ก็พอดีมีโอกาสเดินไปสถานี Shinbashi แบบว่าขอเข้าเมืองไปเดินกินซ่ าสวยๆ สักที แต่เผอิญฉุกคิดได้ว่า เอิ่ม อยากได้ที่ม้วนผมสักอันนึง แล้วก็อยากได้ที่เอาไปใช้กั บไฟที่ไทยได้ด้วย เลยคิดได้ว่าที่สถานีนี้มีห้ างลาบี้ (Yamada denki) ด้วยนี่นา แวะสักหน่อย เผอิญว่า เห็นมีสองซีกเลย หน้าสถานียามาโนเตะก็มี แล้วชะโงกไปอีกนิดก็มี ใหญ่กว่าด้วย
ก็เลยเลือกอีกฝั่งคือทางสี่ แยกที่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดินฝั่ งสาย Metro Ginza จะดีกว่า เห็นอยู่กลางแยก ตึกใหม่ ใหญ่ดี เลยเข้าไปโฉบสักนิด ก็ไม่คิดไร เห็นเค้าเขียนว่าห้าง TAX FREE
เข้ามาถึงก็เห็นเค้ามีโปร เห็นว่านอกจากจะลดภาษี 8% แล้วถ้ามีบัตรเครดิตอื่นนอกจาก JCB จะลด 5% ถ้าเป็น JCB ลด 7% ดีเนอะ สมัยนี้เค้าลดกันแบบเยอะมาก เป็นตัวเลือกชั้นเลิศ
แต่พอเข้ามาคืออึ้งเลย ถึงกับงงเล็กน้อยว่ามีแผนกเครื่ องสำอางที่ชั้น 1 แต่ก็คิดในใจว่า เดี๋ยวนี้ห้างเค้าคงขายหลายอย่ าง ก็ยังไม่ใช่เป้าหมายยังไม่ อยากแวะดูเครื่องสำอาง แต่คือนิสัยเสียด้วย ไม่ค่อยชอบอ่านว่าชั้นไหนมีอะไร เป็นคนชอบผจญภัย เลยขึ้นบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆ
ไปที่ชั้น 2 ดันไปเจอกับขนม น้ำ ของฝากเป็นกล่องๆ คล้ายๆ ตึกม่วง แต่อาจจะไม่ได้เยอะเท่า อุ๊ยตะ !! นี่ฉันจะเข้ามาดูที่ม้วนผมนะ ลาบี้ต้องมีพวกคอม พวกโทรศัพท์สิ แล้วนี่ไม่เห็นมีเครื่องใช้ไฟฟ้ าเลยเหอะๆ แล้วบอกเลยว่าฉันเลือดกรุ๊ปโอ จะไปซื้ออะไรเนี่ย ถ้าเจออย่างอื่นระหว่างทาง ไขว้เขวได้ง่ายๆ คือเจอกับขนมเฉยๆ ก็ยังดี แต่ว่าดันไปเจอกับขนมลดราคาสิ คาลบี้ ที่เคยขายเกือบสามร้อยเยนก็เหลื อ 100 เยน (แต่เราต้องบวกภาษีเพราะเราไม่ มีวีซ่าท่องเที่ยว) นักท่องเที่ยวก็รับกันไป 100 เยน ที่เคยขาย 150 เยนก็เหลือ 59 เยน อุ๊ย! เปลี่ยนเป้า ขอหลงอยู่ในดงขนมสักแป๊บนะ ห้าาาา
แต่ครั้งนี้หนักกว่าอีกคร้า ดันไปเจอกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง 555 ก็มีถูกบ้าง แพงบ้าง ว่ากันไปตามสภาพ แต่พูดเลยว่าเสียเวลาไปกับชั้ นนี้มาก เพราะมันละลานตาไปหมด เอาหล่ะ เราไปเจอกระเป๋าที่ชอบละ ต้องรีบหนี เพราะเดี๋ยวจะอยากได้ ลาก่อนกระเป๋าที่รัก ไว้มีงบซื้อแล้วพี่จะกลั บมาสอยนะจ๊ะ
เอาหล่ะ ที่ม้วนผมของฉัน ต้องไปจัดให้ได้ แต่แล้วขึ้นมาชั้น 4 ก็ยังเจอกระเป๋าแบรนด์เนมอยู่ดี หูยยย หลอนจัง ขอลาก่อนนะ พี่ไม่ได้เตรียมงบมาเพื่อกระเป๋
จากนั้นไปที่ชั้น 5 ดีกว่าเผื่อเจอเป้าหมาย ก็อีกละค่ะ เจอเครื่องครัว กระติกน้ำ และเครื่องครัวถูกใจมาก ลดราคาด้วย อิอิ ขออนุญาตสอย ตอนนี้ทั้งขนม ทั้งเครื่องครัว กระเป๋าเดินทางมีตั้งแต่แพงมาก จนถูกเรียกว่ามีหลายไซด์ หลายราคา แต่คือถามว่าที่ม้วนผมอยู่ไหน
ขึ้นไปที่ชั้น 6 ต่อดีกว่า เผื่อมีที่ม้วนผม ขึ้นไปเจอเครื่องสำอาง ยาสระผม มาร์กหน้า ยา และพวกปากกา สเตชั่นนารี่ต่างๆ อืมฉันหมดหวังกับสิ่งที่
ฉันก็เดินขึ้นไปที่ชั้น 7 ต่อ นี่เข้ามาถึงเราก็เจอกับเน็ตซิ มการ์ด สำหรับนักท่องเที่ยวเลย ก็ดีนะ มีแบบหลายวันมากๆ และหลายราคา เรียกว่าถ้าเพื่อนๆ มาญี่ปุ่นแล้วพลาดที่เช่า Wifi มาก็มาจัดหาซิมกันที่นี่เหอะ ก็ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ กันหน่อย มีบอกขั้นตอนการใช้ด้วยน่าจะไม่ ยากนะ
สิ่งที่อยากดู แลดูจะไม่เป็นที่สนใจสำหรับฉั นเท่าไหร่ ที่นี่มีของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ เพื่อนๆ จะสามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้ นี่คือเค้าเลือกมาแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นี่จึงมีน้ อยกว่าห้างลาบี้ปกติไง
ฉันก็เดินเรื่อยเปื่อยมาก ไปหากล้อง หาเคสโทรศัพท์ นี่มันอะไร ทำไมฉันสนใจอย่างอื่นต่อไปเรื่ อยๆ 555
และจากนั้น ฉันก็ลองขึ้นไปชั้น 8 ต่อ ก็พบว่ามีของเด็กเล่น โอเคร! งานนี้สบายใจละ เดินได้ครบทุกชั้น และฉันก็เดินลงไปที่ชั้น 1 และบอกลาห้างลาบี้ด้วยความพังกั บขนมและเครื่องครัว เหอะๆ คงต้องหอบสรรพสิ่งนี้ไปเดินกิ นซ่าสินะ หมดกันความไฮโซบ้าหอบฟางตลอด!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น