จากเด็กข้างถนน...สู่หอคอยง าช้าง
========================
มีเพื่อนๆหลายคนอินบ๊อคเข้า มาถามว่าผมเป็นใคร ทำไมถึงมา สร้างเพจนี้ ผมเลยอยากเล่าประวัติคร่าวๆ ให้คุณฟังสักนิดก่อน ทั้งนี้เป็นเพราะ มันเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ ผมศึกษาเรื่องแรงบันดาลใจแล ะวิธีสู่ความสำเร็จนี้มาเกื อบตลอดชีวิต
ผมเกิดมาในครอบครัวที่มีฐาน ะค่อนข้างยากจน แต่ก็ยังมีโอกาสได้เรียนหนั งสือกับเขาบ้าง เนื่องจากความจนมันเลยทำให้ ผมมีความทะเยอทะยานสูง ชีวิตผมตอนเด็กๆ ก็มีสภาพไม่แตกต่างจากเด็กข ้างถนนธรรมดาๆคนหนึ่ง ผมมีอาชีพเสริมโดยการเก็บ.. . เศษเหล็ก เศษกระดาษ พลาสติก ตามข้างถนนมาขายหลังเลิกเรี ยน ต้องแอบทำนะเพราะกลัวพ่อ-แม ่รู้ นั่นมันเป็นเพราะ เราอยากได้ของเล่นเหมือนเด็ กทั่วๆไปที่เขามีกัน พ่อกับแม่มีเงินให้เราพอแค่ ค่าข้าว กับค่าขนมนิดหน่อย เนื่องจากเรามีพี่น้องหลายค น แต่อาชีพเสริมที่ผมทำตั้งแต ่เด็กบางครั้งมันยังพอเอามา จุนเจือครอบครัวได้บ้าง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเ กิดขึ้น
โชคดีที่ผมเป็นคนขยัน เลยสอบเข้าเรียนต่อในโรงเรี ยนมัธยมชื่อดังในขณะนั้นได้ เริ่มเป็นวัยรุ่นนิดๆแล้ว ก็เลยมีความฝัน ฝันอยากเป็นสถาปนิก ฝันอยากเป็นนักเดินเรือพาณิ ชย์ แต่ก็ไม่เคยได้เลยกับความฝั นเพราะความจริงเราต้องหาเงิ นให้ได้มากๆ เมื่อเราเรียนจบเพื่อช่วยพ่ อกับแม่
ในช่วงจบชั้นมัธยมต้นนั่นเอ ง ทางบ้านก็เริ่มมีปัญหาทางกา รเงินเนื่องจากคุณพ่อป่วยจน แทบจะทำงานไม่ได้เลย แม่เป็นแม่บ้านไม่มีรายได้จ ากทางไหนเลย เราอดมื้อกินมื้อข้าวสารจะก รอกหม้อยังจะไม่มีเลย ผมจำได้ว่าแม่มีเงินให้ไปซื ้อข้าวสารครั้งละ 1 กิโลกรัม มีกันทั้งหมด 5 คน ที่จะต้องกินแบบประหยัดเพื่ อประทังความหิว กับข้าวหรือ ก็มีน้ำปลาบ้าง กากหมูบ้าง สมัยก่อนยังไม่มีน้ำมันพืชเ ขาใช้มันหมูมาเจียวเอาน้ำมั น จะเอาเงินที่ไหนเรียนต่อ แล้วอาชีพที่เราฝันไว้หละ
ผมกลับมานั่งทบทวนตัดสินใจก ับอนาคตของตนเอง ระหว่างความฝันกับอนาคต จึงตัดสินใจสอบเข้าเรียนต่อ ที่ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า พระนครเหนือ ในระดับ ปวช.