วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

Marvel Cinematic Universe ผูกเรื่องราวมหากาพย์อันยาวนานนับพันๆปี... cr:หลวงจีนหอไตร



คำนำ 

กระทู้นี้ผมตั้งใจว่า จะให้เป็นพื้นฐานก่อนไปชมภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Age of Ultron กันให้สนุกยิ่งขึ้นครับ

เพราะผมได้รวมเรื่องราวทั้งหมดในจักวาลภาพยนตร์มาร์เวลที่ออกฉายเรื่องแรกตั้งแต่ปี 2008 คือ "Iron Man"

ไล่ยาวมาจนถึงเรื่องล่าสุดในปี 2014 นั่นก็คือ "Guardians of the Galaxy"

และยังมีเรื่องราวของซีรี่ย์อีกสองเรื่องด้วย คือ "Agents of S.H.I.E.L.D." และ "Agent Carter"

>>> ทุกๆท่านจะได้ไม่ต้องไปไล่ดูภาพยนตร์ทุกๆเรื่องกันอีกรอบ ^^" <<<

โดยเนื้อหา 70% ผมนำมาจากกระทู้เดิมของผม กระทู้นี้ครับ http://pantip.com/topic/32948680

และอีก 30% มาจากกระทู้ต่างๆที่ผมเคยเขียนไป ผมนำมาปรับปรุงเนื้อหาใหม่ และเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ๆเข้าไปด้วย

ทำไมผมถึงเรียบเรียงใหม่? นั่นก็เพราะว่ากระทู้นั้นขาดเรื่องราวของซีรี่ย์ทั้งสองเรื่องไปครับ

และต้องทำความเข้าใจกันนิดนึงก่อนนะครับ ว่าเนื้อหามันเยอะ ผมจึงตัดทอนเนื้อหาบางส่วนไป

จะได้ไม่สงสัยว่า ทำไมข้ามตรงนั้นไป? ทำไมไม่มีเรื่องราวตรงนี้? เพราะผมตั้งใจเอาแต่เนื้อหาหลักๆนะครับ

ถ้าท่านใดเห็นว่าบทความผมมีประโยชน์

ก็เซฟกระทู้ผมไว้อ้างอิงภาพยนตร์เรื่องต่อๆไปในอนาคตของ MCU ได้นะครับ คิดซะว่าคล้ายๆวิกิฯ

เนื้อหามีประมาณ" แปดหมื่น "ตัวอักษรนะครับ คร่าวๆ.. อ่านกันจนตาแฉะกันไปข้างนึงเลยทีเดียวเชียวละเอ้อ..


คำเตือน!!

Agents of S.H.I.E.L.D. ss2 ผมอัพเดทถึง ep.17เลยนะครับ "สปอย"แน่นอน
และพอจบซีซั่น ผมจะมาแก้ไขบทความและเติมเนื้อหาในซีรี่ย์ให้หมดเลยครับ


จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

ลงชื่อ :: หลวงจีนหอไตร 

____________________________________________________________________________


บทที่1 ปฐมบทแห่งอัญมณีพลัง

ก่อนกาลก่อเกิดสรรพสิ่ง มีเอกภาวะอยู่ 6 ชนิด หลังการระเบิดของเอกภาวะ จักรวาลก็อุบัติขึ้น เศษชิ้นส่วนของเอกภาวะชนิดต่างๆกลับมาหลอมรวมอัดกัน เป็นอัญมณีหนาแน่นสูง 6 ชิ้น เรียกขานว่า" อินฟินีตี้สโตน" (Infinity Stone) อัญมณีพลังทั้ง 6 มีดังนี้
(Reality Stone=เปลี่ยนแปลงความจริง)
(Mind Stone=ควบคุมจิตใจ)
(Space Stone=เดินทางข้ามจักรวาล)
(Power Stone=ระเบิดจักรวาล)
(Soul Stone=ควบคุมความเป็นความตาย)
(Time Stone=ควบคุมมิติเวลา)

อัญมณีพลังทั้งหมดนั้น กระจัดกระจายไปทั่วจักรวาล มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสูงส่งจึงสามารถควบคุมอัญมณีพลังเหล่านี้ได้...
และนานแสนนาน..ก่อนการกำเนิดแห่งแสง จักรวาลมีแต่ความมืดมิด และจากความมืดมิด ก็ให้กำเนิด"Dark Elf" (ดาร์คเอลฟ์) เมื่อหลายพันปีที่แล้ว ดาร์คเอลฟ์นาม "มาลาคิธ" ผู้มีความโหดเหี้ยมทะเยอทะยาน ได้ค้นพบหนทางเปลี่ยนจักรวาลให้กลับไปมืดมิดอีกครั้ง โดยใช้อัญมณีขุมพลังดึกดำบรรพ์ที่ชื่อ "Aether" (อีเธอร์)ซึ่งมีพลังเปลี่ยนแปลงความจริง 

(อีเธอร์ คือ Reality Stone 1ใน Infinity Stone)


     มาลาคิธจะใช้อีเธอร์เปลี่ยนจักรวาลให้กลับไปมืดมิดอีกครั้ง จากการเรียงตัวของหมู่ดาว 9 อาณาจักรแห่งจักรวาลในรอบพันปี มาลาคิธได้นำอีเธอร์ไปยังจุดที่ดาวเรียงกันและส่งพลังสูงที่สุด แต่ราชา"บอร์"บิดาแห่งโอดิน กษัตริย์แห่งแอสการ์ด(Asgard) นำทัพทำการขัดขวางมาลาคิธ ชิงอีเธอร์มาได้ และสังหารดาร์คเอลฟ์ไปมากมาย มาลาคิธหนีไปซ่อนตัวอยู่ในความมืดที่สะวาทามไฮม์ 1 ใน 9 อาณาจักร รอเวลาจะกลับมาอีกครั้ง ราชาบอร์รู้ว่าอีเธอร์คือขุมพลังที่ไม่สามารถทำลายได้ จึงนำอีเธอร์ไปซ่อนเร้นไว้ในมิติที่ไกลแสนไกล..


         ต่อมา ราชาบอร์สละบัญลังค์ให้บุตรโอดิน โอดินขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแอสการ์ดครองคู่กับราชินีฟลิกก้า ราชินีฟลิกก้าให้กำเนิดบุตรชาย และให้ชื่อว่า "ธอร์" ราชาโอดินมอบฆ้อนโยเนีย "Mjolnir" ให้ธอร์ และไม่มีใครสามารถใช้หรือยกฆ้อนโยเนียนี้ได้นอกจากโอดินและธอร์ ราชินีฟลิกก้าให้ความสามารถธอร์คือพละกำลังและความกล้าหาญ..

      และอีกมุมหนึ่ง ณ จักรวาลอันไกลโพ้น จักรวรรดิ์"ครี" (Kree)ซึ่งอาศัยอยู่ดาวฮาล่า (Hala) ทำการรุกรานอารยธรรมซานเดอเรี่ยนบนดวงดาวซานด้าร์  (Xandar) และสู้รบทำสงครามกันยาวนานเป็นพันปี ผมคือต่างฝ่ายล้มตายไปมากมาย ชาวครีและชาวซานเดอเรี่ยนเกือบสูญสิ้น 
        ชาวครีที่กระหายสงคราม ได้เดินทางมายังโลก และทดลองเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตทรงพลังสูง เพื่อนำมาเป็น Kree Slave Warriors  และนำไปรุกรานอารธรรมดาวอื่น โดยใช้มนุษย์ผู้มีDNAที่คัดสรรค์แล้วโดยแท่ง"ดีไวเนอร์" (Diviner) ชาวครีได้สร้างวิหารลึกลับไว้บนโลก (Kree Temple) สร้างไว้เพื่อกระบวนการปลุกพลังของผู้ถูกเลือก หรือ Terrigenesis 



     ชาวครีทิ้งดีไวเนอร์ไว้แล้วจากโลกไป เพราะชาวครีนั้นคิดว่าการทดลองของตนไม่สำเร็จที่โลก อีกทั้งยังถูกต่อต้านจากครีที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ จึงทิ้งทุกอย่างไว้และจากไปตั้งแต่นั้น มนุษย์ที่ถูกคัดสรรหรือเป็น "อินฮิวแมน"เต็มตัวแล้ว ต่างเก็บงำพลังของพวกตัวเองไว้ และไม่เข้าไปในวิหารศักสิทธิ์ของครีอีกเลย เหล่าอินฮิวแมนเรียกชาวครีว่า ทูตสวรรค์ผู้มาเยือนอันมีร่างกายสีฟ้า และชาวครีไม่ได้รู้เลยว่าได้สร้างสิ่งที่ทรงพลังไว้ในโลกมนุษย์ได้สำเร็จ..

         ผ่านมาอีกนับพันปี.. โลกอดีตบรรพกาลในปี ค.ศ. 965 ครานั้น ยักษ์น้ำแข็งแห่งโยธันไฮม์ 1 ใน 9 อาณาจักรแห่งจักรวาล ได้บุกรุกโลกมนุษย์เพื่อหวังยึดครอง เหล่ายักษ์น้ำแข็งใช้อัญมณีขุมพลังดึกดำบรรพ์นามว่า "Tesseract" (แทซเซอแร๊ค) นำกองทัพเดินทางข้ามจักรวาล 
(แทซเซอแร๊ค คือ Space Stone 1ใน Infinity Stone)


แทซเซอแร๊คมีพลังย้ายมวลสารข้ามจักรวาลได้ สถานที่ที่เหล่ายักษ์น้ำแข็งได้ลงมายังโลกนั้นคือ ทอร์นสเบิร์ก ประเทศนอร์เวย์ในปัจุบัน ยักษ์น้ำแข็งใช้หีบศักสิทธิ์ (Casket of Ancient Winters) คร่าชีวิตมนุษย์มากมายในตอนนั้น แต่ชาวแอสกาเดี้ยนนำทัพโดย"โอดิน" กษัตริย์แห่งแอสการ์ด ได้นำทัพนักรบชาวแอสกาเดี้ยนเดินทางข้ามจักรวาลโดยสะพานไบฟรอสท์มายังโลก "Bifrost Bridge" (วิธีเดินทางชาวแอสการ์ด) เพราะโลกของพวกมนุษย์อยู่ในความคุ้มกันของพวกเขา ชาวแอสกาเดี้ยนเรียกขานโลกว่า มิดการ์ด เป็น 1 ใน 9 อาณาจักรแห่งจักรวาลที่ชาวแอสกาเดี้ยนต้องพิทักษ์ ตามคำสั่งของเหล่าทวยเทพ(เทพของชาวแอสกาเดี้ยนอีกที) กองทัพชาวแอสกาเดี้ยนมาช่วยสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ชาวมนุษย์ ขับไล่เหล่ายักษ์น้ำแข็งกลับไปโยธันไฮม์ได้ และยึดแทซเซอแร๊คไว้ได้ด้วย
       การปรากฏตัวของชาวแอสกาเดี้ยนครั้งนั้น ทำให้มนุษย์ได้ตระหนักว่า มนุษย์มิได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาล เนื่องด้วยสติปัญญา/พละกำลัง/และเทคโนโลยีของชาวแอสกาเดี้ยน ทำให้มนุษ์มิอาจมองเสมอเหมือนตน กลับยกให้เป็นเทพเจ้าของพวกเขา โอดินทำการซ่อนแทซเซอแร๊คไว้กับเหล่ามนุษย์ที่ทอร์นสเบิร์กในครั้งนั้น เพื่อหวังให้พ้นจากเผ่าพันธุ์ชั่วร้ายในจักรวาลที่หวังจะใช้ขุมพลังนี้เพื่อรุกรานเผ่าพันธุ์อื่น
     โอดินตามเหล่ายักษ์น้ำแข็งไปที่โยธันไฮม์เพื่อหวังจะกำจัดให้สิ้นซาก โอดินทำการจับกุม "ลอฟฟี่" ราชาแห่งอาณาจักรโยธันไฮม์ไว้ได้ เมื่อเหล่ายักษ์น้ำแข็งพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง กษัตริย์โอดินจึงมีความปราณี ไว้ชีวิตลอฟฟี่ และ เหล่ายักษ์น้ำแข็งที่เหลือ  (โอดินเสียดวงตาข้างขวาไปในศึกนี้)



   โดยลอฟฟี่และโอดินมีข้อตกลงกันว่าห้ามยักษ์น้ำแข็งรุกรานใครอีก รวมถึงชาวแอสกาเดี้ยนก็จะไม่รุกรานโยธันไฮม์เช่นกัน โอดินยึดหีบศักสิทธิ์ไว้ด้วย และนำกลับไปไว้ในคลังอาวุธวังแอสการ์ด 

      ขณะกำลังบุกวังแห่งยักษ์น้ำแข็ง โอดินได้พบกับทารกน้อยผู้มีรูปร่างคล้ายตน มิเหมือนเหล่ายักษ์น้ำแข็งทั่วไป ถูกทิ้งให้เกือบตาย โอดินจึงเก็บมาเลี้ยงไว้เสมือนลูก ตั้งชื่อให้นามว่า โลกิ ราชินีฟลิกก้าแห่งแอสการ์ด ได้มอบพลังสร้างมายาแก่บุตรบุญธรรมโลกิด้วย ธอร์และโลกิจึงเติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ



      ปี ค.ศ.1546 เรื่องราวของทั้งหมดของแอสการ์ด ถูกถ่ายทอดโดยแอสกาเดี้ยนวอริเออร์ที่มิยอมกลับแอสการ์ด ชาวแอสกาเดี้ยนผู้นี้เล่าเรื่องราวเผ่าพันธ์ของตนให้คนรักที่เป็นสาวชาวรั่งเศสฟัง และนางไปเล่าให้นักบวชซึ่งเป็นพี่ชายของนางฟังอีกที นักบวชผู้นั้นจึงบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกย่องเหล่าราชวงศ์แอสการ์ดให้เป็นเทพเจ้ายุโรปทางเหนือ มีผู้คนเชื่อถือบูชาให้เป็นเทพเจ้าแห่งชาวไวกิ้ง(นอร์เวย์) ตั้งแต่นั้นสืบมา..
ปี คศ. 1942 ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังประทุ กองทัพนาซีนำโดยฮิตเลอร์ ได้นำกองกำลังเยอรมันและฝ่ายอักษะรุกรานประเทศแถบยุโรปอย่างหนัก และมีหน่วยรบที่แข็งแกร่งของนาซีนามว่า Hydra "ไฮดร้า" นำโดย "ผู้พันโยฮัน ชมิธ" ผู้ซึ่งสนใจในพลังแห่งตำนานเหล่าเทพเจ้าโบราณกาล ผู้พันชมิธได้เกณฑ์นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจซึ่งนำโดย"ดร.โซล่า" มาสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยและทรงอาณุภาพเพื่อสู้รบกับฝ่ายพัธมิตรและอเมริกา แต่ผู้พันชมิธไม่พอใจเพียงแค่นั้น 

"ดร.เอิลสกิน"นั้นได้ผลิตเซรั่มที่ทำให้มนุษย์นั้นมีความสามารถเกินขีดจำกัด หรือ เหนือมนุษย์นั่นเอง สูตรเซรั่มนี้เป็นที่หมายปองของชมิธเป็นอย่างมาก ชมิธนั้นบังคับให้ดร.เอิลสกินผลิตเซรั่มเหนือมนุษย์ให้แก่ตน 

