(เรียบเรียง นวตา สันติวัฒนา)
ค่าเงินที่มีการอ้าง อิงมูลค่านวัตกรรมที่ยังคงไม่ล้าสมัย และหลักเศรษฐกิจเสรีนิยม คือหัวข้อหลักของ 8 หนังสือเล่มโปรดในปีที่ผ่านมาซึ่ง Steve Forbes ประธานกรรมการและบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Forbes ทำการคัดสรรมา (โดยไม่ได้เรียงตามลำดับ)
Business Adventures: Twelve Classic Tales From the World of Wall Street
เขียนโดย John Brooks (สำนักพิมพ์ Open Road Media, ราคา 16.95 เหรียญ)
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1969 และนำมาตีพิมพ์ใหม่ใน 2014 Brooks เขียนบรรยายได้อย่างเห็นภาพชัดเจน และครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่การประสบความสำเร็จในช่วงแรกของ Xerox ความล้มเหลวครั้งใหญ่ของรถยนต์รุ่น Edsel ไปจนถึงการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงในครั้งแรกและครั้งใหญ่ของโลกการ เงินยุคใหม่ ซึ่งทั้ง Bill Gates และ Warren Buffett ต่างยกให้เป็นหนังสือทางธุรกิจเล่มโปรดของพวกเขา และแน่นอนว่าคุณจะชอบหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
Money: How the Destruction of the Dollar Threatens the Global Economy – and What We Can Do About It
เขียนโดย Steve Forbes และ Elizabeth Ames (สำนักพิมพ์ McGraw-Hill Education, ราคา 28 เหรียญ)
อาจไม่เหมาะที่จะผู้เขียนชื่นชมบรรยายถึงผลงานของตัวเอง เราจึงให้ George Melloan ทำหน้าที่นี้แทน เขาวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ใน Wall Street Journal ว่า “เป็นหนังสือเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์และนโยบายการเงินอันดื้อรั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
Moonshoot!: Game-Changing Strategies to Build Billion-Dollar Businesses
เขียนโดย John Sculley (สำนักพิมพ์ RosettaBooks, ราคา 27.95 เหรียญ)
เนื้อหา ของหนังสือเล่มนี้มีพลังและน่าจูงใจ มีการอธิบายกลยุทธ์และข้อสังเกตต่างๆ ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง Sculley อดีต ceo ของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Pepsi และ Apple กล่าวว่า ไม่มีเวลาช่วงไหนที่ดีกว่านี้ ที่จะปลุกปั้นธุรกิจใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งความสำเร็จของเขาในธุรกิจเทคโนโลยี Cloud อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบไร้สาย ระบบวิเคราะห์กลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบพกพาต่างๆ รวมกับการวางแผนธุรกิจแบบดั้งเดิมดูจะพิสูจน์แล้วว่าแนวคิดนี้อาจจะจริงขึ้น ได้
The Soft Edge: Where Great Companies Find Lasting Success
เขียนโดย Rich Karlgaard (สำนักพิมพ์ Jossey-Bass, ราคา 28 เหรียญ)
Karlgaard ผู้พิมพ์โฆษณาของ Forbes กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาวที่มักถูกมองข้ามคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “soft edge” อันได้แก่ ความไว้วางใจ ความฉลาด การทำงานเป็นทีม การมีรสนิยมที่ดี และการมีเรื่องราวที่น่าสนใจ บางคนอาจมองว่าปัจจัยอันจับต้องไม่ได้เหล่านี้ แม้จะฟังดูเข้าท่าแต่อาจจะมากเกินจำเป็น แต่ Karlgaard ยกตัวอย่างและอธิบายให้เห็นว่าปัจจัยเหล่านี้คือ สิ่งสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จกับบริษัท ทั่วไป
Money: Master the Game-7 Steps to Financial Freedom
เขียนโดย Tony Robbins (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 28 เหรียญ)
Robbins ศึกษาข้อมูลอย่างมหาศาล รวมถึงไปทำการสัมภาษณ์นักลงทุนชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันอีก จำนวนมาก ทำให้หนังสือเล่มนี้สามารถดึงดูด ทั้งมือใหม่และนักบริหารเงินมากประสบการณ์ที่มีทรัพย์สินในมือหลายพันล้าน เหรียญ ให้เข้ามาอ่านพอๆ กัน
The Innovators: How a Group of Hackers, Geniuses and Geeks Created the Digital Revolution
เขียนโดย Walter Isaacson (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 35 เหรียญ)