ถึงปริญญาตรี เพราะที่นี่มีภาคค่ำยังพอจะ มีโอกาสเรียนจนจบได้ แล้วจบออกมาแล้วยังมีโอกาสห าเงินได้อีกมากมายในฐานะวิศ วกร ในระหว่างที่เรียนไปทำงานไป มันช่างเป็นชีวิตที่เหน็ดเห นื่อยเอาการ นั่งรถเมล์วันละ 3 ต่อ ใช้เวลาไป-กลับเกือบ 4 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่นเต็ม ตัวของผมจึงหายไป ชีวิตผมช่วงนี้มีแต่งานกับเ รียน ในระหว่างที่ผมฝึกงานอยู่ที ่บริษัทแห่งหนึ่งผมก็ได้ค้น พบว่า สิ่งที่ผมคิดว่าการเป็นวิศว กรจะมีรายได้สูงรองจากหมอ นั้นผิดเสียแล้ว นักขายต่างหาก คุณเชื่อไหมวิศวกรเรียนก็ยา กกว่าพาณิชย์ จบก็ยากกว่า สอบเข้าก็ยากกว่า ทำไมเซลล์แมนหรือพนักงานขาย ที่บริษัทที่ผมทำงานมีรถขับ แล้วยังมีรายได้มากกว่าวิศว กรรุ่นพี่ๆที่ทำงานอยู่ก่อน อีก ทำงานก็สบายกว่า นี่มันอะไรกัน ผมคิดผิดหรือเปล่า ผมเฝ้าคิดมาตลอดเวลาในช่วงน ั้น ประมาณสัก 2 ปี เห็นจะได้
คุณเชื่อไหมผมตัดสินใจไม่เร ียนต่อระดับปริญญาตรี ทั้งๆที่อีก 2 ปี ก็จะจบ จะได้เป็นวิศวกรตามที่หวัง ผมเลือกที่จะออกมาทำงานหาปร ะสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมสัก พักหนึ่ง ว่ามันจะเป็นเหมือนตอนที่ฝึ กงานไหม ระหว่างอาชีพวิศวกรกับนักขา ยผมต้องการเป็นอะไรกันแน่ แล้วผมก็ทดลองทำตามที่อยากจ ะรู้อีกครั้ง ผมใช้เวลาอีก 1 ปีกว่าๆ กับงานด้านวิศวกรรม ภาพมันก็ออกมาเหมือนเดิมเหม ือนจะตอกย้ำความคิด ที่ต้องการได้รับคำตอบมาตลอ ด 3-4 ปี ที่ผ่านมาว่า ระหว่างวิศวกรกับพนักงานขาย อะไรคือคำตอบ ที่สุดก็ได้รับคำตอบว่า อาชีพที่จะทำให้ผมประสบความ สำเร็จได้ในชีวิตก็คือ..“งา นขายเท่านั้น”
แต่หนทางมันก็ไม่ได้ราบรื่น อย่างที่คิด ผมจะไปขายอะไร แล้วผมจะไปขายอย่างไร โชคดีที่ผมขอย้ายจากฝ่ายวิศ วกรรมมาฝ่ายขายของบริษัทที่ ผมทำงานอยู่ได้ เลยทำให้ผมไม่ต้องไปหาที่ทำ งานใหม่ ผมได้เริ่มต้นจากสิ่งที่เคย รู้มาแล้ว และออกไปทำงานขาย 6 เดือน ที่ผมมาอยู่ฝ่ายขาย ผมขายอะไรไม่ได้เลย ทำไมคนอื่นขายได้ ผมคิดผิดอีกหรือเปล่านะ หรือว่าผมจะหลงทางอีกแล้ว ผมพยายามหาคำตอบอยู่อีกนานพ อควร เพื่อนๆผมในรุ่นเดียวกันก็เ รียนกันจบหมดแล้ว ไปเป็นวิศวกรตามโรงงานที่มี เงินเดือนสูงๆ
ผมเริ่มมีความคิดผุดขึ้นมาใ นสมองอีกครั้งว่า “ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการข าย” ผมพยายามหาหนังสือทุกเล่ม ที่เขียนเกี่ยวกับการขายมาอ ่าน เข้าฟังเข้าอบรมที่เกี่ยวกั บการขายทุกคอร์ส เท่าที่จะหาได้ในตอนนั้น ผมเรียนรู้ลองผิดลองถูกอยู่ นาน จนเกือบจะเลิกล้มเสียก็หลาย ครั้ง แล้วผมก็ขายได้ เกือบหนึ่งปีเต็มๆ ที่ผมต้องทนอยู่กับคำปฏิเสธ หารายชื่อลูกค้าไม่ได้ วันๆไม่รู้จะไปไหน นั่งตามร้านกาแฟบ้าง เหมือนคนเลื่อนลอย ผมพยายามค้นหาวิธีต่างๆ จนกว่าจะขายได้
