วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เส้นลายมือ เศรษฐี 100 ล้าน มาดูกันเร็ว


ภาพลายมือหลักทรัพย์ ลายมือคนรวย ที่นำมาแสดงไว้ด้านบนนี้ เป็นเพียง 1 แบบตัวอย่างของมือคนที่่รวย หากไม่ได้เกิดมารวยตั้งแต่ต้น ก็จะมีโอกาสที่จะสร้างตัวเองให้ร่ำรวยได้ด้วยเส้นลายมือดังการวิเคราะห์ต่อไปนี้ (ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง)
หมายเลข 1 เส้นชีวิต จะเห็นว่าเส้นชีวิตมีปลายแยกออกบ่งบอกว่าในสุดท้ายชีวิตมั่นคงด้วยทรัพย์สินเงินทองและมีเส้นจากเส้นวาสนามาสัมผัสกับเส้นชีวิต หรือจะมองว่ามีเส้นแยกจากเส้นชีวิตไปรวมกับต้นเส้นวาสนาก็ได้และเส้นวาสนาแยกเป็นสามง่ามคล้ายกับต้นไม้แตกกิ่งก้าน เส้นวาสนาแบบนี้จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยมีรายได้จากหลายทางสามรถทำงานหรือประกอบอาชีพได้หลายอย่างพร้อม ๆกัน จึงทำให้มีรายได้มาก มีความมั่นคงกับการทำมาหาได้
หมายเลข2
เส้นสมองเกิดห่างจากเส้นชีวิตพอประมาณ ไม่ห่างมากเกินไป และเส้นสมองมีลักษณะดีมากคือเส้นคมชัดไม่แตกไม่เป็นเกาะ เส้นยาวพอประมาณ ทิศทางปลายเส้นเข้าแนวอังคารสูง แสดงถึงสมองที่มีคุณภาพ เป็นนักคิด นักวางแผนที่ดี และกล้าได้กล้าเสียแต่ก็มีเหตุผลเพียงพอ กล้าตัดสินใจด้วยความเหมาะสมและทันต่อเวลาและสถานการณ์ (หากเส้นสมองเกิดรวมกันเส้นชีวิตลึกเข้ามาในมือ จะเป็นคนที่ลังเลขาดความเชื่อมั่นหรือขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าที่ควร และไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ )
หมายเลข3 เส้นใจหรือจิตใจ เป็นเส้นที่คมชัด ไม่แตก ไม่เป็นโซ่ ไม่มีเกาะ ยาวเข้าเนินพฤหัส(ใต้นิ้วชี้) แสดงถึงจิตใจที่มั่นคงมีความตั้งใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วจะทำให้ได้และมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายให้สำเร็จ เป็นคนมีคุณธรรมสูง จิตใจดีงามและมักจะได้รับความสุขความสำเร็จในชีวิตรักและครอบครัวเป็นอย่างดี ความรักลงตัว ครอบครัวดีจะเป็นพื้นฐานของความสำเร็จอีกหลาย ๆ อย่างตามมา ปลายเส้นใจแยกออกเล็กน้อย หมายถึงความพอเหมาะพอดีในเรื่องการใช้เหตุผลควบคุม ในขณะที่มีความเห็นอกเห็นใจหรือเข้าใจในอารมณ์ของคนอื่น รวมถึงเป็นคนให้ความสำคัญกับคำว่าศักดิ์ศรีและเกียรติยศ
หมายเลข4 เส้นวาสนา ยาวตรงถึงเนินเสาร์ ในมือนี้เส้นวาสนา (หมายเลข 1) คือเส้นเดียวกันเป็นเส้นที่ยาวต่อเนื่อง ไม่ขาดตอนหรือมีเส้นตัด จะมีแผ่วบางลงบ้างช่วงระหว่างเส้นสมองกับเส้นจิตใจ เส้นวาสนายาวต่อเนื่องแสดงว่าการประกอบอาชีพ หรือธุรกิจหน้าที่การงานมีความต่อเนื่อง ไม่สะดุด ไม่มีอุปสรรค จะมีบ้างช่วงที่เส้นจางหรือบางลง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะเส้นไม่ขาดหรือเปลี่ยนตำแหน่ง แสดงว่ามีปัญหาก็แก้ไขได้ คนที่มีเส้นวาสนาดีเข้าไปสิ้นสุดที่ใต้โคนนิ้วกลาง บริเวณเนินเสาร์ และเนินเสาร์ก็ต้องเต็มมีความกว้างได้มาตรฐาน(ไม่แฟบหรือสูงเกินไป วัดระยะจากเส้นรัดข้อนิ้วกล่างล่างสุดถึงเส้นสมองไม่ต่ำกว่า 25 มม.)ก็จะมีหลักทรัพย์ หรือมีทรัพย์สินเงินทองมั่นคงได้อย่างแน่นอน (ดูเนินหลักทรัพย์ที่บริเวณเนินศุกร์ประกอบด้วย)