ดร.เอิลสกินนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าสูตรเซรั่มนี้ยังไม่สมบูรณ์ แต่ชมิธก็ยังดื้อดึงฉีดมันเข้าไป ผลปรากฎว่าร่างกายแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ก็แลกกับผลข้างเคียงที่ทำให้บริเวณทั่วกะโหลกนั้นโดนเซรุ่มแผดเผาผมร่วงและผิวหนังกลายเป็นสีแดง ชมิธจึงถูกเรียกขานจากนายทหารนาซีด้วยกันว่า "เร้ดสกัลล์" (Redskull)

    ผู้พันชมิธใช้จิตรกรมีฝีมือแต่งหน้ากากหนังที่ปกคลุมใบหน้าให้เหมือนคนเดิม และเริ่มตามหาแหล่งขุมพลังเหล่าเทพเจ้าในตำนานต่างๆทั่วยุโรป จนมาถึง เมืองทอร์นสเบิร์ก ประเทศนอร์เวย์ ผู้พันชมิธได้ค้นพบแทซเซอแร๊คซึ่งซ่อนไว้ภายในวัดที่นี่ ผู้พันชมิธจึงนำแทซเซอแร็คไปวิจัยร่วมกับ "ดร.โซล่า" และควบคุมพลังงานแทซเซอแร๊คได้ระดับนึง ซึ่งเพียงแค่นี้ก็สร้างอาวุธมหาประลัยได้แล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ขอบเขตหรือพลังที่แท้จริง



    ด้าน ดร.เอิลสกิน หลังจากลี้ภัยมาอยู่กองทัพสหรัฐ ก็ยังทำการวิจัยเซรุ่มเหนือมนุษย์นี้ต่อ เพื่อสร้างสุดยอดทหารในหน่วยวิทยาศาสตร์แห่งกองยุทโธประการกองหนุนแห่งสหรัฐ หรือ หน่วย SSR หน่วยนี้มีหน้าที่สร้างอาวุธที่สามารถต่อกรกับหน่วยไฮดร้าของเยอรมันโดยเฉพาะ หัวหน้าหน่วยคือ"ผู้พันฟิลิป" และ "เอเจนท์คาร์เตอร์" ทำงานด้านข่าวกรอง มีโอกาสร่วมงานกับ"ฮาเวิร์ด สตาร์ค" วิศกรอัจฉริยะอันดับ1ของสหรัฐ เจ้าของบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธให้กับกองทัพสหรัฐ หน่วย SSR เชิญฮาเวิร์ดมาเป็นที่ปรึกษาขั้นสูง ทั้งสี่คนจึงร่วมกันก่อตั้งโครงการ "รีเบิร์ธ"กันขึ้นมา เพื่อหวังสร้างสุดยอดทหาร  


    ดร.เอิลสกินทำการวิจัยข้อมูลจนสำเร็จ โดยใช้ไครโอซิงค์ที่ฮาเวิร์ดผลิต บรรจุเซรุ่มของเขาเพื่ออาบผิวนอกผู้ทดลอง และใช้เซรุ่มอีกส่วนฉีดเข้าด้านในร่างกายผู้ทดลอง ดร.เอิลสกิน อยากได้คนที่คู่ควร เพราะพลังนี้มหาศาล ต้องได้คนที่จิตใจดีควรค่าสมกับเป็นเจ้าของพลังวิเศษนี้ เพื่อจะได้ไม่นำพลังนี้ไปใช้ในทางเลวร้ายนั่นเอง จึงทำการเริ่มเฟ้นหาทหารคนแรกในโครงการรีเบิร์ท ด้านผู้พันชมิธสืบรู้แล้วว่าดร.เอิลสไต์อยู่ที่อเมริกา จึงให้สายลับไฮดร้าติดตามดร.เอิลสกินไม่ให้คลาดสายตา และฆ่าทันทีที่มีโอกาส

     ปี ค.ศ. 1943 "สตีฟ โรเจอร์" ผู้ชายร่างเล็ก ผู้ไม่เคยยอมให้ใครรังแก จิตใจดี สู้ไม่ถอย มีเพื่อนรักตั้งแต่วัยเด็กคือ "บัคกี้ บาร์น" ซึ่งบัคกี้ติดทหารแล้ว อยู่หน่วยรบ 107 สตีฟอยากเป็นทหารรับใช้ชาติ สมัครทหารหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ 

จนวันนึง ดร.เอิลสกินได้พบสตีฟมาสมัครทหารและถูกปฎิเสธอีกครั้ง เห็นความมุ่งมั่นและทัศนะคติของสตีฟแล้ว จึงตัดสินใจว่าสตีฟนี่ละ เหมาะสมกับสุดยอดทหารคนแรกในโครงการรีเบิร์ธ เอเจ้นท์คาเตอร์ก็เห็นแววผู้นำและความเด็ดเดี่ยวของสตีพเช่นกัน เมื่อการทดลองเสร็จสมบูรณ์ สตีฟได้กลายเป็นสุดยอดทหารในโครงการรีเบิร์ธคนแรก แต่ดร.เอิลสกินกลับถูกลอบสังหารโดยสายลับของไฮดร้า เมื่อไม่มี ดร.เอิลสกิน จึงไม่มีใครสามารถผลิตสุดยอดทหารได้อีกเลยนับแต่นั้น โครงการรีเบิร์ธจึงถูกยุบไป


   ด้านสตีฟถูกแต่งตั้งให้เป็น"กัปตันอเมริกา" หน้าที่คือโฆษณาปลุกใจอเมริกันชนให้รักชาติ ชาวอเมริกันรักสตีฟ แต่ทหารส่วนใหญ่ไม่ชอบกัปตันอเมริกา เนื่องด้วยวันๆเอาแต่โชว์ตัว ไม่เคยออกรบ ผู้พันฟิลิปก็ไม่เชื่อถือสตีฟว่าจะรบเป็น แต่เอเจ้นท์คาเตอร์หรือเพกกี้ ก็เชื่อมั่นในตัวสตีฟเสมอ จนวันนึงสตีฟได้ข่าวว่าหน่วยรบ 107 ของบัคกี้เพื่อนรัก ถูกจับเป็นเชลยที่ค่ายไฮดร้า ฮาเวิร์ดและเพกกี้จึงช่วยสตีฟลอบเข้าเขตที่เยอรมันยึดครอง 


     สตีฟไปช่วยหน่วยรบ 107 ได้ทั้งหน่วย สตีฟพบบัคกี้กำลังถูก ดร.โซล่าล้างสมอง เพื่อสร้างสุดยอดนักฆ่าที่สั่งได้ทุกอย่าง แต่สตีฟไปช่วยไว้ทัน ผู้พันชมิธเห้นว่าคงจะต้านสตีฟไไว้ไม่อยู่ จึงกดปุ่มระเบิดเวลาถอยหลังเพื่อทำลายฐานทัพทิ้งทันที สตีฟและผู้พันชมิธปะทะกันเป็นครั้งแรก  ด.ร.โซล่าเห็นว่าการสู้คงยืดเยื้อกลัวจะหนีไม่ทันระเบิด จึงสับสวิทย์แยกสะพานที่ทั้งคู่สู้กันอยู่ ต่างฝ่ายจึงต่างแยกกันหนีระเบิดไป ตั้งแต่นั้นผู้พันชมิธก็เปิดเผยความเป็นเร้ดสกัลล์เต็มตัว สตีฟนำพาทั้งหน่วย 107 กลับค่ายได้สำเร็จ 


    หลังจากนั้น สตีฟ โรเจอร์ หรือกัปตันอเมริกา ก็ได้รับการยอมรับจากเพื่อนทหารและผู้พันฟิลิป กัปตันโรเจอร์ได้ก่อตั้งหน่วยฮาวลิ่งคอมมานโดซึ่งเป็นหน่วยจู่โจมลับของ SSR เพื่อทำลายฐานไฮดร้าโดยเฉพาะ ในทีมมีบัคกี้ด้วย ตลอดสามปีภาระกิจต่างๆที่หน่วยฮาวลิ่งคอมมานโดบุกฐานไฮดร้าถูกถ่ายทอดให้อเมริกันชนได้ชมตลอด ชาวอเมริกันยกย่องให้กัปตันโรเจอร์เป็นฮีโร่วีรบุรษสงคราม..

     เร้ดสกัลล์แค้นใจมาก สั่งให้ ดร.โซล่าวางแผนล่อทีมฮาวลิ่งคอมมาโดไปติดกับบนรถไฟที่กำลังวิ่งเลาะหน้าผา กัปตันโรเจอร์และบัคกี้พลาด บัคกี้ถูกเล่นงานจนเสียหลักตกหน้าผาไป 


ในที่สุดทีมฮาวลิ่งคอมมานโดก็จับตัว ดร.โซล่าได้สำเร็จ กัปตันโรเจอร์คิดว่าบัคกี้ตายแล้ว แต่ที่จริงบัคกี้ไม่ตาย และแขนขาด ไฮดร้าจับบัคกี้ไปล้างสมองอีกครั้ง และนำบัคกี้เข้าโปรเจคCybernetic ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับอวัยวะเทียมที่เป็นอาวุธ เพือใส่แขนเหล็กกลให้บัคกี้ และทำการทดลองสร้างสุดยอดนักฆ่าต่อไป

     กัปตันโรเจอร์บุกฐานที่มั่นสุดท้ายของไฮดร้าซึ่งเป็นฐานบัญชาการสูงสุดบนเทอกเขาเอลฟ์ กัปตันโรเจอร์ถล่มฐานได้สำเร็จ เร้ดสกัลล์นำแทซเซอแร๊คหนีไปขึ้นเครื่องบินรบวัลคีรี่ และขับออกไปพร้อมระเบิดทำลายล้างสูง หวังถล่มอเมริกา กัปตันโรเจอร์ตามขึ้นเครื่องบินทัน ระหว่างที่ทั้งสองสู้กันนั้น แทซเซอแร๊คได้หลุดออกมาจากสิ่งบรรจุ เร้ดสกัลล์จับแทซเซอแร๊คและโดนดูดไปที่ใดที่หนึ่งในจักรวาล(ยังไม่ตายนะเอ้อ) 

แทซเซอแร๊คหลุดมือเร้ดสกัลล์และหลอมพื้นเครื่องบินหล่นลงในทะเลน้ำแข็งบริเวณเขตอาร์คติค เนื่องจากกัปตันโรเจอร์ขับเครื่องบินรบล้ำสมัยนี้ไม่ได้ อีกทั้งเร็วมาก อีกไม่กี่อึดใจก็ถึงอเมริกาแล้ว สตีฟจึงตัดสินใจบังคับเครื่องลงทะเลน้ำแข็งเช่นกัน กองทัพและฮาเวิร์ดออกทำการค้นหา พบเพียงแทซเซอแร๊ค ทุกคนรวมถึงเพกกี้คิดว่าสตีฟตาย แต่สตีฟไม่ตาย และถูกแช่แข็งในทะเลน้ำแข็งเขตอาร์คติคอยู่ในภาวะจำศีล..

     สงครามจบลง เยอรมันพ่ายแพ้ หน่วยSSRตามจับนายทหารระดับสูงของไฮดร้าไว้ได้หลายคน กัปตันอเมริกากลายเป็นตำนานวีรบุรุษของชาติ เพกกี้นำหน่วยฮาวลิ่งคอมมาโดเข้าทำลายฐานทัพย่อยต่างของไฮดร้าทั่วยุโรป จนกระทั่งมาถึงประเทศออสเตรีย เพกกี้จึงพบกับดีไวเนอร์และ"Jiaying" ซึ่งเจียหยิงถูกไรฮาร์ตนายทหารและนักวิทยาศาสตร์ของไฮดร้าจับไว้ (ไรฮาร์ตนั้นเรียกดีไวเนอร์ว่าโอเบลิสก์ ซึ่งแปลว่าเสาเหล็กแหลมสูง เพราะไรฮาร์ตไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไร)

     ไรฮาร์ตจับคนในหมู่บ้านแห่งนั้นมาสัมผัสกับดีไวเนอร์ แต่ก็กลายเป็นหินตายกันหมด ยกเว้นเพียงเจียหยิง ที่สัมผัสกับโอเบลิสท์แล้วไม่เป็นอะไร (หน้าตาของเธอดูเหมือนเซอไพรซ์อยู่นะครับ เป็นไปได้ว่าเจียหยิงตอนนั้นก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองคืออินฮิวแมน) เรื่องราวของอินฮิวแมนจึงเปิดเผยขึ้นอีกครั้งหลังจากเวลาล่วงมานับพันปี แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ความหมายของดีไวเนอร์อยู่ดี ไรฮาร์ตนั้นกำลังจะจับเจียหยิงผ่าวิจัย  แต่เพกกี้บุกมาจับไรฮาร์ตซะก่อน และเพกกี้ก็ปล่อยเจียหยิงไป โดยที่ไม่รู้ว่าเจียหยิงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

   ไรฮาร์ตถูกจับไปขังลืมไว้ในคุก The rat ของหน่วย SSR แต่ไรฮาร์ตก็ยังฝังใจที่จะผ่าวิจัยร่างกายเจียหยิงอยู่ดี ว่าเหตุใดจึงไม่เกิดขึ้นอะไรกับเธอตอนจับดีไวเนอร์และเพกกี้ก็เอาดีไวเนอร์ไปเก็บไว้ในฐานลับ โดยระบุเป็นรหัส #084 ซึ่งหมายความว่าเป็นวัตถุที่ระบุที่มาไม่ได้และอันตรายมากนั่นเอง



    ปี 1946 หลังจากสงครามจบลง หน่วย SSR ก็กลับไปขึ้นตรงกับรัฐบาลสหรัฐฯไม่ใช่ทางทหารอีกต่อไป เพกกี้นั้นไม่กลับอังกฤษแต่ยินดีทำงานด้านข่าวกรองกับหน่วย SSR ตามเดิม เมื่อไม่ใช่ของทหาร เพกกี้ก็โดนลดบทบาทลงเป็นแค่เพียงเจ้าหน้าที่ธรรมดาในหน่วย SSR เท่านั้น แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เพื่อนเก่าอย่างฮาเวิร์ดโดนข้อหาขายชาติโดยทำการขายอาวุธให้ผู้ก่อการร้าย เพกกี้จึงได้รับการติดต่อจากฮาเวิร์ดให้ช่วยเหลือ โดยฮาเวิร์ดได้ให้ " Jarvis "อดีตนักบินทหารซึ่งเป็นพ่อบ้านของเค้าคอยช่วยประสานงาน



   ในที่สุดเพกกี้และจาร์วิสก็ช่วยกันคลี่คลายคดีของฮาเวิร์ดได้ ซ้ำยังเปิดโปงองค์กรก่อการร้ายลับในรัสเซียคือ "เลเวียธาน" ซึ่งอยู่เบื้องหลังในเรื่องราวการกล่าวหาฮาเวิร์ดทุกอย่าง และยังจับตัว Dr. Ivchenko หัวหน้าองค์กรร้ายนี้ไว้ด้วย และนี่เป็นครั้งแรกที่เพกกี้ได้รู้จักกับโปรเจคสร้างสุดยอดจารชนมือสังหารหญิงของสหภาพโซเวียต ที่มีรหัสเรียกว่า " Black Widow " ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจคของเลเวียธาน



   ผู้พันฟิลิป,เพกกี้,และฮาเวิร์ด ร่วมกันก่อตั้งหน่วย"ชีลด์" (S.H.I.E.L.D.) เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการรุกรานจากสิ่งต่างๆที่คุกคามสหรัฐและโลก และยุบหน่วย SSR ลง ทั้งสิ่งของและฐานลับของ SSR จึงตกเป็นของชิลด์ด้วย ที่ตั้งหน่วยที่แรกคือที่นิวยอร์คที่เดียวกันกับที่สร้างกัปตันอเมริกานั่นเอง หน่วยชีลด์ได้เชิญนักวิทยาศาสตร์ของไฮดร้าที่ถูกจับมาเป็นเชลยสงครามมาทำงานด้วย รวมถึง ดร.โซล่า ไฮดร้าจึงเติบโตขึ้นใหม่แบบลับๆในหน่วยชีลล์นี่เอง..