คุณรู้ไหม..... ณ.จุดนี้สภาพมันก็ไม่ต่างอะ ไรจากคนหลงทาง ผมผ่านมันมาได้ในที่สุด ความคิดทางการขายหลักการต่า งยังวนเวียนอยู่ในสมองไม่รู ้จบ และแล้วสิ่งเร้าใหม่ๆในความ คิดก็เกิดขึ้นอีกจนได้ “เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นเจ้าของกิจการ”
เก็บเงินมาตั้งนานคิดจะซื้อ บ้านให้พ่อแม่อยู่ เอาอย่างไรดีหนอ? เงินเก็บแสนกว่าบาทจะทำอะไร ได้ แต่ถ้าซื้อ Town house เล็กๆ 2 ชั้น ก็พอจะได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านจะเอา อย่างไรดีนะ แล้วความคิดมันก็เริ่มก่อตั วขึ้นใหม่ เมื่อผมมีแนวร่วมเป็นเพื่อน ที่เรียนหนังสือมาด้วยกันตั ้งแต่ชั้นมัธยมต้นมีความคิด ว่า เราต้องระดมทุนมาเพื่อต่อยอ ดในการทำธุรกิจ และแล้ว....ความคิดก็ก่อตัว เป็นความจริง เราระดมทุน ได้ผู้ร่วมลงทุนกับเราเป็นจ ำนวนเงิน... “หนึ่งล้านบาท” คุณลองคิดดูเงินจำนวนไม่น้อ ยเลยนะกับการเริ่มต้นธุรกิจ ถ้าผมจำไม่ผิดตอนนั้นผมอายุ ประมาณ 25 ปี ถ้าเทียบปี พ.ศ. ก็น่าจะประมาณ พ.ศ. 2532 ตั้งประมาณเกือบ 20 ปี
เราเริ่มต้นทำกิจการของเราด ้วยความมุ่งมั่น หาหนทางต่างๆ รวมทั้งช่องทางการตลาดทั้งห ลาย แต่ทั้งนี้เรามีแต่ใจที่เต็ มร้อยกับ ประสบการณ์มีเพียงน้อยนิด ผลจะเป็นอย่างไร ผมว่าคุณก็น่าจะมีคำตอบอยู่ ในใจแล้วนะ....เจ๊งไม่เป็นท ่า...
บ้านของพ่อกับแม่.....บ้านข องเรา เหลือแต่ความฝันที่ว่างเปล่ า.....หมดตัวครับ.... แล้วจะทำอย่างไรต่อไปดีคุณช ่วยบอกผมด้วย ผมหมดแรง....ผมหมดเงิน..... ผมหมดหวัง..... ท้อแท้แม้แต่จะคิดที่จะทำอะ ไรต่อ ปล่อยให้เวลาผ่านไป วันแล้ววันเล่า กับบะหมี่สำเร็จรูปซองแล้วซ องเล่า อนิจจา...เส้นทางของ “เจ้าของกิจการส่วนตัว” แล้วความโชคร้ายมันก็ไม่ได้ อยู่กับเราตลอดไปหรอก
หลังชนฝา อะไรมาก็คว้า เข้าสู่วงการธุรกิจ MLM ครั้งแรกในชีวิต เพียง 6 เดือนมีรายได้นับแสน 13 เดือน มีรายได้ 1.5 ล้าน เอาเงินมาลงทุนใหม่อีกครั้ง ไม่เข็ดหรอกครับ แต่คราวนี้ผมเริ่มมีสติมากข ึ้นรอบครอบขึ้น ทุกอย่างน่าจะไปได้ดี ร่วมหุ้นกับเพื่อนก่อตั้งบร ิษัท แลนด์ เอ็กเซ็คคิวทีฟ จำกัด เพื่อทำบ้านจัดสรร (พ.ศ.2535 สร้างทาวน์เฮาส์ ที่ซอย ราชครู และสุขุมวิท 33) คุณคิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไ ป เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะไฟแนนซ์ล่ม 56 แห่ง ติดร่างแหไปด้วย ล้มเหลวเหมือนเดิมถึงตรงนี้ คุณจะทำเหมือนผมหรือเปล่านะ ไม่เข็ดซักที ไม่บ้าก็น่าจะเพี้ยน หรือไม่ก็สติแตกไปแล้ว
ผมกลับไปทำงานประจำอีกครั้ง (พ.ศ.2538) ที่บริษัท ของพี่ชายแท้ๆ
- ออกแบบลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ที่ดีที่สุดในอาเซี่ยน บนยอดตึก โรงแรม เพนิล ซุล่า
- ออกแบบระบบไฟฟ้าควบคุมการผล ิตรถยนต์ ให้กับบริษัท ชั้นนำของญี่ปุ่น หลายค่าย
ผมถูกบีบให้ออกจากงาน เนื่องจากภาวะฟองสบู่แตกเมื ่อปี พ.ศ.2540 พี่ชายผมแท้ๆสายเลือดเดียวก ัน คุณว่านี่มันคืออะไรกัน เพื่อปากท้องของครอบครัวเขา ผมไม่โกรธหรอกผมเข้าใจความร ู้สึกของเขา สวรรค์แกล้งหรือฟ้าลิขิต ถ้าผมผ่านไปไม่ได้ก็จบ ผมไม่รู้จะไปสมัครงานที่ไหน อายุผมก็มากขึ้น สภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย เงินเก็บเหลือแค่แสนกว่าบาท รถก็ไม่มี คำนวณแล้วอยู่ได้แค่ 4 เดือน ภาระก็มีไม่รอดก็จบ พ.ศ. 2540
ต้องเริ่มก่อตั้งธุรกิจของต ัวเองอีกครั้งภายใต้ชื่อ บริษัท ธนธาดา จำกัด ท่ามกลางมรสุมของการพังทลาย ของเศรษฐกิจ ด้วยเงินเก็บไม่ถึง 1 แสน บาท ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่มีคนจ้ าง พยายามขายของทุกอย่าที่มีคน สนใจ ผมทำธุรกิจด้วยจิตใจจริงๆ ไม่มีรถ ไม่มีเงินทุน ไม่มีลูกค้า มีแต่ความคิด กับตัวเรา ผมไม่มีทางเลือกคืนวันอันแส นสาหัสผ่านไปด้วยความยากเข็ น และแล้วแสงรำไรก็เกิดขึ้นใน ถ้ำจริงๆ ผมผ่านมันมาได้เพราะ “ความไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ” เป็นสิ่งที่ผมมาหวนคิดได้ใน ภายหลัง ปัจจุบันนี้มีมูลค่าทรัพย์ส ินนับสิบๆล้านด้วยการทำงานเ พียงเดือนละ 3 วัน เวลาจึงมีเหลือมาก เริ่มให้ความสนใจกับโลกออนไ ลน์ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2549
- มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนดังต ่างประเทศในการใช้สื่อออนไล น์ เขียนบทความผ่านโลกออนไลน์ท ี่มีคน
ติดตามมากกว่า 1 แสนคน เป็นคนนำระบบ Attraction Marketing มาใช้ในยุคแรกของประเทศไทย
- ทำวีดีโอผ่าน You tube ที่มียอดคนดู มากกว่า 6 แสนคน
- ปัจจุบัน ขยายสาขาสินค้าเพิ่มซึ่งเป็ นก้าวกระโดด เพื่อทำการตลาดผ่านโลกออนไล น์ เปิดตัวสินค้าวันแรก ก็ถูกสั่งจองสินค้าที่ผลิตอ อกมา เกินกว่า 25% ภายใต้แบรนด์ KDO
- เปิดคอร์ส สัมมนาเกี่ยวกับทางด้าน Psychology of E-Commerce Marketing ที่มีมนุษย์เงินล้านมาเรียน หลายคน
- บริษัท mlm ระดับโลกหลายแห่งเชิญให้ผมไ ปออกแบบสื่อสินค้าให้ และออกแบบสื่อให้กับบริษัท SME อีกหลายที่
