» โดย : พอใจ พุกกะคุปต์
“ความคิดนั้นสำคัญมาก ถือได้ว่าเป็นแม่บทใหญ่ของค
-- พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด
ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพ
John C. Maxwell หนึ่งในกูรูผู้เชี่ยวชาญด้า
“How they think” -- วิธีคิดของพวกเขา --
.
--------------------------
.
👉 ข้อจำกัดที่สำคัญที่สุด ที่หยุดความสำเร็จของเราได้
หากคิดว่า “ทำได้” หรือ “น่าจะลองทำดู” “น่าจะลองสู้ใหม่” เท่ากับ...ยังไม่จนหนทาง
หากคิดว่า “ทำไม่ได้” ...คำตอบนี้ ฟันธงง่าย ว่าจะไปถึงไหน
เพราะหนทางที่แสนสั้นนั้น ลงเอยได้สองสถาน
คือ ทำไม่ได้! หรือ ไม่ได้ทำ!
.
--------------------------
.
แม้แต่วงการแพทย์ อาทิ Mayo Clinic กลุ่มองค์กรชั้นแนวหน้าสุดข
การคิดเชิงบวกสำคัญยิ่ง เพราะส่งผลดีมากมายต่อสุขภา
...ระดับความเครียดที่ต่ำลง
...สุขภาพจิตและสุขภาพกายที
...ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเ
...ทำให้อายุยืนยาวขึ้น
Mayo Clinic และกูรูด้านจิตวิทยา แนะนำว่า เราต้องหมั่นฝึกทำลาย ANTs ซึ่งย่อมาจาก Automatic Negative Thoughts นั่นคือ...
การคิดอะไรเป็นร้ายได้หมดจด
หากไม่มั่นใจว่ากรอบความคิด
ยามมีปัญหา เราคิดอย่างไร พูดกับตนเองว่าอะไร โดยใช้หลัก 3 Ps
.
--------------------------
.
1. เราคิดว่าสิ่งที่เกิด Permanent ยืนยง ตลอดไป..หรือไม่
สำหรับมนุษย์กรอบลบ ยามที่พบความผิดพลาด หรือความยากลำบากในชีวิต เขามักฟันธงว่า ฉันไม่มีทางทำมันได้ ฉันไม่มีทางทำเป็น (ไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าอย่างไร)
เมื่อถูกต่อว่าในที่ประชุม เขาก็จะบ่นกับตนเองว่า “ฉันซวยตลอดชีวิต”
คนกรอบบวก จะบอกตนว่าไม่มีอะไรยั่งยืน
เมื่อเจองานยากที่ไม่คุ้นเค
“แค่ยังทำไม่เป็น” “แค่ยังทำไม่ได้”
นั่นหมายถึงว่า ขอเวลา ขอโอกาส ครั้งหน้าไม่น่าพลาดเหมือนค
ถูกดุในที่ประชุม เขาคิดหาสาเหตุได้ว่า “เมื่อคืน พักผ่อนไม่พอ เลยตอบคำถามไม่ดี ครั้งหน้าต้องเตรียมการเนิ่
.
--------------------------
.
2. เราคิดว่าสิ่งที่เกิด Pervasive ...ครอบคลุม เหมารวม..หรือไม่
คนกรอบลบ มักเหมารวม
ถูกน้อง Pretty เบี้ยวงาน ส่งผลให้คิดว่า “พวกสวยแบบหัวทั้งกลวงทั้งเ
ขณะที่คนกรอบบวก จะเว้นที่ไว้ให้โลกมีโอกาสส
“ครั้งหน้าจะเลือกจ้างใครต้
เมื่อมีปัญหา เขาตระหนักว่า ย่อมมีสาเหตุ แยกแยะได้เป็นกรณี ๆ ไป ไม่เหมารวมจนโลกเฉาเหงาตามไ
.
--------------------------
.
