วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นวัตกรรมล่าสุดการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ด้วยโครงค้ำยันหลอดเลือดชีวภาพเคลือบยาชนิดย่อยสลายได้

updated: 04 มิ.ย. 2558 เวลา 15:56:56 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ศูนย์โรคหัวใจ 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลเจ้าพระยา
พร้อมให้บริการทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
ด้วยนวัตกรรมล้าสุด..โครงค้ำยันหลอดเลือดชีวภาพเคลือบยาชนิดย่อยสลายได้
โรคหลอดเลือดหัวใจเป็น 1 ใน 3 สาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในประเทศไทย สลับกับอุบัติเหตุ และโรคมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจมี 4 ปัจจัยสำคัญได้แก่ โรคเบาหวาน, 
โรคความดันโลหิตสูง, โรคไขมันในเส้นเลือดสูง และการสูบบุหรี่

โครงค้ำยันหลอดเลือดชีวภาพชนิดย่อยสลายได้ เป็นนวัตกรรมล่าสุดช่วยรักษาภาวะตีบของหลอดเลือด โดยที่ไม่มีสิ่งใดเหลือค้างอยู่ในร่างกาย   เมื่อไม่มีขดลวดคาอยู่ในหลอดเลือดจะทำให้หลอดเลือดกลับคืนสู่ภาวะปกติสามารถหดและคลายตัวได้อีกครั้ง
สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับคือ 
ไม่มีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่ในร่างกาย
ส่งผลดีในระยะยาวต่อโรคเส้นเลือดหัวใจ
ส่งผลดีในระยะยาวต่อสุขภาพหัวใจ
  
 

การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มีการรักษาหลักๆ คือ
การรักษาด้วยยา
การทำบายพาสหลอดเลือด
การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน 
         การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนเป็นการรักษาด้วยการใส่ลูกโป่งบอนลูนเพื่อขยายหลอดเลือดเพียงอย่างเดียว ปัญหาที่เกิดคือเส้นเลือดอาจฉีกปริขาดแตกทำให้ผู้ป่วยต้องไปผ่าตัดต่อเส้นเลือดฉุกเฉินหรือบางรายแม้หลอดเลือดไม่ฉีกปริขาดแต่ก็อาจเกิดแผลเป็นในหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดกลับมาตีบซ้ำถึงร้อยละ30-60
     
         ต่อมาจึงมีการผลิต “โครงลวด” ทำจากโลหะสเตนเลสสตีล เพื่อค้ำยันหลอดเลือหัวใจตีบเอาไว้ไม่ให้หลอดเลือดตีบและไม่ให้เกิดแผลเป็นจนกลับมาตีบซ้ำ อย่างไรก็ตามยังมีอุบัติการณ์ของการตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจหลังจากใส่โครงลวดค้ำยันอยู่ถึงร้อยละ 16-44  ต่อจากนั้นก็ได้มีการผลิต “โครงลวดค้ำยันหลอดเลือดชนิดเคลือบยา” เพื่อป้องกันการตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดอุบัติการณ์เกิดการตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจได้เหลือร้อยละ 0-16

         ปัจจุบันนับเป็นข่าวดีที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ป่วยในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วย “โครงค้ำยันหลอดเลือดชีวภาพ ชนิดย่อยสลายได้” โดยทำจากวัสดุโพลีแลคไตล์ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในไหมละลาย  สามารถหด คลาดตัว เคลื่อนไหวได้เหมือนกับหลอดเลือดปกติ    ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ผู้ป่วยไม่ต้องกินยาต้านเกร็ดเลือดหลังจากทำการรักษาเป็นเวลานาน เนื่องจากหลังจากการขยายหลอดเลือดด้วยโครงค้ำยันหลอดเลือดชีวภาพ ภายใน 2 ปีก็จะสลายไป   จึงไม่ต้องกังวลหลังจากหยุดยาต้านเกร็ดเลือดแล้วจะเกิดปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันภายในขดลวด(Stent thrombosis)   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น