     ดร.โซล่าได้แอบทำการทดลองล้างสมองบัคกี้ต่อไป และด้วยโปรเจค Cybernetic ของไฮดร้า ก็ทำแขนโลหะพิเศษให้บัคกี้ ในที่สุดไฮดร้าก็สร้างสุดยอดนักฆ่าได้สำเร็จ บัคกี้จำอดีตไม่ได้ เชี่ยวชาญการต่อสู้และลอบฆ่า ไฮดร้าแช่แข็งบัคกี้ไว้ เมื่อต้องการใช้งานจึงละลายน้ำแข็งออก ไฮดร้าให้บัคกี้สร้างความวุ่นวาย ลอบสังหาร ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและสงครามในโลกมากมาย บัคกี้กลายเป็นมือสังหารที่ดีที่สุดของไฮดร้า ในวงการสายลับเรียกบัคกี้ว่า "Winter Soldier"
ชาวครีคลั่งสงครามบางกลุ่ม ยังไม่ยอมลดละศึกกับแซนด้าร์ได้ แซนด้าร์จึงตั้งหน่วยตำรวจอวกาศที่มีเทคโนโลยีการรบและความสามารถสูง "โนวา คอร์ป" (Nova corp.) หน่วยโนวาจะคัดสรรค์ผู้มีฝีมือจากดวงดาวต่างๆมาเข้าหน่วยด้วย ไม่ใช่เฉพาะชาวแซนด้าร์เท่านั้น หน่วยโนวาทำให้เหล่าวายร้ายต่างๆในจักรวาลเริ่มขยาดและไม่กล้าปะทะตรงๆ รวมถึงชาวครีที่ยังคลั่งสงครามอยู่


    ปี 1972 ดร.โซล่าก็เสียชีวิตลงด้วยโรครุมเร้าหลายชนิด แต่ด้วยวิทยาการความรู้และเทคโนโลยีของชิลด์ จึงเก็บข้อมูลมันสมองความรู้ของดร.โซล่าไว้ในระบบคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์หลักของชิลด์ ด้วยว่าชิลด์เสียดายความรู้ความสารถของดร.โซล่านั่นเอง แม้ร่างกายจะตายไปแต่ดร.โซล่าก็กลับเป็นอมตะในระบบสมองกลแทน และนี่ก็เป็นอีกครั้งในการตัดสินใจผิดพลาดอย่างมหันต์ของชิลด์ ที่เก็บโซล่าไว้ในเซิฟเวอร์หลัก



    ปี 1975-1979 ยานอวกาศของสิ่งมีชีวิตต่างดาวไม่ทราบชื่อและเผ่าพันธุ์เกิดเสียหายระหว่างการเดินทาง และมาตกที่โลกบริเวณหุบเขาโคโรลาโด เมอราดิธ ควิลล์ คือผู้พบเห็นยานอวกาศตก ต่างดาวตนนั้นเล่าเรื่องของตนเองให้เมอราดิธฟัง ปี 1980 ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนมีลูกชื่อ "ปีเตอร์ ควิลล์" ทั้งคู่ช่วยกันซ่อมยานอวกาศจนสำเร็จ ต่างดาวตนนั้นจึงเดินทางจากไป ทิ้งลูกและเมียไว้ ต่อมาต่างดาวตนนั้นจ้าง"กลุ่มโจรสลัดอวกาศราเวนเจอร์" มีหัวหน้ากลุ่มคือ "ยอนดู อูดอนต้า" ไปนำตัวปีเตอร์ ควิลผู้เป็นลูกชายมาหาตน 

    ปี 1980 ไฮดร้าหวังที่จะสร้างนักฆ่าที่ล้างสมองและสั่งได้เบ็ดเสร็จเพิ่มอีก หลังจากทำสำเร็จแล้วจากการทดลองบัคกี้ ซึ่งคราวนี้ไฮดร้าคิดการใหญ่ขนาดจะสร้างกองทัพเลยทีเดียว และฐานลับใหญ่นี้อยู่ในเบอร์ลินตะวันออก แต่ก็ถูกแทรกซึมและขัดขวางโดยสายลับชิลด์คือ Hank Pym โดยแฮงค์ใส่ชุดที่เขาประดิษย์ขึ้นเพื่อลักลอบเข้าไปทำลายปฎิบัติการขององค์กรร้ายอันนี้ โดยแฮงค์เรียกชุดของเค้าว่า" Ant-Man " 
(ชืลด์ไม่รู้นะครับว่าที่ไปทำลายปฎิบัติการนี่คือไฮดร้า เพราะทุกคนบนโลกคิดว่าไฮดร้าตายไปแล้ว ชิลด์คิดว่านี่คือองค์กรร้ายอีกองค์กรนึงเท่านั้น)



    ปี 1981 อดีตผู้พัน "นิค ฟิวรี่" ก็เข้าหน่วยชิลด์ ด้วยความที่นิคมีประวัติงานอันดีเยี่ยม ทั้งทักษะจากการรบที่เวียตนามในฐานะทหารกล้า และทักษะจากการจารกรรมในช่วงสงครามเย็นในฐานะซีไอเอ นิค ฟิวรี่ ก็ได้รับการติดต่อจากชิลด์ให้เข้าหน่วย โดยการแนะนำของดัมดัม ดูแกนจนท.อาวุโสของชิลด์ และเพื่อนสนิทต่างวัย (ดัมดัมดูแกนกับนิค ฟิวรี่เคยช่วยเหลือกันมาก่อนในรัสเซีย ตอนนั้นนิคอยู่ในฐานะซีไอเอ ดัมดัมอยู่ในฐานะเอเจ้นท์ชิลด์) ซึ่งขณะนั้นผู้นำหน่วยชิลด์ก็คือ " Alexander Pierce " และเพียซยังเป็นผู้นำสูงสุดของไฮดร้าหลังจากดร.โซล่าตายอีกด้วย (ตอนนั้นชิลด์ยังไม่มีตำแหน่งผู้อำนวยการหรือ ผ.อ. นะครับ เนื่องจากฟิลิป,เพกกี้,ฮาเวิร์ด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งทั้งสามยังอยู่กันครบ) และเพียงไม่กี่ปี นิคก็ได้รับการไว้วางใจจากผู้ก่อตั้งทั้งสามและเพียซเลื่อนตำแหน่งให้เป็นถึงรองผู้นำหน่วยชิลด์


   ปี 1982 ขณะที่ "ฟิล โคลสัน" ใกล้จะจบไฮสคูล ชิลด์ก็ได้ติดต่อมายังโคลสันให้เข้าร่วมศึกษาต่อในสถาบันฝึกสอนของชิลด์ ด้วยเพราะโคลสันนั้นมีทักษะและอีคิวสูงในการกลมกลืนกับสังคม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของสายลับนั่นเอง โดยผู้แนะนำโคลสันเข้าสถาบันก็คือนิค ฟิวรี่ โคลสันมีเพื่อนร่วสถาบันคือ จอห์น กาแร๊ต และหลังจากเรียนจบ ทั้งกาแร๊ตและโคลสันก็ได้รับการเทรนด์จากนิคด้วยตนเองทั้งคู่

   ปี1983 ที่ Afterlife (ยังไม่ปรากฎว่าอยู่แห่งใดในโลก และมีมานานเท่าใดแล้ว) อาฟเตอร์ไลฟ์เป็นที่เตรียมความพร้อมและฝึกอินฮิวแมนรุ่นใหม่ๆ โดยที่ผู้ที่ได้รับถ่ายทอดDNAและผ่านการคัดสรรจากดีไวเนอร์ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวิหารครีอีกต่อไปในการปลุกพลัง และในรอบหลายสิบปีหรือหลายร้อยปี ถึงจะมีอินฮิวแมนเกิดขึ้น เวลานั้นไม่แน่นอน ซึ่งขณะนี้มีชายหนุ่มที่ชื่อ กอร์ดอน ได้รับการปลุกพลังจากเทอริเกนมิสแล้ว (อินฮิวแมนกลุ่มนี้รู้วิธีให้ดีไวเนอร์สร้างเทอริเกนมิสได้ โดยไม่ต้องเข้าไปในวิหารครี) เจียหยิงและยัทเซนซึ่งเป็นอินฮิวแมนรุ่นพี่ จึงมีหน้าที่แนะนำกอร์ดอนในการควบคุมพลังหลังจากเป็นอินฮิวแมน (เจียหยิงค้นพบและมาที่นี่หลังจากรู้ว่าตนเองเป็นผู้ถูกเลือกในปี 1945 พลังเธอคือไม่แก่และร่างกายฟื้นตัวได้เร็วมาก)



  ปี 1987 เมื่อชิลด์ทราบจากสายข้อมูลว่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งในฟาร์มอันห่างไกล มีทักษะการใช้ปืนที่ยอดเยี่ยมมาก นิคจึงชักจูงให้มาเข้าสถาบันฝึกสอนของชิลด์ เด็กหนุ่มผู้นั้นก็คือ "คลิ้น บาร์ตัน" เมื่อเค้าจบจากสถาบันแล้ว เอเจนท์บาร์ตันก็ขึ้นตรงกับหน่วยจู่โจมของชิลด์โดยตรง หรือเรียกง่ายๆว่าสายบู๊แหลกนั่นเอง แต่เอเจนท์บาร์ตั้นนั้นไม่จับปืนอีกเลยหลังจากนิคลงมาเทรนด์การต่อสู้เอง เอเจนท์บาร์ตันเลือกใช้แต่ธนูปฎิบัติภารกิจ (เหตุผลในMCUยังไม่เฉลยครับ ว่าทำไมจึงเลือกใช้แต่ธนู ซึ่งจริงๆพี่แกยิงปืนแม่นมากนะ) และจากความแม่นที่ไม่เคยยิงพลาดแม้สักครั้งเดียวนี่เอง ทำให้เอเจนท์บาร์ตันได้รับสมญานามว่า " Hawkeye " (ฮอร์คอาย) 

    ปี 1988  ที่เมืองหยู๋หนาน ประเทศจีน เจียหยิงซึ่งขณะนี้เป็นอินฮิวแมนแล้วและเป็นผู้อาวโสของอินฮิวแมนด้วย เจียหยิงออกมาจากอาฟเตอร์ไลฟ์และมาอยู่ที่จีน เจียหยืงแต่งงานกับคาลวิน ซาโบ ซึ่งเป็นนายแพทย์ และมีลูกด้วยกันชื่อเดย์ซี่

     เมอราดิธ ควิลล์ ได้เสียชีวิตลง พร้อมกับที่ยอนดูเดินทางมาถึงโลกและลักพาตัวปีเตอร์ ควิลล์ไป ยอนดูไม่ยอมไปส่งตัวปีเตอร์ กลับเลี้ยงดูปีเตอร์จนเติบโตกลายเป็นโจรผู้เก่งกาจ มีฉายาว่า"Star-Lord" (สตาร์ลอร์ด)



    ปี 1989  ชิลด์ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรใหม่ เพราะว่าการขยายฐานลับไปทั่วโลกนั่นเอง ทำให้องค์กรใหญ่ขึ้น ชิลด์จึงต้องจัดตั้งสภาความมั่นคงโลก โดยมีมีผู้นำในทวีปทั้งสี่เป็นสมาชิกสภาความมั่นคงโลกของชิลด์ และผู้ก่อตั้งทั้งสามรวมถึงสภาความมั่นคงโลกทั้งสี่ เห็นชอบและแต่งตั้งให้ อเล็กซานเดอร์ เพียซ เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงโลก และนิค ฟิวรี่ ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยชิลด์แทน

        เพียซได้ติดต่อกับไรฮาร์ตที่อยู่ในคุกลับขังลืม และทราบว่าไรฮาร์ตต้องการตัวเจียหยิง หลังจากนั้น เพียซก็สืบพบว่าเจียหยิงหลบหนีไปอยู่ที่จีน เพียซจึงใช้ให้สายลับไฮดร้าที่แฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ชิลด์นำไรฮาร์ตออกจากคุกเพื่อไปตรวจสุขภาพ แต่แท้จริงแล้วเพียซวางแผนลักลอบให้ไรฮาร์ตหลบหนีออกไป สายลับไฮดร้าได้นำไรฮาร์ตไปพบกับเจียหยิง หลังจากติดคุกนานถึง 44 ปี

      เจ้าหน้าที่ชิลด์ซึ่งเป็นไฮดร้าบุกมาจับตัวเจียหยิงที่จีน คาลปกป้องเจียหยิงไม่ได้ คาลโดนเล่นงานจนหมดสติไป คาลจึงโกรธแค้นหน่วยชิลด์อย่างฝังใจตั้งแต่นั้น (คาลไม่รู้ว่าแท้จริงคือไฮดร้ามาจับตัวเจียหยิง ไม่ใช่ชิลด์) ในที่สุดไรฮาร์ตก็พบกับเจียหยิงซึ่งหลบหนีมาอยู่ที่นี่ ไรฮาร์ตแปลกใจมากที่เจียหยิงไม่แก่ลงเลย ไรฮาร์ตจึงจับเจียหยิงไปที่ยุโรปและนำเอาทุกชิ้นส่วนวัยวะของเธอมาทำเป็นสารสกัดและฉีดเข้าตัวเอง 



     ผลคือไรฮาร์ตกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง (ได้ไงฟระ?) เจียหยิงก็ตายในกระบวนการนี้ และไรฮาร์ตได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น " Daniel Whitehall " เมื่อคาลฟื้นสติมาไม่ห็นเจียหยิง จึงอาละวาดฆ่าเจ้าหน้าที่ชิลด์ที่เหลือในหมู่บ้านหยู๋หนานไปมากมาย คาลฝากตัวเดย์ซี่ลูกสาวไว้กับชาวบ้าน และไปตามเจียหยิงที่ยุโรป ซึ่งไม่ทันแล้ว เจียหยิงโดนฆ่าอย่างทารุณหั่นเป็นชิ้นๆ และนำชิ้นส่วนไปทิ้ง คาลจึงนำเศษชิ้นส่วนศพเจียหยิงมาประกอบและเย็บรวมร่างกายใหม่ และเจียหยิงก็ฟื้นคืนชีพ (คืนชีพง่ายๆอย่างนี้ได้ไง ผมก็งงครับ 555+) เจ้าหน้าที่ชิลด์อีกหน่วยก็มาจับตัวเดย์ซี่ที่เมืองหยู๋หนานประเทศจีนไปอีก 


    เจียหยิงเล่าให้คาลรับรู้ว่าตนเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา และเล่าเรื่องราวชองอินฮิวแมนให้คาลฟัง คาลนั้นทำการทดลองตนเองจนมีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ก็แลกมาด้วยอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา คาลตามหาเดย์ซี่ และไล่ฆ่าเจ้าหน้าที่ชิลด์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาจับตัวเดย์ซี่ตายไปทีละคน เหลือแค่เอเจ้นท์เอเวอรี่และเอเจ้นท์ลัมลีย์ เอเจ้นท์เอเวอรี่จึงนำเดย์ซี่ไปเข้าโปรแกรมสลายตัวตนและนำไปทิ้งไว้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อมาเอเจ้นท์เอเวอรี่ก็โดนคาลฆ่า เอเจ้นท์ลัมลีย์จึงลาออกจากชิลด์ และหนีไปไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเคสนี้และเด็กคนนี้อีกเลย เดย์ซี่จึงโดนย้ายสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยครั้งวัยเด็ก และเธอก็ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "สกาย"

