By Kansapat Asawarujanon
ลูกค้าหลายคนคงเคยมีความไม่สบายใจเกี่ยวกับการซื้อขายของออนไลน์กันอยู่ เนื่องจากเราซึ่งเป็นผู้บริโภค ไม่เคยรู้จักกับพ่อค้าแม่ค้ามาก่อน จะให้โอนเงินไปเฉย ๆ ก็ค่อนข้างเสี่ยงอยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะขนาดเจอกันตอนหน้าตอนต่อ ยังมีการโกงกันได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความกังวลที่ลูกค้ามี ที่ทำให้เจ้าของร้านออนไลน์อย่างเราหลีกเลี่ยงไม่ได้
เดี๋ยวนี้ตัวเลขยอดไลค์ก็ซื้อขายกันง่ายเหลือเกิน ทำให้ยากต่อการคาดเคาถึงความน่าเชื่อถือของร้านแต่ละร้านที่เปิดตัวกันใหม่แบบรายวันเลยทีเดียว
ดังนั้นเพื่อลูกค้าสุดน่ารักของเราเกิดความไว้ใจอยากซื้อของกับร้านค้าของเรา วันนี้ “แม่ค้าผู้น่าlike” เลยเอาวิธีสังเกตร้านออนไลน์ที่ดูน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และดูเป็นมืออาชีพ พ่อค้าแม่ค้าที่ผ่านเข้ามาอ่านก็อย่าลืมเอาวิธีนี้ไปปรับปรุงร้านค้าออนไลน์ของตัวเองกันนะคะ ส่วนใครที่มี 4 ข้อนี้ครบแล้ว “แม่ค้าผู้น่าlike” ก็ขอยกนิ้วให้เลย
1 มีเว็บไซต์หลักหรือไม่ ?
ถ้ามี — ให้ตรวจสอบชื่อผู้จดทะเบียน และวันก่อตั้ง
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่หาได้ง่ายตามโลกออนไลน์ ใครที่เชี่ยวชาญทางด้านการใช้สื่อในโลกออนไลน์อยู่บ่อย ๆ ข้อมูลเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะตรวจสอบกันดู การมีเว็บไซต์หลักให้ติดต่อกัน จะทำให้สร้างควาน่าเชื่อถือ และความมั่นใจให้กับลูกค้าออนไลน์มากขึ้น อย่าน้อยลูกค้าก็จะได้ทราบว่า ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจะต้องหันหน้าเข้ามาพึ่งใคร
2 ขอชื่อ และ เบอร์ติดต่อ หรือ email address
ถ้ามี — ให้นำข้อมูลสืบค้นกับ Google
เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะขายของกันอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ยังไงก็ต้องมีตัวตนจริงอยู่บนโลกใบนี้ ข้อมูลส่วนตัวหรือเบอร์ติดต่อจะต้องมีอยู่จริง และสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา พ่อค้าแม่ค้าที่ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้จะสร้างความน่าสงสัยให้กับเหล่าลูกค้า เพราะไม่ทราบว่าหลังจากการโอนเงินไปแล้ว จะสามารถไปติดต่อกับใครที่ไหนได้อย่างไร
3 เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี ธนาคาร
ให้นำข้อมูลสืบค้นกับ Google ว่ามีประวัติหรือไม่
ตรวจชื่อบัญชี กับชื่อเจ้าของร้าน ว่าตรงกันหรือไม่
เลขที่บัญชี อยากให้ลูกค้าทั้งหลายลองเอาไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ก่อนทำการโอนจริง เพราะบุคคลที่เคยมีคดีการโกงอยู่ ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเอาเลขบัญชีไปป่าวประกาศในโลกออนไลน์ให้ชาวบ้านชาวช่องรู้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ลองเอาเลขบัญชีไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตบ้าง เพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์
4 ตรวจสอบที่อยู่ ที่ตั้งร้าน
คนเราต้องมีบ้าน ถึงไม่มีหน้าร้านก็เถอะ ถ้าไม่เปิดเผย ก็ต้องระวังกันเสียหน่อย
ร้านที่มีที่อยู่ชัดเจน ย่อมได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่าค่ะ หรือบางร้านอาจใช้วิธีเก็บเงินปลายทาง ที่จะให้ลูกค้าอุ่นใจขึ้นอีกขั้นว่าจะได้รับของแน่นอนไม่มีโกง อีกหนึ่งวิธีแม่ค้าพ่อค้าในกทม.นิยมใช้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าที่มีมูลค่าสูงๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป สินค้าเหล่านี้ก็จะมีการนัดรับกัน เพื่อให้ลูกค้ากับเจ้าของร้านได้พบกัน ยิ่งทำให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ
แม้วิธีนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกันเสียหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มพอการลงทุน เพราะรับรองได้เลยว่างานนี้ร้านไม่โกงแน่นอน
cr:http://blog.sellsuki.com/trusted-onlineshop/?utm_source=facebook&utm_medium=post_sellsuki&utm_campaign=blog_trustedshop
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น