หนังสือ ของ Isaacson เล่มนี้เต็มไปด้วยรายละเอียด เนื้อหาที่น่าเชื่อถือในขอบเขตที่เขาได้นำเสนอ เขาเล่าตั้งแต่ การประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำไป จนถึงเรื่องราวของผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมประวัติของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ หนึ่งในคำแนะนำเด็ดๆ จากหนังสือเล่มนี้มาจาก Howard Aiken ผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งกล่าวว่า “จงอย่ากังวลเรื่องที่จะมีคนมาขโมยความคิดของคุณ ถ้ามันเป็นแนวคิดต้นแบบคุณจะต้องยืนหยัดจนกว่าคนเหล่านั้นจะยอมรับ”
The Forgotten Depression-1921: The Crash That Cured Itself
เขียนโดย James Grant (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 28 เหรียญ)
ปี แรกของภาวะเศรษฐกิจถดถอยปี 1921 ที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 รุนแรงยิ่งกว่าปีแรกของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ถึง 10 ปี แต่ทว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 1921 แทบจะจบลงทันทีหลังจากที่มันเกิดขึ้น ทำไมละ? เหตุผลคือว่ารัฐบาลสหรัฐดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายและอัตราภาษี พร้อมทั้ง Fed ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน Grant เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญได้อย่างน่าติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้คุณต้องปรับกระบวนทำความเข้าใจใหม่เพราะเรื่องราวครั้งนั้นไม่ สอดคล้องตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์
Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future
เขียนโดย Peter Thiel และ Blake Masters (สำนักพิมพ์ Crown Business, ราคา 27 เหรียญ)
อัด แน่นไปด้วยข้อมูลเจาะลึกแบบเกาะติดจากบุคคลที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการลงทุน (เขาเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ของ Facebook) และการเป็นผู้ประกอบการในบริษัทเกิดใหม่ (เขาเป็นเจ้าของ PayPal) อาจฟังดูขัดกับความรู้สึกแต่ Thiel กล่าวว่าอัตราการพัฒนาการครั้งสำคัญของธุรกิจชะลอตัวตั้งแต่ต้นยุค 1970s ซึ่งหนึ่งประเด็นสำคัญที่พูดถึงในหนังสือก็คือ ในช่วงปีนั้นเป็นช่วงเดียวกับที่สหรัฐยกเลิกการอ้างอิงค่าเงินดอลล่าร์กับ ทองคำ และเมื่อค่าเงินอ่อนตัวลง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนสนใจลงทุนน้อยลงในอนาคต
ค่าเงินที่มีการอ้าง อิงมูลค่านวัตกรรมที่ยังคงไม่ล้าสมัย และหลักเศรษฐกิจเสรีนิยม คือหัวข้อหลักของ 8 หนังสือเล่มโปรดในปีที่ผ่านมาซึ่ง Steve Forbes ประธานกรรมการและบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Forbes ทำการคัดสรรมา (โดยไม่ได้เรียงตามลำดับ)
Business Adventures: Twelve Classic Tales From the World of Wall Street
เขียนโดย John Brooks (สำนักพิมพ์ Open Road Media, ราคา 16.95 เหรียญ)
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1969 และนำมาตีพิมพ์ใหม่ใน 2014 Brooks เขียนบรรยายได้อย่างเห็นภาพชัดเจน และครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่การประสบความสำเร็จในช่วงแรกของ Xerox ความล้มเหลวครั้งใหญ่ของรถยนต์รุ่น Edsel ไปจนถึงการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงในครั้งแรกและครั้งใหญ่ของโลกการ เงินยุคใหม่ ซึ่งทั้ง Bill Gates และ Warren Buffett ต่างยกให้เป็นหนังสือทางธุรกิจเล่มโปรดของพวกเขา และแน่นอนว่าคุณจะชอบหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
Money: How the Destruction of the Dollar Threatens the Global Economy – and What We Can Do About It
เขียนโดย Steve Forbes และ Elizabeth Ames (สำนักพิมพ์ McGraw-Hill Education, ราคา 28 เหรียญ)
อาจไม่เหมาะที่จะผู้เขียนชื่นชมบรรยายถึงผลงานของตัวเอง เราจึงให้ George Melloan ทำหน้าที่นี้แทน เขาวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ใน Wall Street Journal ว่า “เป็นหนังสือเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์และนโยบายการเงินอันดื้อรั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
Moonshoot!: Game-Changing Strategies to Build Billion-Dollar Businesses
เขียนโดย John Sculley (สำนักพิมพ์ RosettaBooks, ราคา 27.95 เหรียญ)