    ตั้งแต่ฮาเวิร์ดเข้ามาเป็นผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์ ฮาเวิร์ดก็ได้ทำการวิเคราะห์พลังงานแทซเซอแร๊คนับหลายสิบปี จนฮาเวิร์ดสามารถจำลองพลังงานแทซเซอแร๊คได้เป็นบางส่วน แต่แค่นี้ก็พอที่จะให้กำเนิดเป็นธาตุให้พลังงานตัวใหม่ แต่วิทยาการสมัยนั้นไม่เอื้ออำนวย ฮาเวิร์ดจึงซ่อนสูตรการสร้างธาตุตัวใหม่นี้ไว้ในผังโครงสร้าง สตาร์คเอ๊กซ์โปว์ และอัดวีดีโอบอกใบ้ให้ลูกชาย โทนี่ สตาร์คไว้ 


     จากนั้นไม่นานฮาเวิร์ดและแอนทอน แวนโก้ วิศวกรอันดับต้นๆในสตาร์คอินดรัสทรีส์ ร่วมกันสร้างเตาปฏิกรณ์อาร์คสำเร็จ ต่อมาฮาเวิร์ดไล่แอนทอนออก เพราะแอนทอนแอบขายความลับบริษัทให้รัฐบาลรัสเซีย แอนทอนหอบลูกชาย อิวาน แวนโก้ไปอยู่รัสเซียอย่างอดๆอยากๆ อิวานแค้นครอบครัวสตาร์คมาก

    ปี 1990 จอห์น กาแร๊ต เอเจ้นท์ของชิลด์ ผู้ซึ่งถูกนิค ฟิวรี่ ฝึกมากับมือ ก็ได้แปรพักษ์ไปเป็นไฮดร้า เหตุเพราะกาแร๊ตไปทำภารกิจให้ชิลด์ที่ซาราเจโว และได้รับบาดเจ็บเจียนตาย และโดนทางหน่วยชิลด์ทิ้ง กาแร๊ตจึงไม่ภักดีกับชิลด์อีกต่อไป และไฮดร้าก็เริ่มโปรเจค" Deathlock " ซึ่งพัฒนามาจากโปรเจค  "Cybernetic "ที่สร้างแขนโลหะจักรกลให้กับบัคกี้นั่นเอง แต่โปรเจคเด็ทล็อคนี้ ทำอวัยวะโลหะจักรกลทั้งตัวมนุษย์เลยทีเดียว  เรียกว่าคล้ายๆครึ่งคนครึ่งไซบอร์ค และผู้เข้าโครงการนี้คนแรกก็คือ จอห์น กาแร๊ต เอเจ้นท์ชิลด์ที่เพิ่งแปรพักษ์ไปเข้ากับไฮดร้า เพราะกาแร๊ตบาดเจ็บอย่างหนักมากมาจากซาราเจโวนั่นเอง ถ้ากาแร๊ตไม่ได้ไฮดร้าช่วยไว้ กาแร๊ตก็น่าจะตายไปแล้ว

แต่โปรเจคเด๊ทล็อคยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอวัยวะภายในของแกเร๊ตถูกทำลายอย่างช้าๆ แต่นักวิทยาศาสตร์ไฮดร้าทั้งหลายก็ช่วยยื้อชีวิตแกเร็ตไว้ได้เรื่อยๆ ซึ่งแกเร๊ตกำลังหาวิธีรักษาให้หายขาดอยู่ตลอด โปรเจคเด็ทล็อคจึงโดนยุบไป และกาแร๊ตก็มุ่งมั่นที่จะทำลายชิลด์ให้จงได้

     ปี 1991 ฮาเวิร์ด และมาเรีย สตาร์ค สองสามีภรรยาก็เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนตร์ ซึ่งเป็นฝีมือของนักฆ่าไฮดร้า ขณะนั้น "โทนี่ สตาร์ค" มีอายุได้ 17 ปี  



   เมื่อผู้ก่อตั้งชิลด์ตายไปหนึ่งคน ฟิลิปและเพกกี้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งชิลด์ที่เหลือ จึงตัดสินใจเกษียณตัวเอง ฟิลิป,เพกกี้รวมถึงเพียซตัดสินใจว่า ชิลด์สมควรมีตำแหน่งผู้อำนวยการ ทั้งสามจึงให้หัวหน้าหน่วยชิลด์ในขณะนั้นขึ้นเป็นผู้อำนวยการสูงสุด นั่นก็คือ นิค ฟิวรี่ และนิคก็เริ่มคิดที่จะจัดตั้งทีมผู้มีพลังพิเศษเหนือคนธรรมดา นั่นคือทีม " Avengers "
บทที่2 เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ถือกำเนิดขึ้น

             
      ปี 1995 "โทนี่ สตาร์ค" ที่อายุ 21 ปีแล้ว ก็เข้ามาบริหารบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์เต็มตัวตามพินัยกรรมต่อจาก โอบาเดอา สเตน ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนฮาเวิร์ด ซึ่งดูแลบริษัทให้โทนี่ชั่วคราว โทนี่เติบโตขึ้นมาเป็นวิศวกรอัจฉริยะเหมือนกับพ่อผู้ล่วงลับ โทนี่ยังผลิตอาวุธขายเหมือนเดิม และโทนี่หยุดพัฒนาเตาปฏิกรณ์อาร์คก็ไว้ แต่ยังคงมีอยู่ในบริษัท โทนี่เป็นมหาเศษฐีเสเพล เจ้าชู้ มั่นใจในตัวเองสูง



     ปี 1997 มาเรีย ฮิลล์ ถูกคัดเลือกให้เข้าเรียนในสถาบันฝึกสอนของชิลด์ตั้งแต่อายุยังน้อย มาเรียไม่ได้มีความสามารถอะไรที่พิเศษอย่างใดอย่างนึง แต่มาเรียโดนเด่นทุกอย่าง นั่นก็คือเธอเชี่ยวชาญในทุกๆอย่างที่ชิลด์ฝึกเธอ ทั้งความสามารถด้านยุทธวิธีและความสามารถด้านเทคโนโลยี และยังมีความเป็นผู้นำสูง ที่สำคัญมาเรียยังมีนิสัยที่ภักดีต่อองค์กรอย่างที่สุด ทำให้นิค ฟิวรี่ เลือกมาเรียมาเทรนด์ด้วยตนเอง และหลังจากที่มาเรียจบและปฎิบัติภารกิจเพียงไม่กี่ครั้ง นิคก็เลือกมาเรียให้เป็นรองผู้อำนวยการตั้งแต่นั้น พูดได้ว่า มาเรียคือคนที่นิคไว้ใจที่สุดในชิลด์นั่นเอง และมาเรียจะแฝงกายบัญชาการองค์กรชิลด์ช่วยเหลือนิคได้อย่างดี ในการแฝงกายอย่างลับสุดยอดเสมอ จึงไม่เคยเห็นเธอออกมาแสดงตนมากนัก ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ



      ปี1998 เอเจนท์บาร์ตันก็ได้รับคำสั่งจากนิค ให้ไปสังหารสายลับสาวรุ่นเยาว์ของรัสเซียที่ใช้ชื่อรหัสว่า แบล็ควีโดว์ แต่เมื่อฮอร์คอายพบกับแบล็ควีโดว์แล้ว เค้ากลับไม่สังหาร กลับชักจูงให้เข้าหน่วยชิลด์ซะด้วยซ้ำ ซึ่งนิคก็เห็นดีด้วย (นี่เป็นปริศนาที่มาร์เวลยังไม่เฉลยนะครับ) ตั้งแต่นั้นมาแบล็ควีโดว์ หรือ นาตาชา โรมานอฟ ก็สังกัดหน่วยชิลด์เต็มตัว ในฐานะสายลับที่เก่งกาจข้างกายนิคมาตลอด



      ปี 1999 โทนี่ได้พบกับ อัลดริดส์ คิลเลี่ยน คิลเลี่ยนพยายามเสนอโครงการ"Extremis" (เอ๊กซ์ตรีมมิส)ให้โทนี่ แต่โทนี่ไม่สนใจ ซ้ำยังหลอกให้คิลเลี่ยนไปรอที่ดาดฟ้าตึกที่หนาวเหน็บทั้งคืนในวันปีใหม่ คิลเลี่ยนเจ็บใจโทนี่มาก หาทางแก้แค้นโทนี่นับแต่นั้น

      และปี 1999 เช่นกัน ที่เรือนจำในแมซซาซูเซท " Grant Ward " ทหารหนุ่มเลือดร้อนผู้ซึ่งถูกฝากขังชั่วคราวในข้อหาเผาบ้านตัวเอง วอร์ดนั้นได้พบกับจอห์น แกเร็ตผู้มาเยี่ยมที่ลึกลับ แกเร็ตนั้นเสนอทางเลือกให้วอร์ดตัดสินใจ ระหว่างรอพ่อ-แม่ตัวเองมาแจ้งข้อหาและติดคุกหัวโตอยู่ที่นี่ กับเลือกที่จะตามแกเร็ตไป และกาเร๊ตจะสอนวิธีเอาตัวรอดให้ วอร์ดจึงตัดสินใจเลือกหนีไปกับแกเร็ต 



      ปี 2006- 2008  เมลินดา เมย์ และ ฟิล โคลสัน เป็นคู่หูภาคสนามกัน ในภารกิจที่บาร์เรน ทั้งคู่ต้องไปตามหาบุคคลมีพลังพิเศษ แต่มันลงเอยด้วยการกลับกลายเป็นภาระกิจช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งเป็นจนท.ของชิลด์และเป็นหน่วยจู่โจมพิเศษชื่อThe Cavalry ในภาระกิจนี้เมย์ต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน เธอจึงบุกเดี่ยวเข้าไป โคลสันยื้อกองทัพบาเรนไว้ข้างนอก และเหมือนว่าเมย์สังหารผู้ก่อการร้ายตายหมด แต่แท้จริงแล้วผู้สังหารคนเหล่านั้นคือเด็กหญิงรัสเซียคนหนึ่งซึ่งเป็นอินฮิวแมน เมย์จำใจต้องฆ่าเด็กหญิงรัสเซียคนนี้ เพื่อช่วยเหลือทีมเดอะคาลเวอรี่ของชิลด์ที่เหลือ เพราะเด็กคนนี้สามารถควบคุมสมองคนและฆ่าคนได้ด้วยการสัมผัส จนท.ของชิลด์ที่รอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอ้างว่าเธอฆ่าไป20-30คน บางกระแสว่าเธอฆ่าไปเป็นร้อยคน อย่างไรก็ตาม มาลินด้า เมย์ ก็ได้รับฉายาใหม่ว่า "The Cavalry" และเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมย์ขอย้ายจากภาคสนามมาทำงานนั่งโต๊ะแทน 

     
      ปี 2008 โทนี่ผลิตจรวดนามว่า เจอริโก้ มีอำนาจทำลายล้างสูง เป็นที่สนใจของผู้ก่อการร้าย นามว่ากลุ่ม"เทนริงส์" (Ten Rings) "นาวาอากาศโท เจมส์ โรดส์" หรือ โรดี้ เพื่อนซี้โทนี่ ติดต่อประสานงานให้โทนี่นำจรวดเจอริโก้ ไปพรีเซนท์ให้นายทหารของเพนตากอนชมที่อัฟกานิสถาน ระหว่างเดินทางกลับ กลุ่มผู้ก่อการร้ายเทนริงส์ ได้ลักพาตัวโทนี่เพื่อให้ผลิตจรวดเจอริโก้ให้ ตามคำสั่งของโอบาเดอา สเตน ระหว่างการลักพาตัว โทนี่โดนสะเก็ดระเบิดลูกปรายวิ่งเข้าเส้นเลือด และกำลังวิ่งเข้าหัวใจ หมอที่ถูกคุมขังด้วยกับโทนี่จึงใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ดันสะเก็ดระเบิดไว้ ซึ่งอยู่ได้ไม่กี่วันโทนี่ก็ต้องตาย เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ดันสะเก็ดระะเบิดไว้ได้ไม่นาน โทนี่มีเวลาแค่ไม่กี่วันทำระเบิดเจอริโก้ แต่โทนี่เลือกทำเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กเพื่อแทนแบตเตอรี่ และสร้างชุดเกราะเหล็กเพื่อหนีแทน 

โทนี่หนีสำเร็จและทิ้งชิ้นส่วนชุดเกราะเหล็กไว้กลางทะเลทราย โรดี้ซึ่งออกตามหาโทนี่ตลอดและไปพบโทนี่กลางทะเลทราย จึงช่วยเหลือไว้ กลุ่มเทนริงส์ไปเก็บชุดเกราะเหล็กและมอบให้สเตน "เพพเพอร์ พอทท์" รอการกลับมาของโทนี่ (เพพเพอร์เป็นที่ปรึกษาและเลขาโทนี่) เมื่อโทนี่กลับมาถึงนิวยอร์คมุมมองโทนี่ต่อโลกเปลี่ยนไป โทนี่เลือกที่จะพัฒนาเตาปฏิกรณ์อาร์คต่อ และยกเลิกสายการผลิตอาวุธทั้งหมด ดูเหมือนชิลด์จะรู้ว่าโทนี่สร้างชุดเกราะเหล็กเพื่อหลบหนีออกมา ผ.อ.นิค ฟิวรี่ จึงส่งเอเจ้นท์โคลสันไปหาโทนี่เพราะเริ่มรู้ถึงศักยภาพโทนี่ว่าอัจฉริยะแค่ไหน

    ขณะเดียวกันน้น ชิลด์ก็เริ่มจับตาดู "ดร.บรูซ แบนเนอร์"ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งยุค ดร.บรูซทำการรื้อฟื้นโครงการรีเบิร์ธขึ้นมาใหม่ โดยใช้สูตเป็นรังสีแกมม่าแทนสูตรเซรุ่มเดิม ภายใต้การสนับสนุนของ"นายพลรอส" ดร.บรูซทำการทดลองร่วมกับคนรักลูกสาวนายพลรอส คือ"ดร.เบ๊ตตี้ รอส"  การทดลองเกิดผิดพลาด ทำให้เครื่องระเบิดในห้องทดลอง ซึ่งดร.บรูซติดอยู่ในนั้นคนเดียว ผลคือดร.บรูซอาบรังสีแกมม่าไปเยอะมากจนร่างกายเกิดผิดปกติ ขยายร่างใหญ่โตมีพละกำลังเพิ่มเป็นพันๆเท่า ตัวเป็นสีเขียวกลายเป็นฮัค ดร.บรูซจำเหตุการณ์ไม่ได้ทั้งหมด เนื่องจากขณะเป็นฮัคดร.บรูซควบคุมสติไม่ได้ ดร.บรูซโกรธเมื่อไหร่จะกลายเป็นฮัคทันที ฮัคได้ทำลายบ้านเมืองไปมากมาย ปริศนายักษ์ตัวเขียวเริ่มมีการพูดถึง มีคนถ่ายวีดีโอขณะฮัคอาละวาดไว้ได้ และแพร่ภาพทางอินเตอร์เน๊ต ประชาชนต่างพากันหวาดกลัวยักษ์ตัวเขียว นายพลรอสออกไล่ล่าดร.บรูซ เพราะต้องการเลือดดร.บรูซเพื่อนำไปสร้างสุดยอดทหาร ดร.บรูซต้องทิ้งแฟนสาวดร.เบ๊ตตี้เพื่อหลบหนี ดร.บรูซหนีไปหลบซ่อนยังที่ต่างๆทั่วโลก เพื่อหาทางควบคุมความโกรธและรักษาตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาชิลด์ตลอด

