วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

» โปรดระวัง ANTs หรือ "คิดลบโดยอัตโนมัติ" (Automatic Negative Thoughts)

» โปรดระวัง ANTs หรือ "คิดลบโดยอัตโนมัติ" (Automatic Negative Thoughts)
» โดย : พอใจ พุกกะคุปต์

“ความคิดนั้นสำคัญมาก ถือได้ว่าเป็นแม่บทใหญ่ของคำพูดและการกระทำทั้งปวง”

-- พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2540 --

ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกครั้ง เพื่อเป็นหลักน้อมนำในการคิดค่ะ

John C. Maxwell หนึ่งในกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผู้นำ ย้ำว่า... สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จ มีเหมือนกันคือ

“How they think” -- วิธีคิดของพวกเขา --

.
----------------------------------
.

👉 ข้อจำกัดที่สำคัญที่สุด ที่หยุดความสำเร็จของเราได้อย่างชะงักนัก คือ “กรอบความคิด” ของเรานั่นเอง

หากคิดว่า “ทำได้” หรือ “น่าจะลองทำดู” “น่าจะลองสู้ใหม่” เท่ากับ...ยังไม่จนหนทาง

หากคิดว่า “ทำไม่ได้” ...คำตอบนี้ ฟันธงง่าย ว่าจะไปถึงไหน

เพราะหนทางที่แสนสั้นนั้น ลงเอยได้สองสถาน
คือ ทำไม่ได้! หรือ ไม่ได้ทำ!

.
----------------------------------
.

แม้แต่วงการแพทย์ อาทิ Mayo Clinic กลุ่มองค์กรชั้นแนวหน้าสุดของโลก ในเรื่องการรักษาพยาบาลและการวิจัยด้านสุขภาพ ยังระบุว่า...

การคิดเชิงบวกสำคัญยิ่ง เพราะส่งผลดีมากมายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น...

...ระดับความเครียดที่ต่ำลง
...สุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดีขึ้น
...ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือด
...ทำให้อายุยืนยาวขึ้น

Mayo Clinic และกูรูด้านจิตวิทยา แนะนำว่า เราต้องหมั่นฝึกทำลาย ANTs ซึ่งย่อมาจาก Automatic Negative Thoughts นั่นคือ...

การคิดอะไรเป็นร้ายได้หมดจดอย่างอัตโนมัติจัดเต็ม คิดจนเครียดเพราะความทุกข์เบียดบัง

หากไม่มั่นใจว่ากรอบความคิดของฉัน มันไปอยู่แนวบวก หรือแนวลบแบบ ANTs ให้ลองใคร่ครวญ ตั้งใจฟังความคิดของตนเองว่า...

ยามมีปัญหา เราคิดอย่างไร พูดกับตนเองว่าอะไร โดยใช้หลัก 3 Ps

.
----------------------------------
.

1. เราคิดว่าสิ่งที่เกิด Permanent ยืนยง ตลอดไป..หรือไม่

สำหรับมนุษย์กรอบลบ ยามที่พบความผิดพลาด หรือความยากลำบากในชีวิต เขามักฟันธงว่า ฉันไม่มีทางทำมันได้ ฉันไม่มีทางทำเป็น (ไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าอย่างไร)

เมื่อถูกต่อว่าในที่ประชุม เขาก็จะบ่นกับตนเองว่า “ฉันซวยตลอดชีวิต”

คนกรอบบวก จะบอกตนว่าไม่มีอะไรยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องร้าย

เมื่อเจองานยากที่ไม่คุ้นเคย เขาบอกตัวเองว่า
“แค่ยังทำไม่เป็น” “แค่ยังทำไม่ได้”

นั่นหมายถึงว่า ขอเวลา ขอโอกาส ครั้งหน้าไม่น่าพลาดเหมือนครั้งนี้

ถูกดุในที่ประชุม เขาคิดหาสาเหตุได้ว่า “เมื่อคืน พักผ่อนไม่พอ เลยตอบคำถามไม่ดี ครั้งหน้าต้องเตรียมการเนิ่น ๆ จะได้ไม่ต้องนอนดึก”

.
----------------------------------
.

