเหตุการณ์ฟองสบู่แตกธุรกิจอสังหาเริ่มซบเซา คุณสุพิชชา ภริยาคู่ใจเริ่มคิดค้าขายหลายอย่างและมาลงตัวที่ข้าวสาร “ข้าวสารถ้าซื้อมาแล้วขายไปมันไม่ได้กำไร ผมมาคิดผสมข้าวสารแต่ละชนิดรวมกัน ทดลองหุงจนได้สูตรมาบรรจุใส่ถุงขาย กำไรดีมาก” ตรงนี้เองกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้ากับประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นต่อมา
จากการเป็นคนสู้งาน คู่ค้าจากประเทศกัมพูชาเริ่มติดต่อให้นำสินค้าอื่นมาจำหน่ายจนคุณสยามกลายเป็นพ่อค้าคนกลางที่ค้าขายสินค้าชายแดนจนประสบความสำเร็จอย่างดงามจนได้กลายเป็นตัวแทนขาย M 150 ที่ประเทศกัมพูชาให้กับบริษัทโอสถสภา ธุรกิจที่กัมพูชาเริ่มต้นด้วยการอาศัยเพื่อนที่ค้าขายอยู่ที่นั่นแต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิดธุรกิจขาดทุนและเป็นหนี้ จึงคิดอยู่ทำธุรกิจสำรวจตลาดที่กัมพูชาด้วยตัวเอง “เริ่มจากลุยกันนะครับ สร้างเองทำอะไรเองทั้งหมด ทำมา 3 ปีถึงมีกำไรสองปีแรกขาดทุนคนในเมืองไม่รู้จัก M150 แต่ตามตะเข็บชายแดนขายดี เราก็ใช้วิธีป่าล้อมเมือง หลังจากนั้นสินค้าอื่นก็ตามมา เรากลายเป็นเหมือนธุรกิจผูกขาดเพราะมีสินค้าอะไรมาเราขายหมดด้วยเรามีความพร้อมทุกด้าน”
เพราะ “คิดจริง ทำจริง” ธุรกิจจากกัมพูชาได้ขยายต่อไปยังประเทศลาว เวียดนาม และพม่า ครบกลุ่มประเทศ CLMV “ในทุกประเทศเราลงทุนในการขนส่ง สร้างช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมกับสร้างเครือข่ายให้แข็งแรง เราจึงเป็นเจ้าเดียวที่ค้าขาย สื่อเชิญไปสัมภาษณ์ก็ตั้งให้ผมเป็น สุภาพบุรุษ AEC กับประเทศลาวนั้นคนมองว่าเป็น Land Lock แต่สำหรับผมมองว่าเป็น Land Link เชื่อมโยงกับหลายประเทศ กับประเทศจีนนั้นกำลังสร้างรถไฟความเร็วสูงจากคุณหมิงมาเวียงจันทร์ ไทยเองก็มีจากกรุงเทพฯไปหนองคาย ไปเชื่อมกันที่เวียงจันทร์ ดังนั้นในอนาคตคนจีนจะหลั่งไหลมาเมืองไทยทางนี้” โครงการต่อไปนับว่าเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งโครงการ กับการเปิด Laos Duty Free Mall ที่ประเทศลาวที่รับรองว่าถูกที่สุดในอาเซียนติดกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่จังหวัดหนองคาย เป็นเขตเศรษฐกิจเฉพาะที่ร่วมมือกับรัฐบาลลาวที่ทุกคนสามารถไปทำการค้าได้โดยปลอดภาษี “การไปขายสินค้าที่ลาวไปเปิดเองไม่ได้ต้องมีคนลาวร่วมด้วยแต่ที่เขตเศรษฐกิจเฉพาะนี้ทำได้ทุกอย่าง คนไทยไปเปิดได้เลยมีรับจดทะเบียนให้ด้วย เป็น one stop service”
ชีวิตที่ต้องเดินทางคุณสยามมีความสุขกับรถที่ตัวเองเลือกคือรถโรลส์-รอยซ์ ที่เป็นรถที่สั่งทำเฉพาะตัวเอง เป็นรถคู่ใจที่ให้ความสุขและความปลอดภัย ก่อนจากกัน คุณสยามกล่าวทิ้งท้ายอย่างคนที่ประสบความสำเร็จและต้องการเห็นผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกันว่า “สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากไปทำต่างประเทศ ผมยินดีเป็นพี่เลี้ยงให้”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3087 วันที่ 13-16 กันยายน พ.ศ. 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น