5 ความรู้สึกลึกๆ เมื่อเจอคนที่ใช่ .. ในการร่วมธุรกิจ

อาเสี่ย

5 ความรู้สึกลึกๆ
เมื่อเจอคนที่ใช่ .. ในการร่วมธุรกิจ
.
แหม่ ... จั่วหัวยังกะหาแฟน ^^
.
.
.
ครับ คนที่ใช่ในที่นี้ของผมหมายถึง Partner หรือหุ้นส่วนธุรกิจของคุณครับ แต่พอผมเขียนสรุปเสร็จ ผมมานั่งอ่านๆใหม่ มันจะมองเป็น การหาคู่ก็คงได้ไม่หนีกันนะครับ

1. คุณรู้สึกอุ่นใจ เมื่ออยู่รวมกัน : หากคุณมีPartnerที่ดี คุณจะfeelได้ว่า คุณกล้าเดินไปกับเขาและเผชิญกับทุกสถานการณ์ .. เขาจะเติมในสิ่งที่คุณอ่อนแอ และเราจะเติมในสิ่งที่เขายังขาด ..
.
หลายๆครั้งที่คนชอบอะไรเหมือนกัน และมาจากสายงานเดียวกัน บางครั้งอาจเกิดปัญหา เนื่องจาก ทักษะของทุกคนรวมๆกัน มักจะสุดโด่งไปด้านใดด้านหนึ่ง
.
.
การรวมตัวกันของคนที่ไม่เหมือนกัน แต่ชอบ และโฟกัสไปในทางเดียวกัน บ่อยครั้งจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนจะสัมผัสได้ว่า เรารวมกันแล้วมีพลังมากกว่าแค่เอาจำนวนมาบวกกัน
.
.

2 คุณกล้าพูดเรื่องที่คุณไม่สบายใจให้พวกเขาฟัง หรือ กล้าบอกความต้องการเล็กๆน้อยๆบ้าง เป็นครั้งคราว หากเราต้องร่วมหัวจมท้ายกับคนที่เราไม่กล้าคุยเรื่องอื่นนอกจากงาน มันคงจะยากที่จะไปด้วยกันยาวๆได้ ..
.
เพราะการทำธุรกิจร่วมกัน หลายๆคนใช้เวลาอยู่กับ Partnerมากกว่าคนในครอบครัวเสียอีก

ถ้าคุณไม่กล้า แม้กระทั่งจะบอกว่า มื้อนี้ คุณอยากกินอะไร ตามใจฉันบ้างได้ไหม .. แปลว่าคุณอาจจะยังสนิทกันไม่พอ .. ลองหาเวลาคุยกัน นอกจากแค่เรื่องงานบ้างนะครับ .. รู้จักกันแรกๆอาจจะยังไม่ชิน แต่ควรให้ความสำคัญเรื่องแบบนี้บ้างเช่นกันครับ
.
.
3 คุณคิดถึง ความสุขของเขา และให้ความสำคัญ ไม่ต่างจากความสุขของคุณ (รวมไปถึง ความทุกข์ของเขา ก็เช่น) เดียวกัน ...

ผมบอกได้เลยว่า เรื่องนี้สำคัญมาก ถึงมากที่สุด เพราะมันคือ คำว่า “แคร์” ... หากคุณแคร์กัน คุณจะไม่เกี่ยงหรอกว่า เรื่องนี้มันเรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน ... มันจะมีแต่คำว่า นี่มันก็เรื่องของ “เรา”ด้วยกันทั้งนั้น เราต้องรับผิดชอบทุกงาน เหมือนงานของเราทั้งสิ้น
.
.
4 เราแสดงความซื่อสัตย์ และพร้อมจะสารภาพผิด หากไปทำอะไรที่แอบ"รู้สึกว่าผิด"มา ... PArtner ธุรกิจ ก็คือ เพื่อนตายของคุณ หากคุณคิดว่าจะปิดบังเขา นั่นแปลว่า เราอาจยังไม่สนิทกันมากพอ หรือ ยังมี กำแพงอะไรขวางอยู่ ระหว่างคุณและเขา ... อันตรายกำลังแฝงตัวอยู่ จากความเกรงใจ , ความไม่เข้าใจ , ความกังวล และ ความกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง ..
.
ลองเปิดอกคุยกัน แล้วค่อยๆเคลียร์กันไป ดีกว่าเก็บพอกเอาไว้ แล้วไประเบิดทีเดียว อันนี้ไม่ดีแน่ครับ
.
.
5 คุณกล้าคุยเรื่องผลประโยชน์ให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น และพร้อมจะเคลียร์ความสงสัยทุกๆข้อ โดยไม่ปล่อยให้มันผ่านไป เพียงเพราะความเกรงใจ
.
..เพราะคุณสมบัติที่ดีของเราคนไทย คือ ความเกรงใจเป็นพื้นฐาน แต่ในการคุยสัดส่วนผลประโยชน์ รายได้ หรือ ความรับผิดชอบต่างๆ ...
.
หากเรานำความเกรงใจมานำ..ทำให้ "ไม่กล้าคุยกันให้ชัดเจน" ... คุณอาจจะต้องเลิกรา จบกิจการ กันไปในที่สุด .. เพียงเพราะความรู้สึก “ไม่เท่าเทียม”ครับ
.
.

ถ้าคุณกำลังรู้สึกเช่นเดียวกันนี้ กับ Partnerของคุณอยู่ล่ะก็ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ พวกเขาคือคู่ชีวิตทั้ง ชีวิตและธุรกิจเลยทีเดียว

แต่ถ้าไม่ใช่ .. ก็ไม่ได้แปลว่าต้องแยกทางกันนะครับ .. เพียงแต่เราอาจลองนำสิ่งดังกล่าว มานั่งพิจารณาดูว่า ... เราจะสร้างความสบายใจ และ ผลดีต่อธุรกิจ และ ทุกฝ่าย ได้ยังไงกันบ้าง .. ลองลดตัวตน ของตัวเรา และเปิดใจคุยกัน .. การรวมตัวกัน มันต้องเกิดประโยชน์มากกว่า ทำคนเดียวครับ
.
.
นี่อาจจะเป็นเพียงมุมมองของผม ที่ผมสรุปมาจากการร่วมหัวจมท้ายกับหลายๆธุรกิจ และหลายๆคน และจากการพูดคุยกับนักธุรกิจต่างๆมากมาย และผมโชคดีมากๆที่ผมมักจะเจอคนดีๆ ที่มีแนวคิดคล้ายๆกัน และทำให้หลายๆอย่างมันบรรลุไปได้อย่างดีและรวดเร็ว

1+1+1 = Infinity มันเป็นเรื่องจริงได้นะครับ
.
.
.
เพื่อนๆลองมาแบ่งปัน ประสบการณ์การหาคู่ เอ้ย! หาPartnerธุรกิจ ให้ฟังกันบ้างนะครับ ^^ // อยากรู้เหมือนกันว่าแต่ละคนใช้ “Feeling” หรือ” logic”อะไรกันบ้างครับ

เพื่อนๆ แอดไลน์มาคุยกันต่อได้ที่
@Golfsalin นะครับ

กอล์ฟ