updated: 04 ต.ค. 2558 เวลา 20:30:06 น.
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อแสดงความยินดีหลังเข้ารับตำแหน่ง และได้หารือเกี่ยวกับการร่วมมือต่างๆ ซึ่งทั้ง 4 ประเทศสนใจโครงสร้างพื้นฐาน ระบบราง และศูนย์ซ่อมเครื่องบิน พร้อมเปิดเส้นทางบินเพิ่ม เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเอเชียเชื่อมยุโรป
นายอาคมกล่าวว่า อิตาลีได้ขอให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทบทวนการยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพฯ-โรม เพราะต้องการให้การบินไทยเปิดให้บริการต่อไป เนื่องจากปี 2559 จะเป็นปีพิเศษที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประกาศให้เป็นปีแห่งเมตตาธรรม ซึ่งจะมีคริสตศาสนิกชนคาทอลิกทั่วโลกจะเดินทางไปยังนครรัฐวาติกันที่กรุงโรมเพื่อจาริกแสวงบุญจำนวนมาก ส่วนเรื่องผู้โดยสารน้อยนั้น ทางอิตาลีขอหารือกับการบินไทยเพื่อส่งเสริมตลาดร่วมกัน เพราะอิตาลียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย นอกจากนี้ อิตาลีสนใจที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทยด้วย
นายอาคมกล่าวว่า ส่วนของฝรั่งเศสสนใจที่จะเข้ามาตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสายการบินแอร์ฟรานซ์กับการบินไทย เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินในไทย และสนใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องเทคโนโลยีระบบรางในไทย รวมถึงรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ด้วย ส่วนเยอรมนีสนใจระบบราง และต้องการให้การบินไทยร่วมมือกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานในไทยเช่นเดียวกัน โดยจะใช้ไทยเป็นฐานการซ่อมในเอเชีย และยังขอเปิดเส้นทางบินใหม่ โคโลญจน์-ภูเก็ต และโคโลญจน์-กรุงเทพฯ ด้วย
"การที่กลุ่มประเทศดังกล่าวสนใจไทย เพราะมองว่าเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน จึงต้องการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมเอเชียกับยุโรปด้วย" นายอาคมกล่าว
นายอาคมกล่าวว่า อิตาลีได้ขอให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทบทวนการยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพฯ-โรม เพราะต้องการให้การบินไทยเปิดให้บริการต่อไป เนื่องจากปี 2559 จะเป็นปีพิเศษที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประกาศให้เป็นปีแห่งเมตตาธรรม ซึ่งจะมีคริสตศาสนิกชนคาทอลิกทั่วโลกจะเดินทางไปยังนครรัฐวาติกันที่กรุงโรมเพื่อจาริกแสวงบุญจำนวนมาก ส่วนเรื่องผู้โดยสารน้อยนั้น ทางอิตาลีขอหารือกับการบินไทยเพื่อส่งเสริมตลาดร่วมกัน เพราะอิตาลียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย นอกจากนี้ อิตาลีสนใจที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทยด้วย
นายอาคมกล่าวว่า ส่วนของฝรั่งเศสสนใจที่จะเข้ามาตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสายการบินแอร์ฟรานซ์กับการบินไทย เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินในไทย และสนใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องเทคโนโลยีระบบรางในไทย รวมถึงรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ด้วย ส่วนเยอรมนีสนใจระบบราง และต้องการให้การบินไทยร่วมมือกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานในไทยเช่นเดียวกัน โดยจะใช้ไทยเป็นฐานการซ่อมในเอเชีย และยังขอเปิดเส้นทางบินใหม่ โคโลญจน์-ภูเก็ต และโคโลญจน์-กรุงเทพฯ ด้วย
"การที่กลุ่มประเทศดังกล่าวสนใจไทย เพราะมองว่าเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน จึงต้องการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมเอเชียกับยุโรปด้วย" นายอาคมกล่าว
ที่มา : นสพ.มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น