"พลังผัก" อัปเกรด "สลัด-ผลไม้รถเข็น" พลิกชีวิตหนุ่มออฟฟิศสู่ธุรกิจเงินล้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

7 พฤษภาคม 2558 09:35 น. (แก้ไขล่าสุด 8 พฤษภาคม 2558 10:05 น.)

ชุดสลัดผักพร้อมกิน แบรนด์ ‘Oh! Veggies’         “วุฒิชัย เจริญศุภกุล” คืออีกหนึ่งมนุษย์เงินเดือนที่ก้าวมาสร้างธุรกิจของตัวเอง ที่ปัจจุบันยอดขายกว่าปีละ 70 ล้านบาท โดยหัวใจแห่งความประสบความสำเร็จ อาศัยจับเทรนด์ “สุขภาพ”ยอดฮิต ควบคู่กับหาช่องว่างตลาด นำเสนอสินค้าแปลกใหม่ คือ “ผักสลัด” และ “ผลไม้คู่น้ำจิ้ม” พร้อมกิน สร้างความสะดวกสบายตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้เต็มๆ  วุฒิชัย เจริญศุภกุล เจ้าของธุรกิจ บริษัท พลังผัก จำกัด         บริษัท พลังผัก จำกัด เจ้าของแบรนด์ ‘Oh! Veggies’ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2550 ภายหลังที่หนุ่มคนนี้ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ดูแลฝ่ายการตลาด เพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง                “ตอนที่มองหาธุรกิจ ผมเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต สำรวจสินค้าที่น่าสนใจ ซึ่งเวลานั้น กระแสผู้บริโภครักสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยตั้งต้นว่า จะทำสินค้าเพื่อสุขภาพ และสะดุดกับ “สลัดผัก” เพราะตอนนั้น คู่แข่งในตลาดทั้งหมดจะเป็นผัก “ไฮโดรโปรนิกส์” แต่ยังไม่มีสลัด “ผักออแกนิกส์” เลย ทำให้ผมเห็นโอกาส” วุฒิชัย เล่าถึงไอเดียตั้งต้น         เมื่อได้ตัวสินค้าแล้ว ประเด็นต่อมาคือการนำเสนอให้ตรงใจลูกค้า เป็นที่มาของการจัดเป็น “ชุดสำเร็จรูปพร้อมกิน” ใส่ในบรรจุภัณฑ์สะอาดสวยงาม ช่วยสร้างความมั่นใจ และบริการความสะดวกให้แก่คนเมือง ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก ภายในโรงงานผลิต         “ธุรกิจนี้ลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท ช่วงแรก ทดสอบวางขายในร้านสินค้าสุขภาพ รวมถึงออกบูทสำรวจตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค ทำอยู่ 3 เดือนจนพร้อม ผมเลยไปเสนอวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้า เมื่อกลางปี 2551 ซึ่งผลตอบรับก็ดีมาก ถือว่าเรามาถูกทางแล้ว จากนั้นก็ไปเสนอขายในร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ที่ยังไม่มีสินค้าสลัดผักพร้อมกินขายเลย เมื่อเข้าได้ ตลาดเราโตเป็นทวีคูณ ถึงปัจจุบัน เรายังเป็นแบรนด์เดียวที่มีสินค้าประเภทนี้ขายในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้” วุฒิชัย เผย มีน้ำสลัดขายด้วย         หลังชุดสลัดติดลมบนไปแล้ว วุฒิชัยมองหาสินค้าตัวใหม่ๆ มาเสริม ภายใต้แนวคิดเดิม คือ ต้องเกี่ยวกับสุขภาพและแปลกใหม่จากท้องตลาดที่มีอยู่ จนมาสู่ไอเดียนำ “ผลไม้” ที่ขายตามรถเข็นข้างทางมาบริการในร้านโมเดิร์นเทรด ชุดผลไม้พร้อมน้ำจิ้ม         “ผมได้แนวคิดนี้ จากการสังเกต ผลไม้ที่ขายตามรถเข็น ส่วนใหญ่จะมีน้ำจิ้มแค่พริกกับเกลือ แต่ไม่มี ‘น้ำปลาหวาน’ ส่วนที่ขายตามซูเปอร์มาร์เกต อาจจะมีมะม่วงปอกคู่น้ำปลาหวานบ้าง แต่ก็ดูไม่ค่อยน่ากิน ผมเลยเริ่มต้นจากทำ ‘มะม่วงคู่กับน้ำปลาหวาน’ บรรจุในแพ็คเดียวกัน ให้ออกมาดูสวยงามและสะอาด”                “หลังตัวแรก ผลตอบรับดี ก็ตามด้วย ‘ฝรั่งจิ้มน้ำตาลปี๊บ’ ภายใต้แนวคิดเดียวกัน คือเป็นน้ำจิ้มที่หายากตามรถเข็นขายผลไม้ ส่วนสูตรน้ำจิ้มต่างๆ ผมใช้วิธี นำสินค้าเบอร์หนึ่งในตลาดเป็นตัวตั้ง แล้วมาพัฒนาให้ได้รสชาติที่เชื่อว่าดีกว่า” วุฒิชัย เผยและเสริมด้วยว่า สินค้าต่างๆ ของบริษัท พลังผัก จำกัด         “สินค้าประเภทนี้ หากินได้ตามรถเข็น แต่ผู้บริโภคยังมีต้องการเรื่องความสะอาด