2. เราคิดว่าสิ่งที่เกิด Pervasive ...ครอบคลุม เหมารวม..หรือไม่

คนกรอบลบ มักเหมารวม

ถูกน้อง Pretty เบี้ยวงาน ส่งผลให้คิดว่า “พวกสวยแบบหัวทั้งกลวงทั้งเก๊ไว้ใจไม่ได้”

ขณะที่คนกรอบบวก จะเว้นที่ไว้ให้โลกมีโอกาสสวยบ้าง

“ครั้งหน้าจะเลือกจ้างใครต้องเช็คผลงานให้ดี เพราะบางคนมีประวัติทิ้งงานกลางคัน”

เมื่อมีปัญหา เขาตระหนักว่า ย่อมมีสาเหตุ แยกแยะได้เป็นกรณี ๆ ไป ไม่เหมารวมจนโลกเฉาเหงาตามไปด้วย

.
----------------------------------
.

3. เราคิดว่าสิ่งที่เกิดเป็นเรื่อง Personal เป็นเพราะเรา..หรือไม่

คนกรอบลบ เมื่อเกิดความผิดพลาด จะเริ่มขลาดและหวาดหวั่น ว่าฉันดีไม่พอ

เช่น ยามมีปัญหาหย่าร้าง เขาจะบอกตนว่า “ฉันมันโง่จริงๆ (Personal) ปล่อยให้ผู้ชายทั้งโลก (Pervasive) หลอกตลอดชาติ (Permanent)..”

กระหน่ำทั้ง 3Ps ให้เห็นในประโยคเดียวเลย!

ขณะที่คนมองบวก ไม่กระหน่ำซ้ำเติมตนยามมีปัญหา
เขาแยกแยะได้ว่า มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงตนเอง

“ผู้ชายคนนี้ไม่จริงใจ ขอยืมเงินแล้วไม่ใช้ตั้งแต่จีบกัน ฉันเองก็พลาดที่เร่งตัดสินใจ เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับครั้งหน้า (ถ้ามี)”

.
----------------------------------
.

ลองหันไปดูวงการอื่น อาทิ มืออาชีพขั้นเทพ แบบนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค ก็ต้องฝึกใช้ทักษะ 3Ps อย่างมีวินัย

จากการวิจัยเชิงจิตวิทยา พบว่า คนเราพูดหรือคิดกับตัวเอง หรือ Self Talk นาทีละ 300-1,000 คำ!

หากคำเหล่านั้น ตอกย้ำความผิดพลาด ความโง่เง่า และทุกสิ่งที่อับเฉาในชีวิต

ลองคิดดูว่านักกีฬาที่ต้องผ่านอุปสรรคนานับประการ คงตัดสินใจได้ง่ายว่า ไปขายกาแฟ ปลอดภัยกว่า ไม่เหนื่อย ไม่หน้าแตก แถมไม่ต้องผิดหวัง

ดังนั้น นักกีฬาโอลิมปิค จึงถูกฝึกให้ Self Talk จากกรอบบวก ว่า...

“ฉันพร้อมที่สุดแล้ว”
“ฉันจะทำอย่างเต็มที่”
“วันนี้ฉันทำให้ดีที่สุดได้

แม้ระหว่างการแข่งขันจะเริ่มเป็นรอง แต่ก็ต้องกลับมามีสติกับปัจจุบัน สั่งตัวเองได้ว่า

“ต้องทำให้ดีที่สุด”

ที่ผ่านแล้ว ผ่านไป ที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องกังวล แต่นาทีนี้ ต้องดีที่สุด

ตอนนี้...ท่านผู้อ่าน Self Talk ว่าอะไร ได้ยินบ้างไหมคะ

.
----------------------------------
.

