วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คนธรรมดา “ใช้เวลาแลกกับเงิน” แต่คนฉลาด “ใช้ให้เงินทำงาน”


 กรกฎาคม 15, 2012 7
เคยลองนั่งคิดกันไหมครับว่า มนุษย์คนหนึ่ง จะมีวิธีการหาเงินได้กี่แบบ?
จริงๆแล้วทางเลือกในการสร้างรายได้นั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่เห็นจำเป็นต้องมาถามกันเลย ดูแค่สาขาวิชาชีพที่มีอยู่ในตลาดก็พอจะรู้ว่า จะหาเงินนะ ไม่ยากหรอก
แต่เกิดเป็นมนุษย์ มันไม่จบแค่นั้นสิครับ หาเงินได้มา ไม่ใช่ว่ามันจะพอเลี้ยงตัวเอง และสนองความต้องการทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ครบซะเมื่อไหร่กัน แล้วไหนจะอนาคตข้างหน้าที่ไม่รู้อีกว่า เราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ความเสี่ยงเยอะแยะไปหมด
ดังนั้น เพื่อปิดความเสี่ยงในอนาคต และสนองกิเลสตัวเองในปัจจุบัน เราทุกคนจึงพยายามที่จะมีเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งบางคนก็เลือกถูกทาง บางคนก็เลือกใช้วิธีในทางที่ผิด อยู่ที่ว่าตัวเรามีความถนัดในทางไหน และเราเลือกวิถีชีวิตแบบไหน
วันก่อน ผมไปอ่านเจอประวัติมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง เขาเก่งในงานที่เขาทำมากๆ แถมยังทุ่มเทเวลาให้กับงานเป็นสำคัญ เรียกได้ว่า หาคนทำงานหนักเท่าเขา ถือว่าหายากเลยก็ว่าได้ เงินเดือนของเขา ในทุกๆ 4 ปี เงินเดือนจะเพิ่มขึ้นราวๆ 100%
จากเริ่มทำงานที่เงินเดือน 18,000 บาท ผ่านมา 10 ปี ตอนนี้เงินเดือนเกือบจะถึง 100,000 บาท ถือเป็นความภูมิใจของครอบครัว และแน่นอน เขาย่อมภมูิใจในตัวเองด้วยเช่นกัน และเมื่อมองจากประสบการณ์การทำงน บวกความเก่ง และความทุ่มเท ก็ดูเหมือนว่า หากอยากได้เงินเดือน 200,000 หรือ 300,000 หรือมากกว่า วิธีการที่เขาจะทำต่อไปก็คือ “ทำงานหนักอย่างเดิม” ไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็คิดว่า เขาอาจจะคิดถูกก็ได้
แต่ปัญหาก็คือ เมื่ออีก 10 ปีผ่านไป คุณคิดว่า ร่างกายของชายวัยกลางคน ที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เทียบกับช่วงวัยหนุ่มที่เคยทำงาน มันจะรับมือไปได้ตลอดอย่างนั้นหรอ?
คำถามอีกหนึ่งคำถามก็คือ ความพยายามทำงานอย่างหนัก ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อะไรละที่เขาจะต้องเสียไปจากการทำงานอย่างหนักที่ผ่านมา?
สุขภาพของเรา คือสิ่งที่เราต้องดูแล และแน่นอน สุขภาพทางการเงิน เพื่อความมั่นคงในอนาคต ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น ชีวิตของเรา มันจึงเป็นเรื่องของการสร้างสมดุลระหว่าง การอยู่ให้รอดไปใช้เงินที่เราหามาได้ และ หามาให้มากพอเพื่อที่จะไม่อดตายหากยังมีชีวิตต่อไปในวันข้างหน้า
เพราะมนุษย์เงินเดือนคนนั้น ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง
ตัวผมเองก็เป็นเหมือนกันเขาเช่นกัน!
ดังนั้น การรักษาสมดุล จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ เป็นสิ่งที่ต้องวางแผน และไม่ใช่แค่ในระยะสั้นๆ แต่ต้องทำไปตลอดชีวิต
เมื่อคิดได้ดังนี้ คำถามก็เกิดขึ้นมาในใจทันทีว่า มนุษย์คนหนึ่ง จะมีวิธีการหาเงินแบบไหนบ้าง ที่ไม่ต้องใช้ร่างกาย ใช้เวลาอันมีค่าของเราไปแลกกับเงิน?
คำตอบมันก็พามาให้เจอกับโลกอีกโลกหนึ่งที่มีชื่อว่า “การลงทุน” โลกนี้ อาศัยความเข้าใจ และความอดทนสูง อาจจะเหนื่อยเหมือนกับช่วงแรกๆที่คุณเริ่มต้นทำงาน และแน่นอน มันต้องใช้เวลาเหมือนๆกับทำงานกินเงินเดือนนั้นหล่ะ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมล็ดพันธุ์ที่เราได้หว่านลงไป มันจะงอกเงยตามปัจจัยของมันเอง คุณไม่ต้องอดหลับอดนอน หรือพยายามทำงานหนักขึ้น อีกต่อไป ในโลกของการลงทุนนี้ คุณไม่ต้องทำงาน แต่ เงินจะทำงานแทนคุณเอง!!
ที่น่าสนใจขึ้นไปอีกก็คือ หากคุณเลือกอาชีพการลงทุน คุณไม่จำเป็นต้องออกจากงานที่คุณทำ หรือสิ่งที่คุณรัก คุณยังสามารถทำมันต่อไป ปล่อยให้การลงทุน เป็นรายได้เสริมในช่วงแรก และเมื่อเวลาผ่านไป คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และมีความรู้ด้านการลงทุนดีแล้ว เมื่อนั้น การลงทุน อาจกลายเป็นรายได้หลัก แทนที่จะเป็นงานหลักของคุณก็ได้
อาชีพนี้น่าสนไหมครับ อาชีพที่ใครๆก็เป็นได้ ไม่จำเป็นต้องทิ้งอาชีพหลัก แค่ขอแบ่งเวลาของคุณซักเล็กน้อยมาคอยเรียนรู้เพิ่มเติม อาชีพที่ชื่อว่า “นักลงทุน”
เลือกเอาจะครับ ว่าคุณจะเป็นคนธรรมดาที่ “ใช้เวลาแลกกับเงิน” หรือจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนฉลาดที่ “ใช้ให้เงินทำงาน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น