วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เงินทะลักกองทุนเฮลธ์แคร์2หมื่นล. 5เดือนฮิตขึ้นแชมป์-นักลงทุนโกยผลตอบแทน 30%

updated: 10 มิ.ย. 2558 เวลา 21:30:16 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
มอร์นิ่งสตาร์ฯ ชี้คนไทยเทเงินเข้า "กอง FIF ลงทุนเฮลธ์แคร์" 2 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ ดันมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทะยานติดอันดับ 1 แซงหน้ากองอื่น ๆ พร้อมโชว์ผลตอบแทนเฉลี่ยช่วง 1 ปี สูง 30% ด้านนายกสมาคมบริษัทจัดการกองทุน มองธุรกิจเฮลธ์แคร์ฮอตฮิตรับสังคมโลกสูงวัย


นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุน บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ข้อมูลของกองทุนรวมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (YTD) พบว่า ปีนี้มีเงินไหลเข้ากองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) มูลค่ารวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยเงินไหลเข้ากองทุน FIF ที่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กองทุนเปิดกลุ่มเฮลธ์แคร์มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท รองลงมาคือกองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่น 11,000 ล้านบาท, หุ้นเอเชีย 10,000 ล้านบาท, หุ้นจีน 6,000 ล้านบาท และหุ้นยุโรป 4,000 ล้านบาท

สำหรับเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน FIF ประเภทลงทุนในกลุ่มเฮลธ์แคร์ เป็นจำนวนมากในช่วงปีนี้ ทำให้มีมูลค่าสินทรัพย์คงค้าง ณ 31 พ.ค. 2558 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35,700 ล้านบาท เลื่อนขึ้นอยู่อันดับ 1 แซงหน้ากองทุนรวมลงทุนในทองคำที่มีมูลค่าสินทรัพย์ 33,800 ล้านบาท ติดอยู่อันดับ 2 ตามด้วยกองทุนลงทุนตราสารหนี้โลก (โกลบอลบอนด์) 29,000 ล้านบาท, กองทุนรวมลงทุนหุ้นเอเชียและแปซิฟิก 28,600 ล้านบาท และกองทุนรวมลงทุนหุ้นจีนราว 24,000 ล้านบาท

นายกิตติคุณกล่าวต่อว่า กองทุนที่ลงทุนเฮลธ์แคร์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เนื่องจากมีจุดแข็งด้านการให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงและสม่ำเสมอตามเทรนด์ธุรกิจด้านสุขภาพที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่องโดยกองทุนกลุ่มนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ประมาณ 30% และ 3 ปี สูงกว่า 100% ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน กองทุนกลุ่มนี้สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 10-14% ซึ่งถือว่ามากกว่ากองทุนที่ลงทุนประเภทอื่น ๆ

ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุน FIF ที่ลงทุนในเฮลธ์แคร์มีจำนวน 11 กองทุน ภายใต้การบริหารกองทุนของ 6-7 บลจ. ทำให้คาดว่าในอนาคต บลจ.อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ตั้งกองทุนประเภทนี้จะหันมาออกกันมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าของบริษัทไม่ให้ไหลออกไปหา บลจ.อื่น

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการกองทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง เปิดเผยว่าปัจจุบันกระแสการลงทุนเทรนสุขภาพมีการกล่าวถึงกันมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในอนาคตและมักให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับกองทุนที่ไปลงทุนสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ขณะที่ บลจ.บัวหลวง ก็มีการเปิดกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มเฮลท์แคร์จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์เพื่อการเลี้ยงชีพ เพื่อรองรับลูกค้าที่สนใจลงทุน

"ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะพูดถึงว่าจะไปลงทุนประเภทไหนดี ซึ่งจริง ๆ แล้วอยากให้คนมองว่าการลงทุนอะไรที่จะยั่งยืนจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่า โดยปัจจุบันโลกเรามีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น และคนในปัจจุบันก็สนใจการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงส่งผลให้ทิศทางของกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มในอนาคตยังเชื่อว่าการเข้าลงทุนในกลุ่มเฮลธ์แคร์น่าจะดีกว่าการเลือกลงทุนในประเทศใดประเภทหนึ่ง"นางวรวรรณกล่าว



ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น