Credit บทความ : พอใจ พุกกะคุปต์ - วิทยากรและที่ปรึกษาองค์กรชั้นนำจำนวนมาก | คอลัมน์ ถอดรหัสธุรกิจ - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

.
----------------------------------
.

💡 บทเสริม : เจาะลึก Automatic Negative Thoughts : ANTs

ตามปกติแล้ว คนเราจะ "คิดลบ" เพื่อความอยู่รอด

ซึ่งการคิดลบแบบนี้ทำให้เกิด "มด" ตัวที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ Automatic Negative Thoughts : ANTs

หมายถึงการเป็น "คนคิดลบโดยอัตโนมัติ"

Dr. Daniel G. Amen ซึ่งเป็นจิตแพทย์ชื่อดังของ USA. กล่าวว่า ในสมองของคนเรามี "มดอยู่ 9 สายพันธุ์" ที่ทำให้เราเกิดความทุกข์

เรามาลองดูว่า มีมดสายพันธุ์ไหนบ้าง ที่อยู่ในสมองของเรา

.
------
.

1. สายพันธุ์ "เสมอ" และ "ไม่เคย"
(ANT#1 - "Always" and "Never")

มดสายพันธุ์นี้มีมากที่สุด เช่น เคยไหมที่เราชอบคิดว่า "เขาไม่เคยฟังฉันเลย" "ฉันผิดพลาดเสมอ" "เขาขึ้นเสียงกับฉันทุกครั้ง"

ซึ่งจริง ๆ แล้ว เหตุการณ์ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่สมองจะคิดแบบเหมารวม
โดยที่จริงแล้ว เขาก็ฟังเราบ้าง เราก็ทำถูกบ้างผิดบ้าง

หรือ บางทีเขาก็รับฟังเราไม่ได้ขึ้นเสียงกับเราทุกครั้ง เป็นต้น

.
------
.

2. สายพันธ์ "เมินสิ่งดี ดูสิ่งลบ"
(ANT#2 - "Focusing on the Negative")

มดสายพันธุ์นี้ ทำให้เรามองแต่เฉพาะด้านลบ เช่น "ล้างรถทีไร ฝนตกทุกที"

แต่จริง ๆ แล้ว เราล้างรถ 10 ครั้ง ฝนอาจจะตก 1 ครั้ง แต่เรามัก Focus ไปที่ความคิดด้านลบ

.
------
.

3. สายพันธุ์ "หมอดูซาดิสต์"
(ANT#3 - "Foutune Telling")

มดสายพันธุ์นี้ร้ายกาจมาก เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตเรา เช่น เราคิดว่า
"เดี๋ยวตอนที่เราขึ้นไปพูดบนเวที คนคงหัวเราะเยาะเราแน่"

ซึ่งการคิดแบบนี้ จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นผิดปกติ มือสั่น ขาสั่น เสียงสั่น และลืมบท ทำให้เวลาขึ้นไปพูด คนก็จะหัวเราะเยาะเราจริง ๆ

.
------
.

4. สายพันธุ์ "อ่านใจไปเรื่อยเปื่อย"
(ANT#4 - "Mind Reading")

มดสายพันธุ์นี้ ชอบเดาใจ คิดไปเองในแง่ลบ เช่น เห็นคนจับกลุ่มคุยกัน ก็คิดว่า "คนพวกนั้น กำลังนินทาเราแน่ ๆ เลย"

หรือ หัวหน้าพูดอะไรในภาพรวมในที่ประชุมก็คิดว่า "หัวหน้ากำลังหมายถึงเราแน่เลย"

ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการคิดไปเอง

.
------
.

5. สายพันธุ์ "รู้สึก...แต่ไม่นึกคิด"
(ANT#5 - "Thinking with Your Feelings")

มดพันธุ์นี้ ทำให้เราชอบมีความรู้สึกต่อสิ่งต่าง ๆ ในแง่ลบ เช่น "ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นส่วนเกินของหน่วย" "ฉันรู้สึกว่าใคร ๆ ก็ไม่รักฉัน"

ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นความรู้สึกของเราเอง ไม่ใช่ความรู้สึกที่คนอื่นมีต่อเรา

.
------
.