หมายเลข5 เส้นอาทิตย์หรือเส้นสำคัญ เกิดใต้นิ้วนางบริเวณเนินอาทิตย์ เส้นอาทิตย์เป็นพี่เลี้ยงหรือส่งเสริมเส้นวาสนา เส้นนี้เกิดขึ้นจากที่ใดก็ได้ปลายเส้นวิ่งเข้าเนินอาทิตย์ เนินอาทิตย์ที่สมบูรณ์และได้มาตรฐานคือวัดจากเส้นรัดข้อนิ้วนางลางสุดถึงเส้นใจมีระยะไม่น้อยกว่า 30 มม. เนินไม่แฟบแบนและไม่แคบเกินไป จะส่งเสริมเส้นอาทิตย์ จากภาพที่นำมานี้เส้นอาทิตย์เกิดขึ้นจากเส้นจิตใจ แสดงว่าเจ้าของมือมีความปรารถนาที่จะมีชื่อเสียงเงินทอง หรือมีความเด่นดังและสามารถทำได้ ด้วยได้รับอิทธิพลจากเส้นอาทิตย์นี้ซึ่งเป็นเส้นที่สวย ตั้งตรงไม่มีเส้นตัด คนที่มีเส้นอาทิตย์จะทำให้ชีวิตเดินเข้าสู่เป้าหมายได้เร็วกว่าคนอื่น คือมีตัวช่วย มีพลังพิเศษมาสนับสนุน เส้นอาทิตย์เปรียบได้กับดวงอาทิตย์ คือมีแสงสว่างในตัวเองและให้แสงสว่างแก่สรรพสิ่งอื่น ๆ ด้วย หรือหากจะมองแบบดาวในมือท่านก็เปรียบเป็นสิงโตผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่สัตว์ คือเจ้าของมือจะมีความกล้าหาญ มีความรอบรู้ ฉลาด และมีพลัง จึงทำให้พิชิตเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว คนที่มีชื่อเสียงเด่นดังทุก ๆ คนจะมีเส้นอาทิตย์ที่สวยงามเสมอ
หมายเลข6 เส้นพุธ เป็นเส้นที่ส่งเสริมเส้นอาทิตย์ด้วย เป็นเส้นที่่สื่อถึงการเจรจา การใช้วาทะศิลป์ ความเฉลี่ยวฉลาด ความมีเหตุผลและความซับซ้อนในมิติการคิดอ่าน การเข้าถึงจิตใจของบุคคลอื่น การมีสัมผัสที่ 6 การการมีสุขภาพที่ดีหรือรู้จักดูแลใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ จึงเป็นคนที่มีสุขภาพดี และแจ่มใสอยู่เสมอ
หมายเลข7 เส้นจิตใจที่มีปลายแยกออกเป็นง่ามหรือปากซ่อม หมายถึงความเข้าถึงจิตใจคนอื่น เป็นนักปกครอง หรือบริหารจัดการได้ดีเยี่ยม รู้จักเข้ากับคนอื่น ๆ รู้วิธีแก้ปัญหาเรื่องคนได้อย่างดีเยี่ยม ตรงนี้คือลักษณะเด่นอีกหนึ่งประการของการเป็นผู้นำหรือเจ้าของกิจการจำเป็นที่จะต้องมี และอีกหนึ่งความหมายของปลายแยกเข้าสู่ใกล้ใต้โคนนิ้วชี้คือเกียรติยศ เป็นคนมีจิตใจรักเกียรติรักศักดิ์ศรี จึงหาวิธีหรือช่องทางเพื่อความมั่นคงและมีศักดิ์ศรีในสังคมเพิ่มเติมจากความร่ำรวยมีเงินทองแล้ว
สรุปนะครับว่าการที่จะเป็นคนรวยได้นั้นต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างประกอบกัน แต่ก็ใช่ว่าจะต้องมีครบทุกองค์ประกอบ บางคนเส้นชีวิตดี สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยประกอบกับเส้นสมองดีก็รวยได้แต่จะรวยมากสู้กับคนที่มีวาสนาดีและเส้นอาทิตย์ดีคงจะไม่ใช่ บางคนเกิดมาไม่รวย เส้นสมองดี เส้นจิตใจดีก็อาจได้ทุนเรียนและมีโอกาสร่ำรวยได้เช่นกัน แต่ก็ต้องดูุเส้นวาสนาและเส้นอาทิตย์ประกอบ เส้นวาสนาคือเส้นทีจะส่งผลเรื่องการงาน อาชีพ การดำเนินชีวิต เส้นอาทิตย์จะส่งเสริมเรื่องโอกาส ความเฉลียวฉลาด ความมีชื่อเสียงและโด่งดัง อย่างไรก็ตาม จะดูลายมือเพียงเส้นหนึ่งเส้นใด หรือตำแหน่งใด ๆ เพียงลำพังไม่ได้ ต้องดูประกอบกัน เพราะแต่ละคนก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ดังนั้นผู้ที่เป็นนักพยากรณ์ลายมือที่มีประสบการณ์หรือมีความชำนาญพอก็ย่อมบอกได้ว่าท่านจะรวยหรือไม่ เริ่มต้นรวยเมื่อใด สุดท้ายในอนาคต หรือบั้นปลายชีวิตจะมั่นคงหรือร่ำรวยมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าคุณมีเส้นทุกเส้นครบ แต่ไม่สร้างอะไรเลย มันจะรวยได้อย่างไร??