   โทนี่กับ"จาร์วิส" เริ่มพัฒนาชุดเกราะเหล็กขึ้นใหม่ เพื่อนำไปต่อสู้กับกลุ่มเทนริงส์ (J.A.R.V.I.S. เป็น A.I. สมองกลคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลให้กับโทนี่ ชื่อจาร์วิสมาจากชื่อพ่อบ้านคนเดิมของฮาเวิร์ด) เมื่อจัดการกลุ่มเทนริงส์ได้สำเร็จ นักข่าว รัฐบาล และคนทั่วไป ต่างหาคำตอบว่าชุดเกราะเหล็กหรือไอรอนแมนคือใคร และดูเหมือนมีแค่ชิลด์ที่รู้ ช่วงเวลานี้เองที่โทนี่เริ่มรู้ใจตนว่าเพพเพอร์นั้นสำคัญกับเค้าแค่ไหน และโทนี่กับเพพเพอร์ก็เริ่มมีใจให้กัน เพพเพอร์รู้แผนลับอันชั่วร้ายของสเตน จึงร่วมมือกับเอเจ้นท์โคลสันและชีลด์ตามจับสเตน แต่สเตนหนีได้และนำชุดเกราะเหล็กตัวแรกที่พัฒนาแล้วนั่นก็คือ "Iron Monger"มาต่อสู้กับไอรอนแมน 



    ผลคือสเตนพ่ายแพ้และถูกสังหาร การปะทะกันเกิดขึ้นบริเวณบริษัทสตาร์กอินดรัสทรีส์ นักข่าวจึงถามโทนี่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับไอรอนแมน โทนี่เลือกที่จะเปิดเผยตัวเองว่าเขานี่แหละคือไอรอนแมน จังหวะเดียวกันนั้น แอนทอน แวนโก้และ"อิวาน แวนโก้" (ลูกชายแอนทอน) ได้ชมการถ่ายทอดสดอยู่ที่รัสเซียด้วย แอนทอนได้สิ้นใจตายในขณะนั้น ทำให้อิวานได้ระเบิดความแค้น รื้อฟื้นโปรเจคเตาปฎิกรณ์อาร์คของพ่อเพื่อหวังแก้แค้นให้พ่อ
   
    คืนนั้นเอง ผ.อ.นิค ได้เข้าพบโทนี่เป็นครั้งแรก เพื่อชวนเข้าร่วมโครงการ ดิ อเวนเจอร์ ซึ่งโทนี่ขอลุยเดี่ยวดีกว่า แต่ยินดีเป็นที่ปรึกษาของชิลด์และทีมอเวนเจอร์ 

   ต่อมาอีก 6 เดือน โทนี่ซึ่งคือไอรอนแมน กลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะฮีโร่คนใหม่ของอเมริกา โทนี่อยากรื้อฟื้นจัดงานสตาร์คเอ๊กโปว์ขึ้นอีกครั้ง เหมือนที่พ่อเคยทำ ตัวแทนฝ่ายรัฐบาล"วุฒิสมาชิกเสติร์น" (สายลับไฮดร้า) และ"จัสติน แฮมเมอร์" ผู้ผลิตอาวุธให้อเมริการายใหม่(เพราะโทนี่ไม่ผลิตอาวุธแล้ว) พยายามให้โทนี่มอบชุดไอรอนแมนให้รัฐบาล แต่โทนี่ไม่ให้ นิคได้ส่ง"เอเจ้นท์นาตาชา โรมานอฟ" (แบล็ควีโดว์)เข้ามาแทรกซึมในสตาร์คอินดรัสทรีส์ เพื่อประเมินพฤติกรรมโทนี่ นาตาชาหรือแนทจึงแฝงตัวมาเป็นทนายที่ทำงานใกล้ชิดกับเพพเพอร์


   ปี 2010 หลังจากกาแร๊ตปล่อยให้วอร์ดเรียนรู้การเอาตัวรอดในป่าเป็นเวลา 10 ปีเต็ม กาแร๊ตก็ชักจูงวอร์ดให้เข้าร่วมกับไฮดร้าและไปแฝงตัวอยู่ในชิลด์  (วอร์ดไม่ภักดีกับไฮดร้า แต่ภักดีกับกาแร๊ต จึงเข้าชิลด์ทำตามที่กาแร๊ตสั่ง)
ขณะที่โทนี่ไปงานแข่งรถที่โมนาโกฝรั่งเศส "อิวาน แวนโก้" ก็โผล่กลางสนามแข่งรถ พร้อมชุดพลังงานจากเตาปฏิกรณ์อาร์คตรงเข้าเล่นงานโทนี่ โทนี่เกือบแพ้และโดนเล่นงานเสียหายไปเยอะ อิวานถูกจับกุม วุฒิสมาชิกเสติร์นได้โอกาสโจมตีโทนี่ว่าไม่มีความสามารถพอกับชุดไอรอนแมน

     นายพลรอสยังไม่ค่อยร่วมมือกับชิลล์เท่าใดนัก ดร.บรูซอยู่ที่ ริโอ เดอจาเนโร บราซิล และควบคุมฮัคและความโกรธได้เกือบสมบุรณ์ แต่ยังไม่มีวิธีรักษา ดร.บรูซกำลังถูกนายพลรอสจัดทีมไล่ล่าโดยมีทหารอังกฤษคือ"อิมิล บรอนสกี้"เป็นหัวหน้าทีม

     โทนี่กำลังจิตตกจากการที่โดนอิแวนเล่นงานและพาราเดียมในเตาปฏิกรณ์อาร์คจิ๋วในตัวกำลังเสื่อมสภาพ โทนี่กำลังจะตาย โทนี่จึงยกตำแหน่งCEOสตาร์คอินดรัสทรี่ส์ให้เพพเพอร์  รัฐบาลส่งโรดี้ไปหาโทนี่ ให้โทนี่มอบชุดเกราะเหล็กกับรัฐบาล โทนี่กำลังจัดงานเลี้ยงวัดเกิดเละเทะในคฤหาสน์ตัวเอง เพพเพอร์ทนไม่ไหวจึงให้โรดี้ช่วยห้าม โรดี้ไปใส่ชุดเกราะมาห้ามโทนี่อาละวาด โทนี่แกล้งแพ้ และปล่อยให้โรดี้เอาชุดเกราะไป

         ที่อาณาจักรแอสการ์ด โอดินกำลังมอบบัลลังค์แอสการ์ดให้"ธอร์" บุตรคนโต แต่"โลกิ" บุตรคนเล็ก ได้ล่วงรู้ความลับชาติกำเนิดของตนเอง โลกิค้นพบทางลับที่ไมต้องใช้สะพานไบฟรอสท์ และหลุดรอดสายตาฮัมดาลล์ เทพผู้พิทักษ์และผู้เห็นทุกสิ่งทั้ง9อาณาจักร

(Heimdall the God of Guardian)

      โลกิเปิดทางให้เหล่ายักษ์น้ำแข็งลอบเข้ามาในคลังอาวุธเพื่อช่วงชิงหีบศักสิทธิ์คืน แต่เหล่ายักษ์น้ำแข็งก็โดนทำลายหมดโดย"เดสทรอยเยอร์" (หุ่นยนต์สังหารผู้เฝ้าคลังอาวุธ) และหีบศักสิทธิ์ก็ยังไม่ถุกชิงไป ธอร์อยากบุกโยธันไฮม์ แต่โอดินห้ามไว้เพราะมีสัญญาสงบศึกอยู่ ธอร์ไม่ฟังคำสั่งโอดิน และถูกโลกิใช้ความสามารถที่"ราชินีฟลิกก้า"มอบให้คือ มายา หลอกล่อธอร์ (โลกิมีทั้งพลังภาพลวงตาและคำพูดเป่าหูที่ได้ผลดีเยี่ยมนะครับ ธอร์เองก็บื้อด้วยละ) ธอร์ขัดคำสั่งราชาโอดินเละนำ "เลดี้ซิฟกับ Warriors Three" บุกโยธันไฮม์ พวกธอร์เกือบพ่ายแพ้ต่อเหล่ายักษ์น้ำแข็ง โอดินมาช่วยไว้ทัน "ลอฟฟี่"ราชาเหล่ายักษ์น้ำแข็งประกาศว่า แอสการ์ดผิดกฎสงบศึก และประกาศสงครามกับชาวแอสกาเดี้ยน โอดินยึดพลังธอร์ใส่ในฆ้อนโยเนีย  และเนรเทศธอร์มายังมิดการ์ด (มิดการ์ดก็คือโลกมนุษย์นั่นเอง)พร้อมกับฆ้อนโยเนีย ธอร์จะได้พลังและฆ้อนคืนเมื่อธอร์คู่ควร ธอร์และฆ้อนตกลงมาที่โลกบริเวณนิวเม็กซิโก


    แฮมเมอร์ช่วยอิวานแหกคุกออกมา เพื่อให้อิวานช่วยสร้างหุ่นยนต์แบบไอรอนแมนให้ แต่อิวานมีแผนการของตัวเองอยู่แล้ว คือตามฆ่าโทนี่เท่านั้น ผ.อ.นิค ฟิวรี่ ตามหาโทนี่พบ และเปิดเผยตัวตนแบล็ควีโดว์ให้โทนี่ทราบ นิคเล่าให้โทนี่ฟังว่า ฮาเวิร์ดพ่อโทนี่คือ1ในผู้ก่อตั้งชิลด์(S.H.I.E.L.D.) และฮาเวิร์ดยังฝากบอกนิคไว้ว่า เตาปฎิกรณ์อาร์คเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า และส่งต่อสูตรพลังนี้ให้โทนี่แล้ว มีเพียงโทนี่ที่รู้ นิคสั่งเอเจ้นท์โคลสันให้เฝ้าโทนี่ไว้ โทนี่เปิดดูวีดีโอที่พ่อถ่ายทิ้งไว้ให้เกี่ยวกับสตาร์คเอ็กโปว์ โทนี่จึงเริ่มหาสิ่งที่พ่อทิ้งไว้ให้ และค้นพบตารางธาตุที่ซ่อนไว้ในผังโครงสร้างสตาร์คเอ๊กซ์โปว์จนได้ โทนี่และจาร์วิสช่วยกันจนสร้างธาตุใหม่สำเร็จ โทนี่เปลี่ยนพาราเดียมจากเตาปฎิกรณ์อาร์คจิ๋วที่หน้าอกไปใช้ธาตุใหม่ที่เพิ่งสร้างสำเร็จแทน เอเจ้นท์โคลสันขอตัวโทนี่ไปงานด่วนที่นิวเม็กซิโก(ฆ้อนโยเนีย)

    ที่นิวเม็กซิโก ด.ร.เจน ฟอสเตอร์ กับดร.เซลวิค นักฟิสิกซ์ดาราศาสตร์ ผู้ศึกษาวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับสะพานไอสไตร์โรเซ่น(ลักษณะเหมือนสะพานไบฟรอสท์)  ตรวจจับสภาพอากาศคล้ายสะพานโรเซ่นได้ที่นิวเม็กซิโก จึงรีบไปที่นั่น เจนขับถชนธอร์ และเจนพบธอร์ในสภาพไร้พลัง เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา จึงพาไปส่งโรงพยาบาล และทุกคนนคิดว่าธอร์เพี้ยนเรื่องเทพ

โอดินได้ล่วงรู้ว่าโลกิคิอผู้พาเหล่ายักษ์น้ำแข็งบุกคลังอาวุธตอนนั้น โอดินเสียใจมาก เกิดหมดสติไปตั้งแต่นั้น เลดี้ซิฟกับ Warriors Three  ล่วงรู้ถึงแผนการโลกิ กำลังจะไปเตือนโอดิน แต่สายไปเสียแล้ว โลกิฉวยโอกาสยึดคฑาของโอดินและครองบัลลังค์แอสการ์ดแล้ว
ในงานสตาร์คเอ๊กซ์โปว์ แฮมเมอร์เปิดตัวหุ่นรบที่สร้างโดยอิวาน และเปิดตัวโรดี้ในฐานะ"วอร์แมชชีน"ด้วย อิวานหักหลังแฮมเมอร์บังคับทั้งหุ่นรบและวอร์แมชชีน ทำลายงานสตาร์คเอ๊กซ์โปว์และตามฆ่าโทนี่ แบล็ควีโดว์ช่วยรีบูธชุดเกราะวอร์แมชชีนทำให้หลุดจากการควบคุมของอิวานได้ อิวานใส่ชุดเกราะมาสู้ สุดท้ายแล้วไอรอนแมนและวอร์แมชชีนก็ช่วยกันปราบอิวานลงสำเร็จ



    ที่นิวเม็กซิโก เอเจ้นท์โคลสันและ"เอเจ้นท์ซิตเวลล์" (สายลับไฮดร้า)และ"เอเจ้นท์บาร์ตั้น" (ฮอร์คอาย) ถูกส่งมาสืบสวนเรื่องฆ้อนโยเนีย ชิลล์ทำค่ายล้อมฆ้อนโยเนียไว้ และกำลังหาเหตุผลว่าทำไมจึงยกไม่ขึ้น จึงจัดให้ฆ้อนโยเนียคือไอเทม 084 เอเจ้นท์โคลสันยึดงานค้นคว้าของเจนและทีมงานทั้งหมด เจนและธอร์เริ่มมีใจให้กัน

    ที่นิวยอร์ค ดร.บรูซกลับมาเพื่อค้นหาหนทางรักษาและอยากพบดร.เบ๊ตตี้ด้วย ดร.บรูซเล่าให้ดร.เบ๊ตตี้ฟังเรื่องจริงที่พ่อของเธอตามล่าดร.บรูซ ก็เพื่อนำเลือดไปสร้างสุดยอดทหาร นายพลรอสนำเซรุ่มที่อยู่ในไครโอซิงค์ (โครงการรีเบิร์ธปี 1942 )ฉีดให้อิมิล อิมิลกลายเป็นสุดยอดทหารแล้ว (พลังเท่ากัปตัน)แต่สูตรไม่สมบบูรณ์ อิมิลและทีมทหารชุดไล่ล่าปะทะกับฮัคที่มหาลัยในเมือง อิมิลโดนฮัคอัดเกือบตาย เหตุการณ์นี้ถูกอัดคลิปไว้และเผยแพร่ทางอินเตอเน๊ตโดยเด็กมหาลัย 2 คน เรื่องปริศนาของยักษ์ตัวเขียวเริ่มแพร่หลายในวงกว้างแล้ว



   ธอร์บุกค่ายชิลล์และจะมาเอาฆ้อนคืน แต่ไม่สามารถยกฆ้อนได้ เอเจ้นท์โคลสันจับกุมธอร์มาสืบสวน ก่อนที่ดร.เซลวิคจะมาช่วยธอร์ออกไป
เลดี้ซิฟกับ Warriors Three เล่าให้ฮัมดาลล์ฟังในแผนการร้ายของโลกิ และขอให้ฮัมดาลล์ส่งพวกตนไปยังโลกเพื่อพาธอร์กลับมา จังหวะเดียวกันโลกิส่งเดสทรอยเยอร์มาเพื่อฆ่าธอร์ และโลกิยังใช้หีบศักสิทธิ์แช่แข็งฮัมดาลล์ไว้ เพื่อควบคุมสะพานไบฟรอสท์และให้เหล่ายักษ์น้ำแข็งเข้ามาแอสการ์ด Warriors Threeและเลดี้ซิฟมาตามหาธอร์ที่โลกเพื่อพากลับแอสการ์ด