6. สายพันธุ์ "หมกมุ่นอยู่กับอดีต"
(ANT#6 - "Guilty of Beating)

มดสายพันธุ์นี้ทำให้เราชอบย้อนคิดถึงอดีต เช่น ติดคำพูดว่า "ถ้าเพียงแต่ตอนนั้น เราไม่ตัดสินใจผิด ชีวิตเราคงไม่เป็นแบบนี้"

หรือ "ไม่น่าเลย ฉันไม่น่าพูดกับพ่อแม่อย่างนั้นไปเลย"

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่ควรเอาอดีตเป็น "ห้องขัง" ชีวิตเรา แต่ควรใช้อดีตเป็น "ห้องเรียน" ที่เราจะไม่ทำแบบนั้นอีก

.
------
.

7. สายพันธุ์ "ตราหน้า แล้วด่าให้ยับ"
(ANT#7 - "Labeling")

มดพวกนี้ ชอบตราหน้าคนอื่น เช่น "ไอ้พวกรากหญ้า คิดไม่เป็น" "ไอ้พวกคนจีนเสียงดัง" "ไอ้พวกเด็กเจนวายหัวดื้อ"

ซึ่งแท้จริงแล้ว...

...มีคนรากหญ้ามากมายที่หัวดีกว่าคนจบปริญญาเอก
...มีคนจีนมากมายที่มีกิริยาเรียบร้อย ...และมีเด็กเจนวายมากมายที่น่ารักและเคารพผู้ใหญ่

.
------
.

8. สายพันธุ์ "เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น"
(ANT#8 - "Personalization")

มดพันธุ์นี้มาจากนิทานเรื่องหนึ่ง ที่มีไก่ตัวหนึ่งลุกออกไปขันทุกเช้า พอวันหนึ่ง ไก่ป่วยหนักมาก ลูก ๆ ก็บอกว่า พ่อวันนี้ไม่ต้องไปขันหรอก

แต่พ่อบอกว่าไม่ได้หรอก "เพราะพ่อขัน ตะวันจึงขึ้น
ถ้าพ่อไม่ออกไปขัน ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้น แล้วโลกจะแย่แน่"

ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองคือคนสำคัญเกินเหตุ

.
------
.

9. สายพันธุ์ "คุณน่ะทำ"
(ANT#9 - "Blame")

มดสายพันธุ์นี้น่ากลัวที่สุด เพราะจะทำให้เราคิดว่า ที่ชีวิตเราเป็นแบบทุกวันนี้ เพราะ พ่อแม่ หัวหน้า เพื่อน สังคม ฯลฯ เป็นต้นเหตุ

มดสายพันธุ์นี้ทำให้เรา "โทษคนอื่น" โดยไม่ยอมหันมาดูตัวเอง

ซึ่งการคิดแบบนี้ เป็นการคิดแบบ"เหยื่อ" คือ คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อของการกระทำ
ของคนอื่น

ซึ่งทำให้ชีวิตหมดพลัง และไร้คุณค่า

...อีกทั้งจะไม่ยอมปรับปรุงตัวเอง

.
------
.

👉 อ่านแล้วลองคิดดูว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดลบ หรือมีความทุกข์ แปลว่า

"มดตัวใดตัวหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่ในสมองเราแล้ว"

รู้แล้วก็รีบกำจัดมดตัวร้ายนั้น ...เพื่อชีวิตที่มีพลังและมีความสุขของตัวเราเองและคนที่เรารักครับ

.
------
.

Credit บทเสริม โดย : อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข - ผู้อำนวยการบริหาร ด้านการบริหารจัดการระดับภูมิภาค บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น

.
----------------------------------
.

Credit ภาพประกอบ : https://jcsolorio.files.wordpress.com/2015/04/negativethinking2.jpg
.

#Life1O1Page #Mindset #SelfDevelopment #NegativeThoughts

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น