เนื้อหา ของหนังสือเล่มนี้มีพลังและน่าจูงใจ มีการอธิบายกลยุทธ์และข้อสังเกตต่างๆ ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง Sculley อดีต ceo ของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Pepsi และ Apple กล่าวว่า ไม่มีเวลาช่วงไหนที่ดีกว่านี้ ที่จะปลุกปั้นธุรกิจใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งความสำเร็จของเขาในธุรกิจเทคโนโลยี Cloud อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบไร้สาย ระบบวิเคราะห์กลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบพกพาต่างๆ รวมกับการวางแผนธุรกิจแบบดั้งเดิมดูจะพิสูจน์แล้วว่าแนวคิดนี้อาจจะจริงขึ้น ได้
The Soft Edge: Where Great Companies Find Lasting Success
เขียนโดย Rich Karlgaard (สำนักพิมพ์ Jossey-Bass, ราคา 28 เหรียญ)
Karlgaard ผู้พิมพ์โฆษณาของ Forbes กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาวที่มักถูกมองข้ามคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “soft edge” อันได้แก่ ความไว้วางใจ ความฉลาด การทำงานเป็นทีม การมีรสนิยมที่ดี และการมีเรื่องราวที่น่าสนใจ บางคนอาจมองว่าปัจจัยอันจับต้องไม่ได้เหล่านี้ แม้จะฟังดูเข้าท่าแต่อาจจะมากเกินจำเป็น แต่ Karlgaard ยกตัวอย่างและอธิบายให้เห็นว่าปัจจัยเหล่านี้คือ สิ่งสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จกับบริษัท ทั่วไป
Money: Master the Game-7 Steps to Financial Freedom
เขียนโดย Tony Robbins (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 28 เหรียญ)
Robbins ศึกษาข้อมูลอย่างมหาศาล รวมถึงไปทำการสัมภาษณ์นักลงทุนชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันอีก จำนวนมาก ทำให้หนังสือเล่มนี้สามารถดึงดูด ทั้งมือใหม่และนักบริหารเงินมากประสบการณ์ที่มีทรัพย์สินในมือหลายพันล้าน เหรียญ ให้เข้ามาอ่านพอๆ กัน
The Innovators: How a Group of Hackers, Geniuses and Geeks Created the Digital Revolution
เขียนโดย Walter Isaacson (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 35 เหรียญ)
หนังสือ ของ Isaacson เล่มนี้เต็มไปด้วยรายละเอียด เนื้อหาที่น่าเชื่อถือในขอบเขตที่เขาได้นำเสนอ เขาเล่าตั้งแต่ การประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำไป จนถึงเรื่องราวของผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมประวัติของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ หนึ่งในคำแนะนำเด็ดๆ จากหนังสือเล่มนี้มาจาก Howard Aiken ผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งกล่าวว่า “จงอย่ากังวลเรื่องที่จะมีคนมาขโมยความคิดของคุณ ถ้ามันเป็นแนวคิดต้นแบบคุณจะต้องยืนหยัดจนกว่าคนเหล่านั้นจะยอมรับ”
The Forgotten Depression-1921: The Crash That Cured Itself
เขียนโดย James Grant (สำนักพิมพ์ Simon & Schuster, ราคา 28 เหรียญ)
ปี แรกของภาวะเศรษฐกิจถดถอยปี 1921 ที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 รุนแรงยิ่งกว่าปีแรกของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ถึง 10 ปี แต่ทว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 1921 แทบจะจบลงทันทีหลังจากที่มันเกิดขึ้น ทำไมละ? เหตุผลคือว่ารัฐบาลสหรัฐดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายและอัตราภาษี พร้อมทั้ง Fed ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน Grant เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญได้อย่างน่าติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้คุณต้องปรับกระบวนทำความเข้าใจใหม่เพราะเรื่องราวครั้งนั้นไม่ สอดคล้องตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์
Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future
เขียนโดย Peter Thiel และ Blake Masters (สำนักพิมพ์ Crown Business, ราคา 27 เหรียญ)
อัด แน่นไปด้วยข้อมูลเจาะลึกแบบเกาะติดจากบุคคลที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการลงทุน (เขาเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ของ Facebook) และการเป็นผู้ประกอบการในบริษัทเกิดใหม่ (เขาเป็นเจ้าของ PayPal) อาจฟังดูขัดกับความรู้สึกแต่ Thiel กล่าวว่าอัตราการพัฒนาการครั้งสำคัญของธุรกิจชะลอตัวตั้งแต่ต้นยุค 1970s ซึ่งหนึ่งประเด็นสำคัญที่พูดถึงในหนังสือก็คือ ในช่วงปีนั้นเป็นช่วงเดียวกับที่สหรัฐยกเลิกการอ้างอิงค่าเงินดอลล่าร์กับ ทองคำ และเมื่อค่าเงินอ่อนตัวลง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนสนใจลงทุนน้อยลงในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น