http://horoscope.sanook.com/91923/

ดีลตรง "70ธุรกิจยักษ์" ทั่วโลก สิทธิพิเศษรายตัวบูม 10 อุตฯอนาคต

updated: 28 พ.ย. 2558 เวลา 10:30:59 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์รั

ฐกางสูตรส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ให้สิทธิพิเศษภาษี-ถือครองที่ดิน 99 ปี ดีลตรงต่างชาติ 70 บริษัทต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่-อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ-ท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี-เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ-การแปรรูปอาหาร ดัน 5 กลุ่มใหม่ ยึดโมเดลชายฝั่งทะเลตะวันออกเป็นต้นแบบ เอกชนขานรับ
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยมุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การเร่งรัดเบิกจ่ายโครงการลงทุนภาครัฐ การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และคนซื้อบ้าน ซึ่งหลายมาตรการเริ่มปรากฏผลทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ



ล่าสุด กระทรวงเสาหลักด้านเศรษฐกิจ 7 กระทรวงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามนโยบายระยะยาวเพื่อสร้างอนาคตของประเทศไทย ที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเร่งขับเคลื่อนผลักดันด้วยการปรับโครงสร้างด้านการผลิตทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการบริการ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการรับฟังความคิดเห็นและการให้ข้อเสนอแนะโดยนักลงทุนและเจ้าของเทคโนโลยีสำคัญทั่วโลกกว่า 70 ราย นำมากำหนดแผนและนโยบายในการส่งเสริมการลงทุน "อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่อนาคต"

ชูธง 10 อุตฯเป้าหมาย

เป็นเหมือนคู่มือแนะนำและดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทย ประกอบด้วย 1.การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม (First S-Curve) ได้แก่ 1.1 อุตฯยานยนต์สมัยใหม่ (Next-generation Automotive) 1.2. อุตฯอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) 1.3.อุตฯการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affuent, Medical and Wellness Tourism)

1.4 การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnology) และ 1.5 อุตฯการแปรรูปอาหาร (Food for the Future)