ปลอดภัย รสชาติได้มาตรฐาน ถึงแม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นแต่อยู่ระดับรับได้ เขาก็พร้อมจะเปิดรับสินค้าตัวนี้อยู่แล้ว ตรงนี้ น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เราเติบโต เพราะมาเติมเต็มช่องว่างให้ผู้บริโภค” เจ้าของธุรกิจ กล่าว “สินค้าประเภทนี้ หากินได้ตามรถเข็น แต่ผู้บริโภคยังมีต้องการเรื่องความสะอาด ปลอดภัย รสชาติได้มาตรฐาน ถึงแม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นแต่อยู่ระดับราคารับได้ เขาก็พร้อมจะเปิดรับสินค้าตัวนี้อยู่แล้ว" เจ้าของธุรกิจ กล่าว         ด้านแหล่งวัตถุดิบ ติดต่อขอซื้อจากเกษตรกรโดยตรง ควบคู่กับรับจากตัวแทน สำหรับมะม่วง เจาะจงเป็นพันธุ์ “มันเดือนเก้า” ส่วนฝรั่งใช้พันธุ์ “กิมจู” ขณะที่กระบวนการผลิต วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลผลิตที่หน้าตาสวยงามและปลอดภัย เช่น กระบวนการล้าง และปอกที่จะทำให้ผลไม้ไม่ช้ำ และไม่ทิ้งสารตกค้าง เป็นต้น         ทั้งนี้ ชุดสลัด ขายราคา 29 บาท ภายในประกอบด้วยผักออแกนิกส์นานาชนิด เช่น แครอท กะหล่ำม่วง มะเขือเชอรี่เป็นต้น รวมถึง มีน้ำสลัด และขนมปังกรอบด้วย ส่วนผลไม้ ชุดละ 20 บาท ทั้งสองประเภท อายุเก็บไว้กินได้นาน 5 วัน          ช่องทางตลาดกว่า 90% จะวางขายตามร้านโมเดิร์นเทรดต่างๆ และอีก 10% ตามร้านสินค้าสุขภาพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีปริมาณใช้วัตถุดิบผักผลไม้วันละกว่า 3 ตัน แปรรูปส่งกว่า 15,000 ชุดต่อวัน ผลประกอบการเติบโตสม่ำเสมอ โดยปีที่แล้ว (2558) อยู่ที่กว่า 70 ล้านบาท โดย 40% มาจากยอดขายชุดสลัด อีก 60% มาจากชุดผลไม้         แม้ที่ผ่านมา กิจการจะเติบโตด้วยดี อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญที่สุดของธุรกิจเสมอมา อยู่ที่กระบวนการผลิตแทบทุกขั้นตอน ยังต้องอาศัยแรงงาน “คน” จึงไม่ทันต่อความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ค่อนข้างผันผวนสูง         จากข้อจำกัดดังกล่าว วุฒิชัย ระบุว่า พยายามเน้นปรับกระบวนการผลิตภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้แรงงานเท่าเดิมแต่ได้ปริมาณมากขึ้น โดยแสวงหาความรู้จากเข้าอบรมต่างๆ เช่น ร่วมโครงการ Lean Supply Chain by TMB ที่ส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เอสเอ็มอี เป็นต้น               “เดิมกำลังผลิต 6,000 ชุดต่อวัน แต่ต้องการเพิ่มเป็น 12,000 ชุด เลยไปเข้าโครงการเพิ่มหาความรู้ ทำให้เห็นจุดอ่อน เรื่องกระบวนผลิต จากการปอกมะม่วง เดิมใช้เวลาเฉลี่ย 40 วินาทีต่อลูก ซึ่งขั้นตอนนี้ เป็นคอขวดทำให้ส่วนอื่นๆ ช้าไปด้วย เราเลยจัดทำวิดีโอสาธิตการปอกมะม่วงจากพนักงานคนที่เก่งที่สุด เช่น การจับลูกมะม่วง การลงมีด ฯลฯ เพื่อให้พนักงานคนอื่นๆ เอาเป็นแบบอย่าง ช่วยลดเวลาการปอกมะม่วงเฉลี่ยเหลือลูกละ 30 วินาที ซึ่ง 10 วินาทีนี้มีผลมาก เพราะเราต้องปอกมะม่วงวันละกว่า 8,000 ลูก พอแก้จุดนี้ได้ ยอดผลิตเพิ่มเป็นเท่าตัว รวมถึง เมื่อทำงานเสร็จเร็วขึ้น ก็ไม่ต้องเปิดโอที ช่วยลดต้นทุนอีกทาง” วุฒิชัย ยกตัวอย่าง มีน้ำสลัดขายด้วย         ส่วนแผนงานในอนาคต กำลังร่วมมือกับสถาบันการศึกษา พัฒนาเครื่องจักรในการปอกผลไม้ เพื่อขยายกำลังผลิต และหาเทคโนโลยียืดอายุสินค้าได้นานยิ่งขึ้น ช่วยขยายตลาดสู่ขายได้ทั่วประเทศ และส่งออกต่อไป รวมถึง ไม่หยุด สร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ สม่ำเสมอด้วย               ทั้งหมดเกิดจากความสามารถของอดีตมนุษย์เงินเดือนที่ทุกวันนี้ ขึ้นชั้นเจ้าของธุรกิจเงินล้านเต็มภาคภูมิ               ติดต่อธุรกิจ โทร.0-2870-5084  ชุดผลไม้พร้อมน้ำจิ้ม