วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

พาณิชย์ปั้นแฟรนไชส ์SMEs เป้าเจาะตลาดโลกปั๊ม 5 หมื่นล.

พาณิชย์เตรียมชงแพ็กเกจช่วยเอสเอ็มอีเข้า ครม. สัปดาห์หน้า เป้าสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการทั้งในระดับท้องถิ่น ลุยอาเซียน และตลาดโลก เล็งช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ชูดันแฟรนไชซีพันธุ์ไทยปักฐานต่างประเทศ สร้างนักค้ามืออาชีพ 1.5 หมื่นราย สั่งลุยค้าออนไลน์ช่วยขยายส่งออก
1suwit
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์(พณ.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะเสนอแพ็กเกจช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม(เอสเอ็มอี)ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เบื้องต้นจะเน้นการสร้างตลาดกลางให้เอสเอ็มอีเพื่อให้มีความยั่งยืนในการขายสินค้า และเชื่อมโยงเอสเอ็มอีไปสู่ตลาดโลก โดยจะใช้งบ 4-5 พันล้านบาทซึ่งจะเป็นการพัฒนาต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย
“การพัฒนาเอสเอ็มอีสู่ตลาดโลกไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการสร้างและขยายแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลกคือการพัฒนาผู้ขายแฟรนไชส์รายใหม่ (แฟรนไชซอร์) 300 ราย และสร้างผู้ซื้อแฟรนไชส์รายใหม่ (แฟรนไชซี) อีกประมาณ 9 พันราย รวมถึงพัฒนาการขยายตลาดของแฟรนไชส์เดิมสู่ตลาดโลกโดยคาดจะสามารถพัฒนาแฟรนไชซอร์รายเดิมได้ 300 ราย และสามารถสร้างแฟรนไชซีในต่างประเทศได้อีก 1.8 พันราย”
ส่วนการสร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอีในระดับท้องถิ่นนั้น จะมีโครงการต่างๆ ได้ เช่น การสร้างนักการค้ามืออาชีพ สร้างแผนธุรกิจ เชื่อมโยงเครือข่ายและขยายตลาดจากระดับท้องถิ่นไปยังอาเซียนก่อนไปสู่ตลาดโลก คาดว่าภายใน 3 ปีจะสร้างนักการค้ามืออาชีพได้ 1.5 หมื่นราย การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อชุมชน เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ด้วยการสร้างแผนธุรกิจ คาดจะผลักดันให้เกิดวิสาหกิจเพื่อชุมชนได้ 5 พันราย,การยกระดับตลาดกลาง ที่มีอยู่ประมาณ 54 แห่งให้เป็นศูนย์กลางการซื่อขายสินค้าเกษตรที่มีประสิทธิภาพ และโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น เพิ่มการหมุนเวียนของรายได้ท้องถิ่น คาดจะพัฒนาตลาดชุมชนได้ 231 แห่งทั่วประเทศ ส่วนการพัฒนาเอสเอ็มอีสู่อาเซียนเน้นขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยขยายตลาดสู่กลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ก่อน รวมถึงเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ผลิตสินค้าเอสเอ็มอี และสินค้าโอท็อปให้สามารถขยายตลาดเข้าสู่ตลาดค้าส่ง-ค้าปลีกไทยด้วย คาดว่า จะผลักดันให้ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกไทยให้ขยายตลาดไป CLMV(กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ได้ 45 ราย และขยายตลาดสินค้าของเอสเอ็มอีและโอท็อปเข้าสู่ค้าปลีก – ค้าส่งได้ 2.31 พันราย
ดร.สุวิทย์กล่าวเพิ่มเติมยังมีแผนพัฒนาเอสเอ็มอีให้มีขีดความสามารถในการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เช่น เว็บไซต์ thaicommercestore.com คาดจะสามารถผลักดันได้ 2.1 หมื่นราย โครงการเว็บไซต์ thaitrade.com และ SOOK (Small Order OK) โดยจะขยายฐานสมาชิกและลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าไทย และผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com และพัฒนาตลาด B2B Marketplace เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้ทางออนไลน์ โดยคาดจะเพิ่มผู้ขาย 3 หมื่นรายภายใน 1 ปี เพิ่มผู้ซื้อเป็น 2 แสนรายใน 1 ปี และเพิ่มจำนวนสินค้าที่ขายเป็น 4 แสนรายการใน 1 ปี
กระทรวงพาณิชย์ยังอยู่ระหว่างการปรับยุทธศาสตร์การค้าของประเทศด้วย โดยจะปรับการทำงานของทูตพาณิชย์ ให้มาเน้นเจาะตลาดรายเมือง และเน้นในกลุ่มอาเซียน และการค้าชายแดนให้มากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3090 วันที่ 24-26 กันยายน พ.ศ. 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น