3. เราคิดว่าสิ่งที่เกิดเป็นเร
คนกรอบลบ เมื่อเกิดความผิดพลาด จะเริ่มขลาดและหวาดหวั่น ว่าฉันดีไม่พอ
เช่น ยามมีปัญหาหย่าร้าง เขาจะบอกตนว่า “ฉันมันโง่จริงๆ (Personal) ปล่อยให้ผู้ชายทั้งโลก (Pervasive) หลอกตลอดชาติ (Permanent)..”
กระหน่ำทั้ง 3Ps ให้เห็นในประโยคเดียวเลย!
ขณะที่คนมองบวก ไม่กระหน่ำซ้ำเติมตนยามมีปั
เขาแยกแยะได้ว่า มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงตนเอง
“ผู้ชายคนนี้ไม่จริงใจ ขอยืมเงินแล้วไม่ใช้ตั้งแต่
.
--------------------------
.
ลองหันไปดูวงการอื่น อาทิ มืออาชีพขั้นเทพ แบบนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิ
จากการวิจัยเชิงจิตวิทยา พบว่า คนเราพูดหรือคิดกับตัวเอง หรือ Self Talk นาทีละ 300-1,000 คำ!
หากคำเหล่านั้น ตอกย้ำความผิดพลาด ความโง่เง่า และทุกสิ่งที่อับเฉาในชีวิต
ลองคิดดูว่านักกีฬาที่ต้องผ
ดังนั้น นักกีฬาโอลิมปิค จึงถูกฝึกให้ Self Talk จากกรอบบวก ว่า...
“ฉันพร้อมที่สุดแล้ว”
“ฉันจะทำอย่างเต็มที่”
“วันนี้ฉันทำให้ดีที่สุดได้
แม้ระหว่างการแข่งขันจะเริ่
“ต้องทำให้ดีที่สุด”
ที่ผ่านแล้ว ผ่านไป ที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องกังวล แต่นาทีนี้ ต้องดีที่สุด
ตอนนี้...ท่านผู้อ่าน Self Talk ว่าอะไร ได้ยินบ้างไหมคะ
.
--------------------------
.
Credit บทความ : พอใจ พุกกะคุปต์ - วิทยากรและที่ปรึกษาองค์กรช
.
--------------------------
.
💡 บทเสริม : เจาะลึก Automatic Negative Thoughts : ANTs
ตามปกติแล้ว คนเราจะ "คิดลบ" เพื่อความอยู่รอด
ซึ่งการคิดลบแบบนี้ทำให้เกิ
หมายถึงการเป็น "คนคิดลบโดยอัตโนมัติ"
Dr. Daniel G. Amen ซึ่งเป็นจิตแพทย์ชื่อดังของ
เรามาลองดูว่า มีมดสายพันธุ์ไหนบ้าง ที่อยู่ในสมองของเรา
.
------
.
1. สายพันธุ์ "เสมอ" และ "ไม่เคย"
(ANT#1 - "Always" and "Never")
มดสายพันธุ์นี้มีมากที่สุด เช่น เคยไหมที่เราชอบคิดว่า "เขาไม่เคยฟังฉันเลย" "ฉันผิดพลาดเสมอ" "เขาขึ้นเสียงกับฉันทุกครั้
ซึ่งจริง ๆ แล้ว เหตุการณ์ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่สมองจะคิดแบบเหมารวม
โดยที่จริงแล้ว เขาก็ฟังเราบ้าง เราก็ทำถูกบ้างผิดบ้าง
หรือ บางทีเขาก็รับฟังเราไม่ได้ข
.
------
.
2. สายพันธ์ "เมินสิ่งดี ดูสิ่งลบ"
(ANT#2 - "Focusing on the Negative")
มดสายพันธุ์นี้ ทำให้เรามองแต่เฉพาะด้านลบ เช่น "ล้างรถทีไร ฝนตกทุกที"
แต่จริง ๆ แล้ว เราล้างรถ 10 ครั้ง ฝนอาจจะตก 1 ครั้ง แต่เรามัก Focus ไปที่ความคิดด้านลบ
.
