วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

เรื่อง “Elon Musk” เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะ “ไอรอนแมน” ในโลกจริง

เรื่อง “Elon Musk” เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะ “ไอรอนแมน” ในโลกจริง
ที่มา : beartai
ใครจะไปคิดว่า Tony Stark หนุ่ม “ไอรอนแมน” ของเรานั้น จะมีคนหนึ่งในโลกที่ไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กันอย่าง “Elon Musk” เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะ ผู้มีความสามารถในการสร้างเทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ
“Elon Musk” คือ คนหนุ่มอัจฉริยะ ผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก นี่เองเป็นจุดที่ทำให้ Jon Favreau ผู้กำกับหนังฟอร์มยักษ์ Ironman ประกาศต่อสาธารณชนว่า Elon คือ ต้นแบบที่เขานำมาสร้าง “Tony Stark” เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะพระเอกของเรื่องนั่นเอง Jon Favreau นับถือ Elon มากถึงขนาดที่เชิญให้ Elon ไปเข้าฉากกับ Tony Stark ในหนัง ironman 2 ซี่ง ออกฉายจริงด้วยนะเอาสี้!!
Elon Musk เป็นลูกครึ่งของคุณแม่นักโภชนาการชาวแคนาดา และคุณพ่อวิศวกรชาวแอฟริกาใต้ Elon เป็นหนอนหนังสือตัวยงตั้งแต่เด็กๆ เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการอ่านหนังสือการ์ตูน และภาพจำลองวิทยาศาสตร์ เมื่ออายุ 10 ขวบ เขาได้ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ถัดจากนั้น 2 ปี เขาศึกษาคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง และพัฒนาซอฟต์แวร์ ออกมาเป็นเกมส์เกี่ยวกับอวกาศ ชื่อ Blastar ซึ่งมันขายได้ในราคา 500 เหรียญ (17,500บาท) นี่เก่งแต่เด็กจริงๆ!! เมื่ออายุได้ 17 ปี เขาย้ายออกจากแอฟริกาใต้ โดยมาอยู่ที่แคนาดา และไปเรียนต่อปริญญาตรีถึง 2 สาขาพร้อมกัน คือ เศรษฐศาสตร์ และด้านฟิสิกส์ ที่ University of Pennsylvania และอายุเพียง 24 ปี เขาก็เข้าเรียนระดับด็อกเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยดังอย่าง Stanford แต่ก็เรียนได้เพียง 2 ปีเท่านั้นก็ลาออก เพราะเขาไม่ต้องการเรียนอีกแล้ว จึงหันมาทำธุรกิจของตัวเอง
เขาหันมาเริ่มธุรกิจด้วยตัวเอง โดยเริ่มสร้างซอฟต์แวร์สิ่งพิมพ์ออนไลน์ ชื่อ Zip2 ซึ่งถือว่าล้ำมากในยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ไม่กี่ปีต่อมาบริษัทของเขาก็ดังจนมีผู้มาขอซื้อไป และทำรายได้ให้เขาถึง 307 ล้านเหรียญ (ประมาณ 10,745 ล้านบาท) ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียง 28 ปีเท่านั้น!! (นี่กินอะไรเป็นอาหาร ขำน้า) แต่ถึงจะมีเงินมากมายแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดที่จะตอบโจทย์ความคิดใหม่ๆ ด้านนวัตกรรมของตัวเองต่อไป Elon จึงก่อตั้งระบบการเงินออนไลน์ และการชำระเงินผ่านอีเมล์ โดยมีชื่อกิจการคือ X.com นั่นคือจุดเริ่มต้นของระบบชำระเงิน Pay-pal ที่แพร่หลายไปทั่วโลก และขายกิจการไปให้แก่ eBay ในปี 2002 นั่นทำเงินส่วนตัวให้เขาอีกถึง 165 ล้านเหรียญเลยทีเดียว (ประมาณ 5,775 ล้านบาท)
ยังจ้า ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เมื่ออายุ 30 ปี เขาต้องการพิสูจน์ตัวเอง ว่าเขาจะมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน ความฝันถึงนวัตกรรมด้านการท่องอวกาศของ Elon จึงเริ่มขึ้น จึงก่อตั้งโครงการ SpaceX เป้าหมายคือการตั้งรกรากบนดาวอังคาร และ ในระหว่างที่ทำโครงการนี้ เขายังได้ตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และเป็นประธาน SolarCity ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ติดตั้งแผงโซลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ในเวลานั้นทรัพย์สินของเขาทั้งหมดมีมากถึง 7,700 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2.69 แสนล้านบาท) นี่เหลือกินเหลือใช้เลยนะ
Elon เล่าถึงความคิดจินตนาการของเขาว่า หลังจากการลาออกในการเรียนด็อกเตอร์มาทำธุรกิจว่า “ตอนนั้นผมรู้แค่ว่า งานที่ผมจะทำ มันจะต้องแก้ปัญหาสำคัญของมนุษยชาติ ดคือ อินเตอร์เน็ต พลังงานสะอาด และอวกาศ เมื่อคุยกันถึงเป้าหมายแล้ว ที่เหลือก็คือลุยแบบกัดไม่ปล่อย”
ในขณะที่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า จรวดอวกาศ แผงโซลาร์เซลล์ ของเขากับลำสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่สังคมโลกอย่างเต็มที่ เขาก็โดดเข้าสู่การกุศลอย่างเต็มตัว โดยก่อตั้ง Musk Foundation ที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาวิทยาศาสตร์ ดูแลสุขภาพเด็ก และส่งเสริมพลังงานสะอาด ถึงแม้ Elon จะรวยขนาดนี้นะ แต่เขาก็ยังทำงานถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลยล่ะ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องหย่าร้างกับภรรยาถึง 2 คน แต่เขายังมีลูก 5 คน ที่พร้อมจะก้าวเดินตามรอยเท้าของเขาต่อไปแน่นอน
ใครอยากรวยก็เอา Elon Musk เป็นไอดอลได้เลยนะคะ อัจฉริยะตั้งแต่เด็กแบบนี้ โตมารับรองรวยเหลือกินเหลือใช้แบบนี้แน่นอน!! อ้อ ต้องขยันด้วยนะจ๊ะทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น