ขณะเดียวกันเดสทรอยเยอร์ก็ตามมาด้วย ธอร์สละชีวิตให้เดสทรอยเยอร์ฆ่าเพื่อปกป้องชาวเมืองและพวกของเจน ธอร์จึงได้ฆ้อนโยเนียและพลังกลับคืน ธอร์ทำลายเดสทรอยเยอร์ได้ เอเจ้นท์โคลสันคืนงานค้นคว้าให้เจน บุตรแห่งโอดินให้คำมั่นกับบุตรแห่งโคลว่า ชาวแอสการ์เดี้ยนเป็นพันธมิตรกับโลก และธอร์พร้อมปกป้องพิทักษ์โลก


    ฮัมดาลล์หลุดจากการแช่แข็งได้ และพาธอร์,เดี้ซิฟ กับ Warriors Three กลับแอสการ์ดเพื่อยับยั้งโลกิ ลอฟฟี่ราชาเหล่ายักษ์น้ำแข็งบุกจนถึงห้องบรรทมของโอดินหวังสังหาร ราชินีฟลิกก้าซึ่งเฝ้าราชาโอดินอยู่พยายามขัดขวาง โลกิใช้คฑาโอดินฆ่าลอฟฟี่เพื่อให้ราชินีฟลิกก้าเห็นความดีของตน ธอร์มาถึงและบอกราชินีฟลิกก้าว่าโลกิส่งเดรสทรอยเยอร์ไปเพื่อสังหารธอร์ และธอร์รู้ว่าโลกิจะใช้สะพานไบฟรอสท์ทำลายโยธันไฮม์ทั้งดวงดาว เพื่อเอาใจโอดิน ให้โอดินรับรู้ว่าตนเหมาะสมกับราชาแอสการ์ด ธอร์จึงทำลายสะพานไบฟรอสท์ โอดินจึงตื่นจากการหลับไหล ผลคือโลกิตกไปในห้วงอวกาศ ทุกคนคิดว่าโลกิตาย แต่โลกิยังอยู่


    นิคเริ่มตระหนักว่า อาจมีภัยคุกคามจากต่างดาวอีก เพราะเรามิได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาล จึงคิดจะรวมทีมอเวนเจอร์อีกครั้ง และสั่งให้ชิลล์เก็บชิ้นส่วนเดสทรอยเยอร์ไปวิจัยสร้างอาวุธ รวมถึงสังเคราะห์พลังงานแทซเซอแรคเพื่อผลิตอาวุธด้วย นิคจึงได้ทาบทามดร.เซลวิคมาทำงานร่วมกับชิลด์เพื่อวิจัยพลังงานของแทซเซอแร๊ค และนิคก็ริเริ่มโปรเจค P.E.G.A.S.U.S  ที่นิว เม็กซิโก

    นิคยังได้มอบหมายให้โคลสันคุมโปรเจค Project T.A.H.I.T.I. ซึ่งเป็นโปรเจคที่ชุบชีวิตคนได้ ด้วยการนำสารสกัดจากซากศพมนุษย์ต่างดาวร่างกายสีฟ้า ฉีดเข้าร่างกายผู้ทดลอง



และโปรเจคตาฮิตินี้ มีไว้เผื่อว่าอาจต้องชุบชีวิตสมาชิกในทีมอเวนเจอร์ซึ่งอาจตายไป โดยที่ชิลด์ไม่รู้ว่า ซากศพมนุษย์ต่างดาวร่างกายสีฟ้านั้น ก็คือชาวครีที่ทำการทดลองเพาะพันธุ์มนุษย์ให้เป็นอินฮิวแมนนั่นเอง หลังจากนั้นผู้ทดลองทุกคนในโปรเจคตาฮิติ จึงเห็นชุดรูปแบบประหลาดในความคิดตลอด ชุดรูปแบบที่ว่านั้นก็คือ วิหารชาวครีนั่นเอง (วิหารมีไว้ปลุกพลังอินฮิวแมน)

    ที่นิวยอร์ค อิมิลอยากเอาชนะฮัคจึงฉีดเซรุ่มข้าไปอีก ผลคืออิมิลกลายเป็น"Abomination" และสู้กับดร.บรูซที่กลายร่างเป็นฮัค ทั้งคู่ปะทะกันสร้างความเสียหายให้นิวยอร์คอย่างมาก สุดท้ายอิมิลแพ้และไม่มีใครปราบฮัคลงได้ เหตุการณ์นี้ผู้พบเห็นเริ่มรู้สึกว่าฮัคไม่ใช่ศัตรู แต่ก็ไม่ใช่มิตร ข่าวยักษ์ตัวเขียวแผ่เป็นวงกว้าง  หลังจากนั้ชิลล์จึงบีบให้นายพลรอสยุติการไล่ล่าดร.บรูซเสียที 



     ทีมขุดเจาะน้ำมันรัสเซียบังเอิญขุดเจอซากเครื่องบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณเขตอาร์คติค หน่วยชิลด์ซึ่งติดตามเรื่องกัปตันโรเจอร์มาเนิ่นนาน พอทราบเรื่องจึงรีบไปกู้เครื่องบินขึ้นมา และพบกัปตันโรเจอร์อยู่ในสภาพถูกแช่แข็งในเครื่องบน กัปตันโรเจอร์ฟื้นขึ้นมาในเวลาปัจจุบันที่ฐานบัญชาการศูนย์กลางของชิลด์ในนิวยอร์ค หน่วยชีลด์เคารพกัปตันโรเจอร์มาก เนื่องจากเป็นคนริเริ่มสายงานนี้ก่อนจะเป็นชิลด์ทีเดียว ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ก่อตั้งทั้งสามอีกด้วย



    สภาความมั่นคงโลกระดับสูงของชิลด์แนะนำให้อิมิลอยู่ในทีมอเวนเจอร์ แต่ผ.อ.นิคไม่เห็นด้วย นิคสนใจในตัว ดร.บรูซมากกว่า เอเจนท์โคลสันคิดแผนได้ จึงส่งที่ปรึกษาระดับสูงของชิลด์(โทนี่)ไปพบนายพลรอสเพื่อขอตัวอีมิล (โดยหวังให้โทนี่ป่วนจนนายพลรอสไม่ให้ตัวอีมิล) ผลคือสำเร็จ อีมิลก็ถูกชิลด์คุมขังตัวไว้ต่อไป ขณะเดียวกันดร.บรูซก็หลบไปอยู่ที่กัลกัตตา อินเดีย เพื่อฝึกควบคุมอารมณ์ ผ.อ.นิคก็ส่งสายลับติดตามดร.บรูซแบบไม่ให้คลาดสายตา โทนี่ใช้พลังงานบริสุทธิ์จากเตาปฏิกรณ์อาร์คให้พลังงานทั้งตึกสตาร์คทาวน์เวอร์ได้สำเร็จ กัปตันโรเจอร์กำลังเรียนรู้โลกใหม่ ธอร์กำลังซ่อมแซมสะพานไบฟรอสท์ที่เสียหาย โลกกำลังสงบสุข..
บทที่3 สู่ห้วงจักรวาลอันเวิ้งว้าง



         
"ธานอส" (Tanos) คือ ชาวดาวไททัน เป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ มีพละกำลังและพลังอำนาจวิเศษที่สูงส่ง

ธานอสพร้อมกับทาสและลูกน้องท่องไปในจักรวาลต่างๆเพื่อค้นหาอัญมณีพลังทั้งหกชนิดให้สำเร็จ(Infinity Stone) ธานอสสังหารเผ่าพันธ์ต่างๆในจักรวาลมากมาย ธานอส มีบุตรบุญธรรมซึ่งติดตามข้างกายมาตลอดสองคนคือ "กาโมร่า"และ"เนบิวล่า" บุตรบุญธรรมทั้งสองมีชะตากรรมเดียวกัน แต่อยู่คนละเผ่าพันธุ์กัน ทั้งสองถูกธานอสฆ่าพ่อแม่ตายและนำมาเลี้ยง ธานอสจับทั้งสองผ่าตัดพันธุกรรมสร้างให้เป็นสุดยอดนักฆ่า กาโมร่านั้นเก็บความแค้นในใจนี้ไว้ตลอดมา แต่เนื่องจากรู้ว่าตนนั้นยังสู้ธานอสตอนนี้ไม่ได้ จึงเก็บความแค้นไว้ ทางเนบิวล่าก็แค้นและอยากฆ่าธานอสเช่นกัน แต่เนบิวล่ามีจิตใจเหี้ยมโหดกว่า เนบิวล่าไม่ชอบกาโมร่าเท่าใดนัก วันหนึ่งธานอสได้พบกับชาวครีคลั่งสงครามนามว่า "โรแนน" 



โรแนนนั้นอยากทำลายล้างอารยธรรมของชาวแซนด้าร์ให้สิ้นซาก โรแนนรุกรานแซนด้าร์ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ยังทำไม่สำเร็จเพราะโนวาคอร์ปคุ้มครองดาวแซนด้าร์อยู่ ธานอสเห็นความเลวร้ายในตัวโรแนน จึงให้กองทัพซาคารานกับโรแนนเพื่อให้ตามหา"ออร์ป"ในตำนานมาให้ได้ (ออร์ป คือ Power Stone 1ใน Infinity Stone) แล้วธานอสจะทำลายดาวแซนด้าร์ตอบแทน พร้อมกับให้บุตรบุญธรรมทั้งสองกาโมร่าและเนบิวล่าไปช่วยตามหาด้วย กาโมร่ารู้ว่าถ้าธานอสกับโรแนนได้ลูกออร์ปไป จะต้องมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกอย่างแน่นอน กาโมร่าซึ่งเคยได้รับการติดต่อจาก "ทานีเลีย ทิวาน เดอะ คอลเลคเตอร์" ที่ว่าจ้างกาโมร่าให้ตามหาออร์ป จึงเห็นช่องทางที่จะนำออร์ปไปขายให้ทิวานซะที

(The Collector เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง กำเนิดเกิดพร้อมกับจักรวาล พลังและอายุขัยไม่แน่ชัด)


    เพื่อตามหาอินฟินิตี้สโตน โรแนนและธานอสฆ่าเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย " Drax "ซึ่งก็ถูกโรแนนและธานอสฆ่าลูกเมีย ตามล่าเพื่อหมายฆ่าโรแนนล้างแค้นให้ได้ เดร๊กสังหารลูกน้องโรแนนไปมากมายด้วยความบ้าคลั่ง เดร๊กจึงถูกตั้งฉายาว่า จอมทำลายล้าง โนวาคอร์ปจับเดร๊กได้ จึงนำเดร๊กไปขังไว้ในคุกที่มีการป้องกันขั้นสูงสุดของโนวาคอร์ปชื่อ" THE KYLN " ( เดอะ คีล์น )

        
    อีกฟากของจักรวาล ลูกน้องธานอสผู้นำชิกทอรี่ได้พบโลกิเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ โลกิบอกธานอสว่าแทซเซอแร๊คอยู่ที่โลก ธานอสรู้ว่าโลกิเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง จึงให้โลกินำทัพชาวชิกทอรี่ไปยึดโลก ธานอสจะได้แทซเซอแร๊ค และโลกิจะได้โลกไปครอง ธานอสมอบคฑาพลังควบคุมจิตใจให้โลกิไว้ใช้เพื่อยึดโลกด้วย
(คฑาโลกิ อาจจะเป็น Mind Stone 1ใน Infinity Stone)



     แทซเซอแร็คถูกเก็บไว้ที่ฐานทัพลับของชิลด์ (Project: P.E.G.A.S.U.S.) โลกิเดินทางมาโลกในจุดที่แทซเซอแร๊คอยู่ด้วยพลังวิเศษของธานอส โลกิใช้คฑาควบคุมจิตใจของฮอร์คอายและดร.เซลวิค โลกิชิงแทซเซอแร๊คไปเพื่อจะเปิดประตูมิติและนำทัพชิกกอรี่บุกโลก เอเจนท์มาเรีย ฮิลล์พยายามยับยั้งฮอร์คอายแต่ไม่สำเร็จ 
(นี่คือครั้งแรกและครั้งเดียวในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่ฮอร์คอายใช้ปืนครับ เพราะโดนโลกิคุมไว้ ปกติพี่แกไม่แตะปืนเลย) 

ฐานทัพลับของชิลด์ระเบิดเพราะพลังงานแทซเซอแร๊คสูงเกินไปที่เปิดประตูมิติ ผ.อ.นิค ฟิวรี่ต้องรื้อโปรเจครวมทีมอเวนเจอร์เป็นการด่วน โคลสันไปเชิญโทนี่ แบล็ควีโดว์ไปเชิญดร.บรูซ ผ.อ.นิคไปเชิญสตีฟ ฐานทัพลอยฟ้าหรือ"Helicarrier"คือฐานทัพบัญชาการเพื่อสงครามนี้โดยเฉพาะของชิลด์ ชิลด์ตรวจพบโลกิปรากฎตัวที่ฮัมบูร์ก จึงส่งกัปตันและแบล็ควีโดว์ไปจับตัว ไอรอนแมนมาช่วยอีกคน โลกิจึงยอมให้จับ ขณะเดินทางกลับธอร์ก็ปรากฎตัวขึ้น ธอร์ถูกโอดินส่งมาเอง ทั้งสี่นำโลกิกลับฐานทัพลอยฟ้า โลกิตั้งใจให้ถูกจับอยู่แล้ว เพราะต้องการให้ทีมอเวนเจอร์แตก โลกิใช้มายาปั่นหัวทุกคนจนแตกคอทะเลาะกันรุนแรง 


ที่สำคัญโลกิตั้งใจให้ดร.บรูซโกรธและกลายเป็นฮัค เพื่อให้ฮัคทำลายฐานทัพลอยฟ้า จังหวะนั้นฮอร์คอายก็นำกองกำลังบุกฐานทัพลอยฟ้าชิลด์ ฮอร์คอายยิงธนูระเบิดใส่ใบพัดเครื่องยนต์ ผลทำให้ฐานทัพลอยฟ้ากำลังตก 
     เกิดการต่อสู้กันหนักหน่วง ดร.บรูซกลายเป็นฮัคและหล่นลงพื้นโลก ไอรอนแมนพยายามช่วยไม่ให้ฐานทัพลอยฟ้าตก กัปตันต่อสู้กับผู้บุกรุก แบล็ควีโดว์กับฮอร์คอายสู้กัน ก่อนที่แบล็ควีโดว์จะทำให้ฮอร์คอายคืนสติได้สำเร็จ โลกิหลอกล่อธอร์จนหนีจากที่คุมขังได้ และขังธอร์ไว้ซะเอง โลกิปล่อยกรงขังธอร์ลงพื้นโลก ขณะโลกิกำลังหนี โคลสันมาขวางไว้ จึงถูกโลกิฆ่าและโลกิหนีไปได้

นิครีบนำร่างอันไร้วิญญาณของโคลสันออกจากเฮลิแคเออร์ไปที่โปรเจคตาฮิติทันที เพื่อหวังชุบชีวิตโคลสัน ผ.อ.นิค ใช้การตายของโคลสันปลุกใจคนในทีมอเวนเจอร์ให้ฮึดสู้ โลกิให้ดร.เซลวิค ใช้สตาร์คทาวน์เวอร์เป็นที่ตั้งเครื่องเปิดประตูมิติของแทซเซอแร็ค ไอรอนแมนพยายามทำลายแทซเซอแร็คแต่ทำลายไม่ได้ 



แรงกระแทกที่ไอรอนแมนยิงทำให้ดร.เซลวิคคืนสติ พวกชิกกอรี่บุกโลกทำลายนิวยอร์คย่อยยับ ทีมอเวนเจอร์ต้านทานไว้สุดกำลัง ฮัคอัดโลกิเละ จนกระทั่งสภาตวามมั่งคงโลกระดับสูงของชิลด์เห็นชอบสั่งยิงนิวเคลียร์ถล่มนิวยอร์ค ซึ่งนิคไม่เห็นด้วย เพราะจะมีคนตายเป็นล้านคน แต่นิคก็ยับยั้งไม่ทัน นักบินได่ปล่อยจรวดนิวเคลียร์พุ่งออกไปแล้ว ดร.เซลวิคบอกแบล็ควีโดว์ให้ใช้คฑาโลกิจิ้มไปที่แทซเซอแร็คเพื่อปิดประตูข้ามจักรวาล เพราะเป็นอัญมณีพลังเช่นเดียวกัน 



     ไอรอนแมนจีงจับจรวดนิวเคลียร์และบินไปโยนใส่ยานแม่ของชิกกอรี่แทน โทนี่เกือบตายแต่ก็รอดมาได้ สงครามจบลง ธอร์คุมตัวโลกิกลับแอสการ์ด และนำแทซเซอแร็คกลับไปเก็บที่คลังอาวุธวังแอสการ์ดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตต่างดาวรุกรานโลกเพราะแทซเซอแร๊คออีก แต่ชิลด์ยังเก็บคฑาโลกิที่มีอัญมณีพลังไว้ ธานอสตระหนักแล้วว่า มนุษย์โลกไม่ยอมศิโรราบให้ง่ายๆ และธานอสยังรอเวลาบุกโลกอีกครั้ง..



