จันทอน สิดทิไซ สู้สุดฝัน สร้างความมั่นคงทางพลังงานในลาว
เรื่อง: บำรุง อำนาจเจริญฤทธิ์ ภาพ: บมจ. ปิโตเลียมเทรดดิ้ง ลาว และ Thyme D Plus
หนุ่มลาววัยไม่ถึง 40 ผู้มีเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจ เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และความมั่งคั่งของอาณาจักรธุรกิจ หลังนำ ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวเมื่อปลายปี 2557
จันทอน สิดทิไซ รองประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท ผู้ปลุกปั้นบริษัทครอบครัวจนมาถึงฝั่งฝัน ด้วยวัย 38 ปี เขาและครอบครัวทำการค้าขายในลาวมาเนิ่นนานแล้ว ก่อนลงทุนเลือกทำธุรกิจน้ำมัน เพราะ ไม่เพียงแค่เรื่องความท้าทาย แต่ยังอยากช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
วันนี้เขากลายเป็น “เศรษฐีคนใหม่” ของลาวไปแล้ว และการเข้าตลาดของ บมจ. ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว ในตลาดหลักทรัพย์ลาว (Lao Securities Exchange: LSX) ณ กรุงเวียงจันทน์ ราคาหุ้นวิ่งทะยานไปอยู่ที่ 4,700 กีบ จากราคา IPO ที่ 4,000
ย้อนกลับไปเมื่อเขาและภรรยา ก่อตั้งปิโตรเลียม เทรดดิ้ง ขึ้นในปี 2551 ที่บ้านเกิด ทำธุรกิจนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากไทย และจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านปั๊มน้ำมันของตัวเองภายใต้ชื่อการค้า PLUS รวมถึงจัดจำหน่ายโดยตรงไปยังลูกค้าโครงการก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เขาเลือกทำธุรกิจนี้เพราะน้ำมันเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เขาเริ่มธุรกิจน้ำมันด้วยปั๊มเล็กๆในพื้นที่ห่างไกลชนบท โดยใช้ชื่อว่า “ปั้มท้องถิ่นพัฒนา” (PLUS Thongthinphathana) เป็นปั๊มตู้เดียว มี 2 หัวจ่าย สร้างเสร็จภายใน 4 วันโดยประกอบจากชิ้นส่วนที่ผลิตมา เนื่องจากบริษัทของเขาเป็นน้องใหม่ในตลาด น้ำมัน ทำให้เขาต้องคิดเร็วทำเร็วเพื่อแซงหน้าคู่แข่ง
“break even แค่ 6 เดือน ประสบความสำเร็จ ตั้งอยู่ชานเมือง เป็นปั๊มเปิดได้ใน 4 วัน ปั๊มชุมชน 4-7 วันต้องเปิดขาย มิเช่นนั้นปิโตรเลียม เทรดดิ้ง เปิดทีหลังมากกว่าเขาได้อย่างไร ผลิตมาแล้วมาประกอบสร้างปั๊ม ยอดขายมากขึ้นทุกวัน เราเน้นทฤษฎีป่าล้อมเมือง เราขยายอยู่ชานเมือง คนเขาไม่สนใจ หันมาอีกที 100 กว่าปั๊ม” เขากล่าว
นอกจากเดิมที่เข้าซื้อน้ำมันจากซัพพลายเออร์ไทยเป็นหลักแล้ว โดยในปีนี้เขาตั้งบริษัทในมาเลเซียเพื่อหาซื้อน้ำมันเพิ่มเติม ส่วนคลังน้ำมันของบริษัท มีอยู่ 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สะหวันนะเขต เวียงจันทน์ ปากซัน ปากเซ และ ไซยะบูลี ทั้งหมดตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยเพื่อสะดวกในการขนส่ง
อ่านฉบับเต็มของ “จันทอน สิดทิไซ สู้สุดฝัน สร้างความมั่นคงทางพลังงานในลาว” ได้จาก Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2015
หนุ่มลาววัยไม่ถึง 40 ผู้มีเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจ เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และความมั่งคั่งของอาณาจักรธุรกิจ หลังนำ ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวเมื่อปลายปี 2557
จันทอน สิดทิไซ รองประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท ผู้ปลุกปั้นบริษัทครอบครัวจนมาถึงฝั่งฝัน ด้วยวัย 38 ปี เขาและครอบครัวทำการค้าขายในลาวมาเนิ่นนานแล้ว ก่อนลงทุนเลือกทำธุรกิจน้ำมัน เพราะ ไม่เพียงแค่เรื่องความท้าทาย แต่ยังอยากช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
วันนี้เขากลายเป็น “เศรษฐีคนใหม่” ของลาวไปแล้ว และการเข้าตลาดของ บมจ. ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว ในตลาดหลักทรัพย์ลาว (Lao Securities Exchange: LSX) ณ กรุงเวียงจันทน์ ราคาหุ้นวิ่งทะยานไปอยู่ที่ 4,700 กีบ จากราคา IPO ที่ 4,000
ย้อนกลับไปเมื่อเขาและภรรยา ก่อตั้งปิโตรเลียม เทรดดิ้ง ขึ้นในปี 2551 ที่บ้านเกิด ทำธุรกิจนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากไทย และจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านปั๊มน้ำมันของตัวเองภายใต้ชื่อการค้า PLUS รวมถึงจัดจำหน่ายโดยตรงไปยังลูกค้าโครงการก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เขาเลือกทำธุรกิจนี้เพราะน้ำมันเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เขาเริ่มธุรกิจน้ำมันด้วยปั๊มเล็กๆในพื้นที่ห่างไกลชนบท โดยใช้ชื่อว่า “ปั้มท้องถิ่นพัฒนา” (PLUS Thongthinphathana) เป็นปั๊มตู้เดียว มี 2 หัวจ่าย สร้างเสร็จภายใน 4 วันโดยประกอบจากชิ้นส่วนที่ผลิตมา เนื่องจากบริษัทของเขาเป็นน้องใหม่ในตลาด น้ำมัน ทำให้เขาต้องคิดเร็วทำเร็วเพื่อแซงหน้าคู่แข่ง
“break even แค่ 6 เดือน ประสบความสำเร็จ ตั้งอยู่ชานเมือง เป็นปั๊มเปิดได้ใน 4 วัน ปั๊มชุมชน 4-7 วันต้องเปิดขาย มิเช่นนั้นปิโตรเลียม เทรดดิ้ง เปิดทีหลังมากกว่าเขาได้อย่างไร ผลิตมาแล้วมาประกอบสร้างปั๊ม ยอดขายมากขึ้นทุกวัน เราเน้นทฤษฎีป่าล้อมเมือง เราขยายอยู่ชานเมือง คนเขาไม่สนใจ หันมาอีกที 100 กว่าปั๊ม” เขากล่าว
นอกจากเดิมที่เข้าซื้อน้ำมันจากซัพพลายเออร์ไทยเป็นหลักแล้ว โดยในปีนี้เขาตั้งบริษัทในมาเลเซียเพื่อหาซื้อน้ำมันเพิ่มเติม ส่วนคลังน้ำมันของบริษัท มีอยู่ 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สะหวันนะเขต เวียงจันทน์ ปากซัน ปากเซ และ ไซยะบูลี ทั้งหมดตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยเพื่อสะดวกในการขนส่ง
อ่านฉบับเต็มของ “จันทอน สิดทิไซ สู้สุดฝัน สร้างความมั่นคงทางพลังงานในลาว” ได้จาก Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2015
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น