------
.
3. สายพันธุ์ "หมอดูซาดิสต์"
(ANT#3 - "Foutune Telling")
มดสายพันธุ์นี้ร้ายกาจมาก เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตเรา เช่น เราคิดว่า
"เดี๋ยวตอนที่เราขึ้นไปพูดบ
ซึ่งการคิดแบบนี้ จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นผิ
.
------
.
4. สายพันธุ์ "อ่านใจไปเรื่อยเปื่อย"
(ANT#4 - "Mind Reading")
มดสายพันธุ์นี้ ชอบเดาใจ คิดไปเองในแง่ลบ เช่น เห็นคนจับกลุ่มคุยกัน ก็คิดว่า "คนพวกนั้น กำลังนินทาเราแน่ ๆ เลย"
หรือ หัวหน้าพูดอะไรในภาพรวมในที
ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการคิด
.
------
.
5. สายพันธุ์ "รู้สึก...แต่ไม่นึกคิด"
(ANT#5 - "Thinking with Your Feelings")
มดพันธุ์นี้ ทำให้เราชอบมีความรู้สึกต่อ
ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นความรู้
.
------
.
6. สายพันธุ์ "หมกมุ่นอยู่กับอดีต"
(ANT#6 - "Guilty of Beating)
มดสายพันธุ์นี้ทำให้เราชอบย
หรือ "ไม่น่าเลย ฉันไม่น่าพูดกับพ่อแม่อย่าง
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่ควรเอาอดีตเป็น "ห้องขัง" ชีวิตเรา แต่ควรใช้อดีตเป็น "ห้องเรียน" ที่เราจะไม่ทำแบบนั้นอีก
.
------
.
7. สายพันธุ์ "ตราหน้า แล้วด่าให้ยับ"
(ANT#7 - "Labeling")
มดพวกนี้ ชอบตราหน้าคนอื่น เช่น "ไอ้พวกรากหญ้า คิดไม่เป็น" "ไอ้พวกคนจีนเสียงดัง" "ไอ้พวกเด็กเจนวายหัวดื้อ"
ซึ่งแท้จริงแล้ว...
...มีคนรากหญ้ามากมายที่หัว
...มีคนจีนมากมายที่มีกิริย
.
------
.
8. สายพันธุ์ "เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น"
(ANT#8 - "Personalization")
มดพันธุ์นี้มาจากนิทานเรื่อ
แต่พ่อบอกว่าไม่ได้หรอก "เพราะพ่อขัน ตะวันจึงขึ้น
ถ้าพ่อไม่ออกไปขัน ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้น แล้วโลกจะแย่แน่"
ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองคือคนสำคัญเกิน
.
------
.
9. สายพันธุ์ "คุณน่ะทำ"
(ANT#9 - "Blame")
มดสายพันธุ์นี้น่ากลัวที่สุ
มดสายพันธุ์นี้ทำให้เรา "โทษคนอื่น" โดยไม่ยอมหันมาดูตัวเอง
ซึ่งการคิดแบบนี้ เป็นการคิดแบบ"เหยื่อ" คือ คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อของก
ของคนอื่น
ซึ่งทำให้ชีวิตหมดพลัง และไร้คุณค่า
...อีกทั้งจะไม่ยอมปรับปรุง
.
------
.
👉 อ่านแล้วลองคิดดูว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดลบ หรือมีความทุกข์ แปลว่า
"มดตัวใดตัวหนึ่งกำลังอาละว
รู้แล้วก็รีบกำจัดมดตัวร้าย
.
------
.
Credit บทเสริม โดย : อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข - ผู้อำนวยการบริหาร ด้านการบริหารจัดการระดับภู
.
--------------------------
.
Credit ภาพประกอบ : https://
.
#Life1O1Page #Mindset #SelfDevelopment #NegativeThoughts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น