     หลังจากเหตุการณ์กองทัพสิ่งมีชีวิตต่างดาวชิกทอรี่บุกนิวยอร์ค ชิลด์ก็ถูกเปิดเผยการมีตัวตน แม้จะไม่ค่อยมีใครรู้ แต่ก็ไม่อาจเหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกๆคนในทีมอเวนเจอร์ถูกสื่อต่างๆและรัฐบาลจับตา ผู้คนต่างฮือฮาและยกย่องซุปเปอร์ฮีโร่ของพวกเขาอย่าง ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า กลายเป็นเทพเจ้าจากตำนานที่มีตัวตนจริงๆ กัปตันอเมริกาผู้เป็นฮีโร่วีรบุรษสงครามในยุค 40' ฟื้นคืนชีวิตกลับมาอีกครั้ง ฮัค มนุษย์ยักษ์ร่างเขียวผู้คนเลิกหวาดกลัว แต่กลับกลายเป็นฮีโร่สำหรับเด็กๆ และไอรอนแมนผู้เป็นฮีโร่ที่เปิดตัวคนเดียว ฉายเดี่ยวมานาน ก็ได้รวมทีมเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ซักที

     ด้วยเหตุการณ์นี้ ชิลด์จึงเริ่ม " Project Insight " เพื่อเฝ้าระวังทุกๆอย่างบนโลกนี้ อินไซต์เป็นระบบสอดแนมทุกชีวิตในโลกและอาวุธทำลายล้างมหาประลัย โดยมีเลขากรรมมาธิการอเล๊กซานเดอร์ เพียซ เป็นหัวหน้าโครงการ แต่เพียซมีแผนการจะเปลี่ยนอินไซต์ให้เป็นของไฮดร้าควบคุมเสียเอง


   ที่โปรเจคตาฮิติ โคลสันคืนชีพขึ้นมาได้ แต่โคลสันได้รับผลข้างเคียงเหมือนผู้ทดลองคนอื่นๆ นั่นก็คือเห็นชุดรูปแบบแปลกประหลาดในสมอง (ซึ่งก็คือแผนผังวิหารของชาวครีนั่นเอง) นิคและฮิลล์จึงปรึกษากันว่าต้องลบความทรงจำโคลสันโดยการผ่าตัดสมอง



    โทนี่เริ่มจิตตกอีกครั้ง สาเหตุจากการเกือบตายครั้งชิกทอรี่บุกโลก โทนี่จึงเริ่มคิดหาระบบป้องกันที่เบ็ดเสร็จ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดกำลังจะตามมา.. (กำเนิด Ultron) และโทนี่ก็ยังคิดจะปรับปรุงตึกสตาร์คทาวเวอร์ ให้เป็นฐานบัญชาการทีมอเวนเจอร์แทน และโทนี่ก็เริ่มสร้าง 
"Avengers Headquarters"


ปี 2013 หลังจาก อัลดริดส์ คิลเลี่ยน เก็บความแค้นไว้เกือบสิบปี คิลเลี่ยนก็มีบริษัททางชีววิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า A.I.M. โดยมีการช่วยเหลือจากองกรค์ลับในยุโรป ซึ่งมี บารอน วอน สตรัคเกอร์ เป็นผู้นำองค์กร (ซึ่งก็คือไฮดร้านั่นเอง แต่ตอนนั้นไฮดร้ายังไม่เปิดเผยตัว และผู้นำไฮดร้ามีสองคน คือบารอนและเพียซ) องค์กรนี้เข้ามาช่วยเรื่องวิจัยโครงการเอ๊กซ์ตรีมมิสของคิลเลี่ยน จนในที่สุดโครงการเอ็กซ์ตรีมมิสก็สำเร็จจนได้ ทำให้ผู้ถูกทดลองใช้พลังเหนือมนุษย์ได้ ร่างกายงอกใหม่ได้ แต่มีผลข้างเคียงคือ ผู้ทดลองบางคนถ้าร่างกายไม่รับจะร้อนจนระเบิด คิลเลี่ยนปลุกกลุ่มผู้ก่อการร้ายเท็นริงส์ขึ้นมาอีกครั้ง โดยจ้างนักแสดงติดยาชื่อเทรเวอร์ สแล็กซ์เทอรี่มาศัลยกรรม และตั้งชื่อว่า แมนดาริน ( ซึ่งแมนดารินตัวจริงมีชีวิตอยู่ในยุค 80' )


      

    ณ อีกมุมหนึ่งของจักรวาลที่ดาวซานดาร์ โนว่าคอร์ปนำโดยโนวาไพร์ม และเอกอัครราชทูตครีแห่งจักวรรดิ์ครี ร่วมลงนามสงบศึกกัน ห้ามรุกรานกันอีก แต่โรแนนชาวครีผู้คลั่งสงครามไม่รับรู้ด้วย ยังคงจ้องจะทำลายดาวซานดาร์ต่อไป โดยที่จักวรรดิ์ครีก็เพิกเฉยต่อการกระทำของโรแนน

    ที่ประเทศ Sokovia ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆอันยากจนแร้นแค้นทางยุโรปเหนือ บารอน วอน สตรัคเกอร์ นำกองกำลังทหารไฮดร้าเข้าไปรุกราน เพื่อหวังที่จะปั่นป่วน โดยที่ชาวโซโคเวี่ยนไม่รู้ว่ากองกำลังต่างชาติลึกลับนี้คือพวกไหน และชาวเมืองหลวงก็ออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่กองกำลังลึกลับนี้ และในกลุ่มชาวเมืองผู้ออกมาต่อต้าน ก็คือสองพี่น้องฝาแฝด เปโตร และ วานด้า แม๊กซีมอฟ

        คิลเลี่ยนให้หน้าฉากแมนดารินเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายกลุ่มเท็นริงส์ โดยมีคิลเลี่ยนชักใยอยู่เบื้องหลัง แมนดารินประกาศสงครามกับอเมริกา โดยนำผู้ทดลองที่ผิดพลาดไประเบิดสถานที่สำคัญๆในอเมริกา ซึ่งเป็นระเบิดที่ไม่สามารถเกาะรอยได้ ชาวอเมริกันต่างหวาดกลัวแมนดาริน แฮปปี้ ลูกน้องคนสนิทของโทนี่อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดโรงหนังของแมนดารินด้วย ผลทำให้แฮปปี้บาดเจ็บสาหัส โทนี่จึงประกาศเป็นศัตรูกับแมนดารินออกสื่อโทรทัศน์ โทนี่กับจาร์วิสเริ่มสืบหาการระเบิดรูปแบบเดียวกับระเบิดของแมนดาริน จนไปพบที่เทนเนสซี่ จาร์วิสจึงวางแผนการบินของชุดไอรอนแมนไปเทนเนสซี่เพื่อสืบสวน ขณะนั้นเองคิลเลี่ยนส่งลูกน้องไปถล่มบ้านโทนี่ โทนี่หนีมาได้แต่สลบไป ชุดเกราะไอรอนแมนพาโทนี่ไปเทนเนสซี่ตามที่จาร์วิสโปรแกรมไว้ โทนี่ตื่นมาพร้อมกับพลังงานในไอรอนแมนหมด จึงไปพักบ้านเด็กคนนึงชื่อฮาลี่ 

โทนี่ซ่อมเกราะมาร์ค42และชาร์ทพลังชุดเกราะที่บ้านฮาลี่ พร้อมกับสืบเรื่องราวจนพบความจริงว่า ระเบิดมาจากร่างกายมนุษย์ โทนี่สืบหาจนพบที่กบดานแมนดารินที่ไมอามี่ ขณะเดียวกันคิลเลี่ยนก็จับเพพเพอร์มาฉีดเอ๊กซ์ตรีมมิส โทนี่ไปเจอแมนดารินและค้นพบความจริงว่าแท้จริงคิลเลี่ยนคือตัวการ แมนดารินเป็นเพียงหุ่นเชิด 

         หลังจากไฮดร้าทำโครงการเด๊ทล็อคไม่สำเร็จ จึงกลับไปวิจัยงานเดิม นั่นก็คือโปรเจค Cybernetic ที่สร้างแขนโลหะให้บัคกี้ แต่คราวนี้ไฮดร้านำเอาโครงการเอ็กซ์ตรีมมิสของคิลเลี่ยนมาผสมด้วย ผู้คุมโครงการนี้คือ จอห์น กาแร๊ต จนท.ชิลด์ระดับ 7 นั่นเอง โดยใช้ชื่อโครงการว่า " Centipede " หรือโครงการตะขาบ เพื่อสร้างมือสังหาร โดยมีบริษัทบังหน้าในอเมริกาที่ชื่อว่า Cybertek และหนึ่งในตัวทดลอง ก็คือ ไมค์ ปีเตอร์สัน และกาแร๊ตยังสร้างนามแฝงตนเองว่า " Clairvoyant " หรือ ผู้หยั่งรู้ เพื่ออำพรางตัวตนอีกด้วย โดยมีเรน่า หญิงสาวลึกลับ คอยทำงานให้



      คิลเลี่ยนจับโทนี่ได้ จับโรดี้ในชุดวอร์แมชชีนได้ด้วย คิลเลี่ยนให้ลูกน้องใส่ชุดวอร์แมชชีนไปจับตัวประธานาธิปดีเอลลิสที่แอร์ฟอซวัน คิลเลี่ยนจะฆ่าประธานาธิปดีเอลลิสออกอากาศถ่ายทอดสดให้อเมริกาได้ดู โทนี่และโรดี้หนีได้และรีบไปช่วยประธานาธิปดีเอลลิสจากคิลเลี่ยน โรดี้ช่วยประธานาธิปดีเอลลิสได้สำเร็จ โทนี่กำลังจะแพ้คิลเลี่ยน แต่เพ็พเพอร์ในร่างเอ็กซ์ตรีมมิสมาช่วยโทนี่ไว้และฆ่าคิลเลี่ยน โทนี่รักษาเพ็พเพอร์ให้กลับมาเป็นปกติสำเร็จ และโทนี่ยังให้หมอผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดทั้งหมดออกจากร่างกายอีกด้วย


       หลังจากโคลสันฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว และจำความที่โปรเจคตาฮิติไม่ได้ นิคก็มอบหมายงานปฎิบัติการพิเศษให้โคลสัน โดยที่โคลสันต้องไม่ให้คนในทีมอเวนเจอร์รู้ว่ายังไม่ตาย และไม่จำเป็นต้องรายงานใคร ให้รายงานนิคคนเดียว พร้อมให้สิทธิ์โคลสันคัดเลือกทีมเอง โคลสันจึงให้เอเจ้นมาเรีย ฮิลล์ คัดเลือกคนให้ และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่มาเรียคัดเลือกมา ก็คือ แกรนท์ วอร์ด คนสนิทจอห์น กาแร๊ต ซึ่งเป็นไฮดร้านั่นเอง 

และโคลสันก็ไปชวนเพื่อนเก่าอย่าง เมลินด้า เมย์ ให้เข้าทีมด้วย เพื่อให้เมย์ขับ The Bus (ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าเมย์เลือกทีมมากกว่า เพราะเมย์ก็ได้รับคำสั่งจากนิคให้ดูแลโคลสันอีกที และเดอะบัส คือเครื่องบินล้ำสมัย ซึ่งเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่ของทีมโคลสัน) ทั้งยังได้สองนักวิทยาศาสตร์ผู้มากความสามารถอย่าง เจมม่า ซิมม่อน และ ลีโอ ฟิซ มาร่วมทีมโคลสัน

       นิคเริ่มระแคะระคายว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในชิลด์ นิคไม่ไว้ใจใครนอกจากเอเจ้นมาเรีย ฮิลล์ จึงให้มาเรียเริ่มทำการสืบสวนภายในชิลด์อย่างลับๆ ทั้งยังส่งเอเจ้นท์13 แฝงตัวเป็นเพื่อนบ้านสตีฟ เพื่อเฝ้าระวังกัปตันโรเจอร์ และรายงายโดยตรงกับนิคคนเดียว ซึ่งขณะนี้กัปตันโรเจอร์เป็นเจ้าหน้าที่ชิลด์เต็มตัว และอยู่ในระดับ 8 

(เอเจ้นท์13 หรือชารอน คาเตอร์ เป็นหลานของ เพกกี้ คาร์เตอร์ หนึ่งในสามผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์)

     ทางฝั่งแอสการ์ด โลกิถูกคุมขังไว้ในคุกแน่นหนา ราชินีฟลิกก้ายังรักและเป็นห่วงโลกิอยู่เสมอ ราชินีใช้ร่างมายาไปเยี่ยมโลกิบ่อยๆ ธอร์,เลดี้ซิฟและ warriors Three ได้ทำการรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปทั่วทั้ง9อาณาจักร เกิดความสงบสุขกับอาณาจักรทั้ง9 ราชาโอดินภูมิใจในตัวธอร์มาก และคิดว่าธอร์เหมาะสมแล้วกับการเป็นกษัตริย์แอสการ์ดต่อจากตน โอดินอยากให้ธอร์สมรสกับเลดี้ซิฟ แต่ในใจธอร์มีเพียงเจน ฟอสเตอร์เท่านั้น

