“การมีเอกสารแสดงรายได้ที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้ซื้อบ้านให้ผ่านได้ ถึงจะทำงานกับกิจการของครอบครัวก็ตาม” – K-Expert
มีหลายคนที่เมื่อเรียนจบแล้ว เลือกที่จะทำงานดูแลกิจการของครอบครัว แต่ด้วยความเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว การจ่ายค่าจ้างหรือเงินเดือน ก็อาจไม่ได้ชัดเจนเหมือนพนักงานทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นวิธีการจ่าย จำนวนเงินเดือน หรือตำแหน่งงานที่รับผิดชอบ จึงทำให้หลายคนที่เลือกทำงานกับครอบครัวประสบปัญหาในการยื่นกู้ซื้อบ้าน แล้วความชัดเจนในการทำงานกับครอบครัวจะพิสูจน์ให้ธนาคารรู้ได้อย่างไร K-Expert มีคำตอบค่ะ
Picture Reference: www.bostonglobe.com
รายได้ต้องเข้าระบบบัญชีเงินเดือน
ถึงแม้จะทำงานกับครอบครัว แต่หากรับรายได้จากครอบครัวเป็นแบบค่าจ้างหรือเงินเดือน ก็ถือว่าเราเป็นพนักงานคนหนึ่งของกิจการค่ะ และเมื่อมีรายได้เป็นแบบเงินเดือน การรับเงินจึงควรรับผ่านระบบบัญชีเงินเดือน หรือที่เรียกกันว่า Payroll เหมือนๆ กับพนักงานประจำทั่วไปค่ะ โดยลักษณะการรับเงินผ่านระบบ Payroll นายจ้างจะจ่ายเงินเดือนให้ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่ลูกจ้างหรือพนักงานเปิดไว้กับธนาคาร เพื่อรองรับเงินเดือนนั่นเอง ที่สำคัญการรับเงินเดือนผ่านระบบ Payroll ในสมุดบัญชีเงินฝากจะต้องแสดงรหัส (Code) เป็นรหัสเฉพาะของ Payroll ตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งจะไม่เหมือนกับรหัสการโอนเงินเข้าบัญชีแบบทั่วๆ ไป ดังนั้นหากเรามีการรับเงินเดือนผ่านระบบ Payroll แล้ว ในสมุดบัญชีเงินฝากจะแสดงยอดจำนวนเงินเดือนและมีรหัสที่แสดงว่ามีการรับเงินผ่านระบบ Payroll เราก็สามารถใช้รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) จากบัญชีนี้ เป็นหลักฐานในการยื่นกู้ซื้อบ้าน ซึ่งช่วยยืนยันรายได้และการทำงานของเราได้ค่ะ
ทำงานจริงต้องมีเอกสารยืนยัน
สำหรับเอกสารที่ใช้ในการยื่นกู้ซื้อบ้าน เพื่อแสดงรายได้และยืนยันการทำงานกับกิจการของครอบครัวจะใช้เอกสารเช่นเดียวกับการยื่นกู้ซื้อบ้านกรณีเป็นพนักงานประจำค่ะ ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมให้กับธนาคาร ได้แก่
- สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- เอกสารการเสียภาษี เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง โดยต้องเป็นบัญชีเงินฝากที่ใช้รับเงินเดือน
เอกสารต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ธนาคารรู้ว่า การทำงานกับกิจการของครอบครัวของเรานั้น ทำงานในตำแหน่งอะไร มีรายได้จากเงินเดือนเท่าไร และทำมานานแค่ไหนค่ะ
การพิสูจน์ให้ธนาคารเห็นว่าเรามีการทำงานกับครอบครัวจริงๆ และมีรายได้ประจำจากเงินเดือนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการมีเอกสารที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือจะช่วยให้เพิ่มโอกาสในการยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่านได้ค่ะ ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้าน ได้ที่ K-Expert
K-Expert Action
• ก่อนซื้อบ้านควรเก็บออมเงินให้ได้อย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เพื่อไว้จ่ายเป็นเงินค่าดาวน์บ้าน
• สำรวจภาระหนี้ที่มีทั้งหมด และเมื่อรวมกับค่าผ่อนบ้านหลังใหม่แล้ว ภาระหนี้ผ่อนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นารีรัตน์ กำเลิศทอง K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น