เพราะความจนความลำบาก ทำให้ผมมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟัน อุปสรรคทำให้ผมสามารถสร้างผ ลงานที่เหนือกว่าคนทั่วๆไป ผมพยายามหาคำตอบของความสำเร ็จว่า แท้ที่จริงแล้วมันซ่อนอยู่ต รงไหนในจิตใจเรา 20 กว่าปีแล้ว ที่ผมผ่านมันมา ผมเรียนรู้การเกิดและการดับ ของมัน ครั้งแล้วครั้งเล่า จากธุรกิจของผมหรือของเพื่อ นๆ แล้ววันนี้ผมพบคำตอบแล้ว เกี่ยวกับความสำเร็จสร้างได ้ด้วย 2 มือเปล่า ความสำเร็จระดับนี้ไม่ได้เก ิดมาบนกองเงินกองทองจะทำได้ แต่เกิดจากความมุ่งมั่นที่จ ะผลิตผลงานที่สุดยอด ซึ่งทุกคนสามารถเรียนรู้และ ทำมันได้ในสิ่งที่คุณรักและ สิ่งที่คุณเป็น หรือแม้กระทั่งในสาขาอาชีพท ี่คุณรักไม่จำเป็นต้องเป็นธ ุรกิจเสมอไป แล้วเรื่องราวต่างๆที่ผมได้ นำมาแบ่งปันในเพจนี้ บางส่วนก็เป็นสิ่งที่ผมได้เ รียนรู้และลงมือทำมันมาตลอด ชีวิต เพื่อให้ผู้คนได้รับสิ่งดีๆ ผ่านบทความที่ผมตั้งใจมอบให ้จากใจ
พจน์ นิรมิตตานนท์
ติดตามเรื่องราวดีๆ เพิ่มเติมได้ที่เพจ https://www.facebook.com/ InspirationOfLifes
========================
มีเพื่อนๆหลายคนอินบ๊อคเข้า
ผมเกิดมาในครอบครัวที่มีฐาน
โชคดีที่ผมเป็นคนขยัน เลยสอบเข้าเรียนต่อในโรงเรี
ในช่วงจบชั้นมัธยมต้นนั่นเอ
ผมกลับมานั่งทบทวนตัดสินใจก
คุณเชื่อไหมผมตัดสินใจไม่เร
แต่หนทางมันก็ไม่ได้ราบรื่น
ผมเริ่มมีความคิดผุดขึ้นมาใ
คุณรู้ไหม..... ณ.จุดนี้สภาพมันก็ไม่ต่างอะ
เก็บเงินมาตั้งนานคิดจะซื้อ
เราเริ่มต้นทำกิจการของเราด
บ้านของพ่อกับแม่.....บ้านข
หลังชนฝา อะไรมาก็คว้า เข้าสู่วงการธุรกิจ MLM ครั้งแรกในชีวิต เพียง 6 เดือนมีรายได้นับแสน 13 เดือน มีรายได้ 1.5 ล้าน เอาเงินมาลงทุนใหม่อีกครั้ง
ผมกลับไปทำงานประจำอีกครั้ง
- ออกแบบลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ที่ดีที่สุดในอาเซี่ยน บนยอดตึก โรงแรม เพนิล ซุล่า
- ออกแบบระบบไฟฟ้าควบคุมการผล
ผมถูกบีบให้ออกจากงาน เนื่องจากภาวะฟองสบู่แตกเมื
ต้องเริ่มก่อตั้งธุรกิจของต
- มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนดังต
ติดตามมากกว่า 1 แสนคน เป็นคนนำระบบ Attraction Marketing มาใช้ในยุคแรกของประเทศไทย
- ทำวีดีโอผ่าน You tube ที่มียอดคนดู มากกว่า 6 แสนคน
- ปัจจุบัน ขยายสาขาสินค้าเพิ่มซึ่งเป็
- เปิดคอร์ส สัมมนาเกี่ยวกับทางด้าน Psychology of E-Commerce Marketing ที่มีมนุษย์เงินล้านมาเรียน
- บริษัท mlm ระดับโลกหลายแห่งเชิญให้ผมไ
เพราะความจนความลำบาก ทำให้ผมมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟัน
พจน์ นิรมิตตานนท์
ติดตามเรื่องราวดีๆ เพิ่มเติมได้ที่เพจ https://www.facebook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น