“บริการที่เราครีเอทขึ้นมา ไม่ใช่แค่รองรับงาน แต่หาสิ่งที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ โดยดึงบริการหลักคือ Delivery ของเรา ไปเข้ากับไลน์ธุรกิจรับส่งสินค้า”
นิติเขต สลับลึก บอกแนวคิดแรกของบริการที่รับฝากของส่วนตัว (self-storage on demand) แบบครบวงจรของNiko’s Box
Niko’s Box แตกไลน์มาจาก Niko’s Logistics ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ซัพพอร์ตธุรกิจ e-commerce โดยเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2015 และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ คนเมืองซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยน้อย (Urbanites) คนที่อาศัยในคอนโดมิเนียม โดย Niko’s Box บริการเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนอยู่กันอย่างหนาแน่น
สไตล์การบริการของ Niko’s Box คือ เมื่อใครมีของที่ไม่ค่อยได้ใช้ และต้องการที่จัดเก็บใหม่เพราะพื้นที่ที่มีไม่เพียงพอ เช่น เสื้อกันหนาว หนังสือที่อ่านแล้ว รองเท้า เอกสารเก่า ก็โทร.ไปที่ Niko’s Box ทางบริษัทจะนำกล่องขนาด 60X40X29 เซนติเมตร ไปให้ถึงที่ โดยกล่องนี้รับน้ำหนักได้ 25 กิโลกรัม เมื่อผู้ใช้บริการหรือลูกค้าได้รับกล่องแล้วก็ให้แพ็กของที่ต้องการเก็บลงกล่อง หลังจากนั้นทาง Niko’s Box จะกลับมารับกล่อง ซีลกล่อง แล้วทำรหัสประจำกล่องก่อนนำไปเก็บในคลังสินค้าที่มีการรักษาความปลอดภัยรอบด้าน และเมื่อไรที่ลูกค้าต้องการใช้สินค้าในกล่องก็ให้โทร.เรียก จะมีรถของ Niko’s Box นำกล่องไปส่งให้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือส่งตามเวลาที่นัดไว้
สองผู้ก่อตั้ง Niko’s Box พอล แวนเอล และ นิติเขต สลับลึก และหนึ่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ปุญญามาลย์ สุบรรณ ณ อยุธยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
พอล : Niko’s Box เป็นธุรกิจใหม่สำหรับประเทศไทยซึ่งต้องทำให้ทุกคนเข้าใจลักษณะของธุรกิจก่อน ดังนั้น ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงทำให้คนเข้าใจและรู้จักแบรนด์ โดยทำ Brand Awareness ผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่านสื่อต่างๆ เช่น รายการทีวี Block A เพื่อบอกว่าธุรกิจของ Niko’s Box บริการสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการที่เก็บของจำนวนไม่มาก ทำให้ชีวิตคนเมืองสะดวกสบายขึ้น
นิติเขต : นอกจากบุคคลทั่วไปแล้ว Niko’s Box ยังเหมาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs คนที่ทำ e-commerce หรือคนทำธุรกิจขนาดย่อมที่ต้องการควบคุมงบประมาณด้านการเช่าพื้นที่ ซึ่ง Niko’s Box บริการมากกว่าเรื่องพื้นที่ คือรับจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าของลูกค้า SMEs ด้วย โดยข้อดีของ Niko’s คือ ส่งสินค้าตามวันและเวลาที่ต้องการได้ ต่างจากการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ที่อยู่เหนือการควบคุม
ปุญญามาลย์ : ในด้านค่าบริการพื้นที่ตามต้องการของ Niko’s Box มีทั้งแบบรายเดือน (Pay-as-you-go) 399 บาท ราย 3 เดือน (Shortly Plan) ราย 6 เดือน (Saver Plan) และรายปี (Super Saver) โดยเฉลี่ยแบบรายปีอยู่ที่กล่องละ 250 บาทต่อเดือน ส่วนค่าบริการในการนำกล่องไปส่งและเก็บเข้าคลัง ครั้งละ 400 บาท
รายงานของ วอลล์สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า อุตสาหกรรมจัดเก็บแบบ Self-storage มีมูลค่าทั่วโลกรวม 30 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเติบโตมากในย่านการค้าและมีมานานกว่า 40 ปี แต่การจัดเก็บรูปแบบเดิมนั้นเริ่มล้าสมัย อีกทั้งต้องเดินทางไปรับของเอง Niko’s Box จึงทำให้เกิดความแตกต่าง โดยบริการรับและส่งของถึงที่ และใช้เทคโนโลยีด้านการจัดเก็บสินค้ามาช่วยบริหารจัดการ ทำให้ลูกค้าเช็กสถานะของสินค้าได้ตลอดเวลา
พอล ผู้ก่อตั้งอีคอมเมิร์ซ MOXY : Online Lifestyle Shopping ก่อนมาทำ Niko’s Box กล่าวว่า พื้นที่ที่มีคนอยู่อย่างหนาแน่นซึ่งทำให้ธุรกิจ Self-storage on demand นี้ประสบความสำเร็จมาก ได้แก่ในซานฟรานซิสโก ลอนดอน และปารีส
“เทรนด์ของโลกคือ ประชากรจะอพยพไปอยู่ในเมืองมากขึ้น ที่พักประเภทคอนโดมิเนียมก็จะมีพื้นที่จำกัดมากกว่าเดิมเพราะมีคนมากขึ้น แต่ขนาดของเมืองคงที่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเช่าพื้นที่เก็บของในเมืองได้ Niko’s Box จึงเข้ามาตอบโจทย์ ช่วยให้คนที่ต้องการสเปซจัดเก็บของ SMEs ประหยัดทั้งเงินและเวลา ด้วยบริการของเราที่ทั้งสะดวกและยืดหยุ่นได้”
นิติเขตกล่าวสรุปบริการ Niko’s Box ว่า “Value ของเราคือ ลูกค้าไม่ต้องเดินทาง แค่อยากเก็บของกับเรา ก็โทร.หา เราจะเดินทางไปหา นำกล่องไปให้บรรจุของ แล้วไปรับกล่อง คุณใช้สเปซเท่าไหร่ เราชาร์จคุณแค่กล่อง ราคาก็จะต่างกับการเช่าพื้นที่หรือห้อง เป็นการเพิ่มสเปซให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่ต้องไปหาที่อยู่ที่ใหญ่ขึ้น และนอกจากนี้ ลูกค้าที่ทำ e-commerce จำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ ยังนำสินค้าไปฝากขายบนเว็บ Niko’s Box ของเราได้อีกด้วย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น