2.เพิ่ม 5 อุตฯอนาคต (New-S-Curve) ซึ่งเป็นอุตฯใหม่ที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและมีผู้สนใจลงทุน ได้แก่ 2.1 อุตฯหุ่นยนต์ (Robotics) 2.2 อุตฯการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics) 2.3 อุตฯเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) 2.4 อุตฯดิจิทัล (Digital) และ 2.5 อุตฯการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)

เปิดพื้นที่ส่งเสริมอุตฯอนาคตไทย

แนวทางพัฒนาระยะสั้น-ปานกลาง จะยกระดับอุตฯเดิม 5 อุตฯเป้าหมายที่เป็น First S-Curve เพื่อต่อยอดการเจริญเติบโต ระยะยาว พัฒนาอุตฯแห่งอนาคต 5 อุตฯเป้าหมาย หรือ New-S-Curve เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยแบบก้าวกระโดด โดยในส่วนของอุตฯอนาคตกำหนดพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนดังนี้ อุตฯหุ่นยนต์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก อุตฯการขนส่งและการบิน พื้นที่สนามบินพัทยา-อู่ตะเภา อุตฯการแพทย์ครบวงจร พื้นที่วิจัยและพัฒนาให้อยู่ในโรงเรียนแพทย์ คลัสเตอร์การแพทย์ เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) พัทยา อุตฯเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อยู่ในพื้นที่ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และอุตฯต่อเนื่องอยู่บริเวณมาบตาพุด อุตฯดิจิทัลอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น กทม. เชียงใหม่ ภูเก็ต

ยึดโมเดลนิคมอุตฯภาคตะวันออก

ทั้งนี้ จากที่ปัจจุบัน 6 ใน 10 อุตฯเป้าหมาย

ทั้ง First S-Curve และ New-S-Curve ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก คือ ยานยนต์แห่งอนาคตอยู่ในพื้นที่ ชลบุรีและศรีราชา อุตฯอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะอยู่ในสมุทรปราการ ชลบุรี ศรีราชา ท่องเที่ยวระดับคุณภาพอยู่ที่พัทยา ระยอง อุตฯหุ่นยนต์อยู่ในชลบุรี ศรีราชา อุตฯการบินอยู่ที่อู่ตะเภา สัตหีบ และอุตฯไบโอเคมี อยู่ที่มาบตาพุด จากปัจจัยพื้นฐานความแข็งแกร่งจากในอดีต รัฐบาลจึงจะนำเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกมาเป็นตัวจุดประกายในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตฯเป้าหมายทั้ง 10 อุตฯ

ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จในการดึงนักลงทุนจากทั่วโลกต้องมีกลไกการกำกับดูแลการพัฒนาอุตฯเป้าหมายและเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการการลงทุนอุตฯเป้าหมาย ทำหน้าที่กำหนดแผนการลงทุน กำหนดผู้ลงทุนรายสำคัญ 2.คณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม มีหน้าที่เจรจากับผู้ลงทุนรายสำคัญ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทั่วไปและสิทธิประโยชน์พิเศษ 3.คณะกรรมการกำกับดูแลเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษ ทำหน้าที่อนุมัติแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการการลงทุนคลัสเตอร์ โครงสร้างพื้นฐาน และบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีสำนักงานบริหารเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษ ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ดำเนินการด้านสิทธิประโยชน์ และติดตามความคืบหน้าในการติดต่อและชักจูงนักลงทุนกลุ่มเป้าหมายและเป็นเลขานุการให้คณะกรรมการระดับชาติ

ตั้งกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกันเพื่อผลักดันให้การลงทุนในอุตฯเป้าหมายเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม รัฐบาลกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุน ประกอบด้วยมาตรการทางการเงิน มาตรการทางการคลัง และมาตรการส่งเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนภายใต้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ทั้งนี้ กรอบนโยบายและมาตรการส่งเสริมทั้งด้าน

การเงิน การคลัง และมาตรการอื่น ๆ ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และ 7 กระทรวงเศรษฐกิจเสนอ และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว

งัดมาตรการการเงิน-การคลังหนุน

ในส่วนของมาตรการทางการเงินจะจัดตั้ง "กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม" ขึ้น ทำหน้าที่ให้เงินสนับสนุนให้เงินกู้ยืม หรือชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ หรือเป็นกองทุนในการลงทุนโครงการลงทุนพิเศษ โดยสามารถให้เงินสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสร้างบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตฯเป้าหมาย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม

มาตรการการคลัง อาทิ กำหนดสิทธิประโยชน์พิเศษ ยกเว้นอัตราภาษีนิติบุคคลเป็นเวลา 10-15 ปี สำหรับโครงการที่มีความสำคัญสูงในอุตฯเป้าหมาย เพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์สูงสุด 8 ปี ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนทั่วไป กำหนดสิทธิประโยชน์พิเศษยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้เชี่ยวชาญไม่เกิน 15% อัตราภาษีรายได้บุคคลธรรมดา

ของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับนานาชาติ และไม่เกิน 15% สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับสูง และผู้บริหารระดับสูงที่จำเป็นในโครงการลงทุน และสามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศ และแก้ไขโครงสร้างอากรขาเข้าชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหรือให้บริการในอุตฯเป้าหมาย (หรือใช้มาตรา 12 ของกระทรวงการคลัง) เนื่องจากอัตราอากรของชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์สูงกว่าผลิตภัณฑ์ รวมทั้งยกเว้นอากรขาเข้าของนำเข้าเพื่อทำการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบ

สิทธิเข้า-ออก ปท.-ถือที่ดิน 99 ปี

ส่วนมาตรการอื่น ๆ ประกอบด้วย การกำหนดสิทธิประโยชน์การเข้าออก และการทำงานของผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากต่างประเทศ เทียบเท่าคนไทยครั้งละ 5 ปี ตลอดอายุการส่งเสริมการลงทุน กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ 100% ในระยะเริ่มต้น หรือกรณีเป็นการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร ซึ่งนักลงทุนไทยไม่มีความเชี่ยวชาญ และกำหนดสิทธิประโยชน์พิเศษให้ผู้ลงทุนต่างชาติ การถือครองที่ดิน 99 ปี โดยขายคืนให้รัฐบาลเมื่อครบกำหนด

ธุรกิจโรงพยาบาลหนุนเต็บสูบ

นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล และที่ปรึกษาสมาคมโรงพยาบาลเอกชน มองว่า นโยบายดังกล่าวควรทำมานานแล้ว เพราะธุรกิจการแพทย์เป็นอุตฯบริการ และการจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคหรือของโลกในอนาคตมีความจำเป็น ต้องมีความชัดเจนเชิงนโยบายและปรับปรุงข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งเชิงกฎหมายการลงทุน การขอวีซ่าเข้าประเทศ การผลิตบุคลากรการแพทย์ที่ต้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิต เพื่อตอบโจทย์และลดการขาดแคลน

"ควรทำมานานแล้วและทำให้ชัดเจน วันนี้มีการพูดแล้วว่าธุรกิจเฮลท์แคร์น่าจะเป็นธุรกิจบริการดาวเด่น อาทิตย์ที่แล้วมีการเรียกคุยไปแล้ว 1 รอบ ภายในสัปดาห์นี้กำลังทำแผนอยู่ น่าจะหารือกันอีกเป็นระยะ ๆ นโยบายดังกล่าวไม่มีกลุ่มไหนได้ประโยชน์ แต่เป็นประเทศไทยได้ประโยชน์ ทุกคนคาดหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเฮลท์แคร์ เพราะการเปิดอาเซียนจะเริ่มขึ้นแล้ว"

สิทธิประโยชน์ใหม่จูงใจพอ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มั่นใจว่าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษรูปแบบคลัสเตอร์จะเกิดขึ้นได้แน่นอน

จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่รัฐใช้เป็นเครื่องมือเร่งรัดให้เกิดการลงทุนจริง อาทิ มาตรการทางภาษีของบีโอไอ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี ลดหย่อนภาษี 50% เพิ่มเติม 5 ปี ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และมาตรการทางการคลังที่อยู่ระหว่างพิจารณาให้กิจการเพื่ออนาคตยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10-15 ปี และจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 0-15%

สำหรับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในระดับนานาชาติที่ทำงานในพื้นที่กำหนดทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมถึงกองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศ วงเงิน 10,000 ล้านบาท และอื่น ๆ ถือว่าเพียงพอแล้ว และกลุ่มนักลงทุนอุตฯเป้าหมายอย่างไฮเทคโนโลยีสนใจเข้ามาลงทุนมากกว่าเดิม เพราะปัจจัยหลายอย่างจูงใจ เช่น สิทธิประโยชน์ เศรษฐกิจที่กำลังฟื้น เห็นได้จากยอดขอส่งเสริมการลงทุนมีเกือบ 2,000 โครงการ มูลค่า 6.9 แสนล้านบาท

"ส่วนที่มองว่าสิทธิประโยชน์ที่รัฐให้ยังไม่พอ อาจมีแค่บางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งไม่อยากให้เอาไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์และค่าแรง ควรมองว่าไทยเองมีความพร้อมและเหนือกว่าคู่แข่งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค โลจิสติกส์"

กลุ่มยานยนต์ขานรับลงทุน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า กลุ่มยานยนต์เป็นส่วนหนึ่งในอุตฯเป้าหมายที่ถูกผลักดันให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ และยกระดับสู่การเป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ มั่นใจว่ารัฐเดินมาถูกทางกับการพัฒนาอุตฯในประเทศ และทุก ๆ มาตรการส่งเสริมที่ออกมาจะเป็นส่วนสำคัญให้นักลงทุนรายเก่าที่ลงทุนอยู่แล้วไม่ย้าย

การผลิตไปไหน แต่จะทำการวิจัยเพิ่มเพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้ารองรับการขยายธุรกิจแทน นอกจากนี้นักลงทุนรายใหม่จะหันกลับมาพิจารณาลงทุนในไทยมากขึ้น จากเดิมที่จะไปลงทุนในประเทศที่มีค่าแรงถูก แต่ไม่เอื้อในเรื่องความพร้อมอื่น ๆ

"ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มยานยนต์กระปรี้กระเปร่าขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิตรายเล็ก ๆ ในท้องถิ่นสอบถามเข้ามามาก ปัจจุบันกลุ่มยานยนต์มีภาคการผลิตที่เป็นคลัสเตอร์กันอยู่แล้ว และส่วนใหญ่กระจายตั้งโรงงานอยู่ในภาคตะวันออก ทั้งชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา โดยกลุ่มอุตฯยานยนต์เองมองเห็นศักยภาพของพื้นที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่าน่าจะพัฒนาเป็นเมืองคลัสเตอร์ยานยนต์/ชิ้นส่วนยานยนต์"

Power up ด้วย Power nap


การงีบระหว่างวัน. อย่างถูกที่และถูกเวลา มีประโยชน์ !!
การงีบที่มีประสิทธิภาพ หรือ Power nap อยู่ที่ 20. นาที ช่วยเพิ่มความสดชื่น สดใส ใน...การทำงาน
ส่วนการงีบที่กินเวลาเกิน 30. นาที - 1 ชั่วโมง อาจทำให้คุณง่วงค้าง ไม่เหมาะในการงีบระหว่างวันทำงาน
ส่วนการงีบที่ประมาณ 1.30 ชม ได้ประโยชน์เหมือนการนอนปกติ แต่กินเวลานานเกินไป ไม่เหมาะกับวันทำงาน
บริษัทดังๆในต่างประเทศ สนับสนุนให้คนในองค์กรมีเวลา Nap ระหว่างวัน
บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนก็ power nap เป็นประจำ
ถ้าเรามีเวลาพัก 1. ชั่วโมง จัดเวลาทานอาหาร แล้ว หาเวลางีบสัก 20. นาที อย่าให้เกิน 30. นาที ทำให้เรา fresh ขึ้น ไม่ง่วงค้าง และทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นด้วยครับ. ลองดูครับ
Power up ด้วย Power nap
‪#‎มาpowernapกันไหม