     ทีมโคลสันจับสกายในข้อหาแฮคเกอร์ของกลุ่มไรซิ่ง ไทน์ และนำสกายมาช่วยงานในทีม (สกายคือเดย์ซี่ลูกเจียหยิงกับคาลในบทที่1) และโครงการตะขาบก็ถูกเปิดเผย ไมค์ ปีเตอร์สัน ถูกจับตัว แต่โคลสันกลับนำไมค์เข้าฝึกสอนในหน่วยชิลด์  


     ที่ประเทศโซโคเวีย หลังจากถูกรุกรานโดยกองกำลังไฮดร้ามานาน ชาวเมืองเริ่มสิ้นหวัง ก็มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เสนอความช่วยเหลือ (ก็พวกไฮดร้าอีกนั่นละ) มาเสนอทางเลือกให้กับเปโตรและวานด้า (รวมถึงชาวเมืองคนอื่นด้วย) ถึงทางเลือกที่จะขับไล่กองกำลังผู้รุกรานออกไปจากประเทศตน  โดยต้องเข้าสู่กระบวนการทดลองเพื่อทำให้แข็งแกร่งและมีความสามารถเหนือมนุษย์นั่นเอง เปโตรนั้นยินดีที่จะเข้าทำการทดลองนี้ แต่วานด้านั้น รู้สึกแคลงใจนิดๆ ที่สุดแล้วเธอก็ตามใจแฝดผู้น้องด้วยการยินยอมเข้ากระบวนการการทดลองประหลาดนี้  หลังจากการทดลอง ทั้งสองก็มีพลังอำนาจพิเศษ  สองพี่น้องโดนการทดลองโดยใช้พลังอำนาจหรือเวทมนต์ที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งมาจากคฑาของโลกิและเทคโนโลยีของชิกทอรี่ ทำให้ทั้งคู่มีพลังเหนือมนุษย์ และวานด้ากลายเป็น Scarlet Witch ส่วนเปโตรก็ กลายเป็น Quicksilver นั่นเอง
ที่แอสการ์ด สะพานไบฟรอสท์ซ่อมเสร็จแล้ว แต่เหตุการณ์ในรอบพันปีก็ใกล้มาถึง การเรียงตัวกันของดวงดาวทั้ง9อาณาจักรในรอบพันปี ทำให้มิติต่างๆในอาณาจักรทั้ง9ปั่นป่วน รวมถึงโลกด้วย เครื่องมือของเจนพบการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ลอนดอน เจนรีบไปที่นั่น ตามคำเชิญของ ดร.เซลวิค เจนพบว่ามิติของโลกถูกเชื่อมต่อกับมิติของที่อื่นๆ ซึ่งเจนก็ไม่รู้ว่ามิติอันแตกแยกนี้อยู่บนโลกหรือดวงดาวอืนๆ และเจนหลุดเข้าไปในมิตินึงที่ราชาบอร์บิดาแห่งโอดินปู่แห่งธอร์ได้ซ่อนอีเธอร์ไว้
(อีเธอร์ คือ Reality Stone 1ใน Infinity Stone)


เจนเอื้อมมือไปสัมผัสอีเธอร์ด้วยความไม่รู้ อีเธอร์จึงไหลเข้าสู่ร่างกายเจน ด้วยพลังของอีเธอร์ที่เข้าครอบครองร่างของเจนทำให้เจนสลบไป ฮัมดาลล์ซึ่งจับตาเจนตลอดเวลามองหาเจนไม่พบ(ตามคำสั่งธอร์) ฮัลดาลล์จึงบอกธอร์ว่า เค้าไม่เห็นเจนอยู่บนโลก (เจนอยู่ในมิติอื่น ฮัมดาลล์จึงไม่เห็น) ธอร์จึงใช้สะพานไบฟรอสท์มายังโลกเพื่อมาหาเจน เจนฟื้นขึ้นมาหลังจากสลบไป5ชั่วโมง
        "มาลาคิธ" ผู้หลับไหล ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการจำศีลอันยาวนาน ด้วยมาลาคิธรับรู้ถึงพลังอีเธอร์ (ใครจำไม่ได้ว่ามาลาคิธมาจากไหนโปรดกลับไปอ่านต้นๆบทที่1) 

ใครที่แตะต้องตัวเจนจะถูกพลังอีเธอร์เล่นงาน ธอร์พบความผิดปกติจึงพาเจนไปแอสการ์ดเพื่อรักษา ราชาโอดินพบอีเธอร์อยู่ในตัวเจน ซึ่งอีเธอร์จะดูดกินพลังชีวิตเจนไปเรื่อยๆจนหมด และเจนจะตาย เนื่องด้วยร่างกายมนุษย์อ่อนแอ โอดินไม่รู้วิธีรักษาหรือวิธีนำออกมา มาลาคิธจับพลังอีเธอร์ในตัวเจนได้ว่าอยู่ที่แอสการ์ด มาลาคิธจึงนำทัพดาร์คเอลฟ์บุกวังแอสการ์ดเพื่อชิงอีเธอร์คืน การบุกของดารคเอลฟ์ครั้งนี้สามารถพรางตัวซ่อนจากสายตาฮัมดาลล์ได้ เหตุการณ์นี้มาลาคิธได้สังหารราชินีฟลิกก้าด้วย เนื่องด้วยราชินีฟลิกก้าปกป้องเจนจากมาลาคิธ 

ธอร์มาทันช่วนเจนแต่ไม่สามารถช่วยราชินีฟลิกก้าทัน มาลาคิธขณะนั้นยังสู้ธอร์ไม่ได้ ลูกน้องมาลาคิธจึงพามาลาคิธหนีไป ทุกคนต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของราชินีฟลิกก้ารวมถึงโลกิด้วย ราชาโอดินสั่งปิดสะพานไบฟรอสท์ไม่ให้ใครเข้า-ออกอาณาจักรแอสการ์ดได้ และขังเจนไว้เพื่อล่อมาลาคิธ ธอร์ไม่เห็นด้วย เพราะธอร์คิดว่าวิธีนี้จะทำให้ชาวแอสกาเดี้ยนอาจล้มตายจากสงคราม ธอร์อยากให้มาลาคิธดูดอีเธอร์ออกจากตัวเจน แล้วธอร์จะทำลายอีเธอร์ซะ(ธอร์ไม่รู้ว่าอีเธอร์ทำลายไม่ได้) ธอร์จึงให้เลดี้ซิฟช่วยเจนออกมา และให้เหล่า Warriors Three คอยขัดขวางทหาร ธอร์ยังพาโลกิออกจากคุก และขอให้โลกิช่วยพาออกจากแอสการ์ดที่ทางลับซึ่งโลกิรู้อยู่คนเดียว โลกิอยากแก้แค้นให้ท่านแม่ จึงช่วยธอร์และเจนหนีออกจากแอสการ์ดไปสะวาทามไฮม์ ที่ซึ่งมาลาคิธและดาร์คเอลฟ์ซ่อนตัวอยู่ 

เมื่อมาถึง โลกิร่วมมือกับธอร์ใช้มายาหลอกให้มาลาคิธดูดอีเธอร์ออกจากเจนได้สำเร็จ ขณะอีเธอร์ยังไม่หลอมรวมกับมาลาคิธ ธอร์ใช้ฆ้อนโยเนียฟาดสายฟ้าใส่อีเธอร์เพื่อหวังทำลาย แต่อีเธอร์ก็กลับมารวมตัวกันใหม่และหลอมรวมเข้ากับมาลาคิธโดยสมบูรณ์ ธอร์และโลกิต่อสู้กับดาร์คเอลฟ์ โลกิปกป้องธอร์และถูกสังหาร(โลกิแกล้งตายด้วยมายา) ธอร์เศร้าเสียใจมาก และมาลาคิธหนีไปได้อีกครั้ง ราชาโอดินส่งทหารไปสะวาไทม์ไฮม์เพื่อสืบเรื่องราว โลกิจึงใช้มายาปลอมตัวเป็นทหารกลับไปรายงานโอดินว่าตนเองตายแล้ว

       ธอร์และเจนหาหนทางออกจากอาณาจักรสะวาทามไฮม์ เจนบังเอิญพบประตูมิติที่โผล่ไปลอนดอนได้(อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น) เจนและดร.เซลวิคช่วยกันหาจุดที่ดาวเรียงกันและส่งพลังสูงสุดให้อีเธอร์ และพบว่าที่นั่นคือเมืองกรีนิช อังกฤษ ธอร์รีบไปและพบมาลาคิธกำลังใช้พลังอีเธอรืทำให้จักรวาลมืดมิด ธอร์เข้าขัดขวางและสังหารมาลาคิธได้สำเร็จ และนำอีเธอร์กลับไปแอสการ์ด ธอร์เข้าพบราชาโอดิน(ซึ่งคือโลกิใช้มายาแปลงกายเป็นราชาโอดิน) 

ธอร์บอกโอดินว่าตนไม่พร้อมรับตำแหน่งราชาตอนนี้ เพราะธอร์อยากปกป้องโลกและอยู่กับเจน (โอดินเป็นยังไงบ้าง? รอเฉลยในแร็คนาร็อคนะครับ) โลกิในร่างโอดินจึงตามใจธอร์(แหงสิ โลกิจะได้ครองบัลลังค์แทน) ธอร์คิดว่าอีเธอร์ไม่ควรเก็บไว้กับแทซเซอแร๊คที่คลังอาวุธแอสการ์ด อัญมณีพลังไม่ควรอยู่ใกล้กัน จึงให้เลดี้ซิฟและโว้ลสเตกซ์นำอีเธอร์เดินทางไปที่ Khowhere (โนวแวร์ คือ ศรีษะของสิ่งมีชีวิตโบราณจากฟากฟ้า)เพื่อนำไปฝาก ทานีเลีย ทิวาน หรือ เดอะ คอลเลคเตอร์ ให้เก็บรักษา (The Collector อาศัยอยู่ที่โนวแวร์และเก็บของสำคัญต่างๆจากหลายจักรวาลไว้ที่นี่)
บทที่4 จุดจบ และ จุดเริ่มต้น


        สตีฟ โรเจอร์ (กัปตันอเมริกา) ใช้ชีวิตอยู่วอชิงตัน ดีซี เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ชิลด์ วันนึงสตีพได้พบกับ แซม วิลสัน อดีตทหารผ่านศึกปลดระวาง สตีฟกับแซมรู้สึกคุยถูกคอและถูกชะตากัน แซมจึงบอกสตีฟว่า มีอะไรไปหาเค้าได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
           โคลสันถูกเรน่าและพวกลูกน้องกาแร็ตจับตัวไป ไมค์ซึ่งกำลังจะไปช่วยโคลสันทำให้ไมค์โดนระเบิดที่พวกลูกน้องกาแร๊ตวางกับดักไว้  ทำให้อวัยวะหลายส่วนของไมค์เสียหาย ตาบอดหนึ่งข้าง ขาขาดหนึ่งข้าง แขนขาดหนึ่งข้าง ไฮดร้าจึงนำตัวไมค์ไปเข้าโปรเจคเด็ทล็อคเหมือนกาแร๊ต และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ไมค์ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนกาแร๊ต และไมค์ยังมีสารเอ๊กซ์ตรีมมิสอีกด้วย ไมค์มีดวงตาเอ็กซเรย์ มีแขนเหล็กยิงจรวดได้ และขาเทียมเหล็ก และร่างกายเกือบครึ่งหนึ่งเป็นโลหะ โดยกาแร๊ตจับตัวลูกชายไมค์เอาไว้ เพื่อให้ไมค์ทำตามคำสั่ง  และเรน่าก็นำโคลสันไปฟื้นความจำ เพื่อหวังจะรู้วิธีฟื้นจากความตาย ตามคำสั่งผู้หยั่งรู้  สุดท้ายทีมโคลสันก็ตามมาช่วยโคลสันสำเร็จ

     กาแร๊ตลองฉีดสารเอ๊กตรีมมิสให้ตัวเองบ้าง เผื่อจะได้ผล แต่ก็เหมือนเดิม อวัยวะภายในกาแร๊ตก็ยังไม่ดีขึ้น และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าผู้หยั่งรู้กับกาแร๊ตคือคนคนเดียวกัน
     ผ.อ.นิค ฟิวรี่ มีคำสั่งให้โรมานอฟ,ทีมสไตรท์,กัปตันอเมริกา ไปช่วยเหลือตัวประกันรวมไปถึงเอเจ้นท์ซิตเวลล์(สายลับไฮดร้า)ที่โดนโจรสลัดยึดบนเรือ ริเมอเรียลสตาร์ ซึ่งเป็นเรือปล่อยดาวเทียมโครงการอินไซด์ของชิลด์ (เพียซสั่งให้ซิตเวลล์ใส่อัลกอริทึ่มของดร.โซล่าเพื่อให้ไฮดร้าสั่งการแทน) ภาระกิจที่ ผ.อ.นิควางไว้คือ หน้าฉากให้ทีมสไตรท์ รัมโรว์และสตีฟไปช่วยตัวประกัน หลังฉากคือให้โรมานอฟไปขโมยข้อมูลในเรือ (ทีมสไตรท์คือทีมจู่โจมหน่วยนึงในชิลด์มีรัมโรว์เป็นหัวหน้าทีมและเป็นไฮคร้า)

และผ.อ.นิคเป็นคนจ้างโจรสลัดให้ไปยึดเอง สตีฟจับได้ว่าโรมานอฟทำภาระกิจซ้อน พอกลับมาฐานชิลด์สตีฟตำหนิ ผ.อ.นิคว่าปิดบังข้อมูล นิคจึงเปิดเผยโครงการอินไซค์ให้สตีฟทราบ สตีฟเรื่มไม่แน่ใจในงานสายลับที่ชิลด์ทำว่าถูกหรือไม่ และคิดถึงบัคกี้คิดถึงเพื่อนเก่าๆ จึงกลับไปเยี่ยมเอเจ้นท์คาเตอร์ซึ่งแก่มากแล้ว เอเจ้นท์คาเตอร์เป็นคนเดียวในสามคนผู้ก่อตั้งชิลด์ที่ยังมีชีวิตอยู่ 
    สกายถูกไฮดร้าที่ชื่อควินน์ยิงเข้าสองนัด สกายกำลังจะตาย โคลสันและกาแร๊ตจึงไปยังโครงการตาฮิติ และโคลสันก็นำเอาสารสกัดชาวครีฉีดให้สกาย กาแร๊ตก็แอบบเอาเซรุ่มสารสกัดนี้ออกมาด้วย ก่อนที่โปรเจคตาฮิติจะระเบิดพังพินาศไป กาแร๊ตจะเอาเซรุ่มนี้รักษาตัวเอง จากอาการอวัยวะภายในบาดเจ็บเรื้อรังนับสิบปี จากโปรเจคเด็ทล็อคที่ทำให้ตัวเอง และสกายก็รอดตาย 
   ลอเลอไล เทพสาวผู้ชั่วร้ายแห่งแอสการ์ด เธอมีมนตราล่อลวงผู้ชายให้หลงไหลและทำตามที่เธอบัญชาได้ ลอเลอไลถูกขังไว้นับพันปีที่คุกในวังแอสการ์ด แต่เมื่อมาลาคิธบุกแอสการ์ดครานั้น คุกก็พัง ลอเลอไล จึงหลบหนีออกมาได้ และมาที่มิดการ์ด ซึ่งก็คือโลกนั่นเอง เลดี้ซิฟ เทพแห่งการต่อสู้ จึงตามมาที่โลก และจับกุมเธอกลับไป 


    ด้าน ผ.อ.นิคหลังจากทราบข้อมูลในเฟลซไดรฟ์ที่ให้โรมานอฟไปขโมยมาจากเรือ จึงเริ่มระแคะระคายแผนการว่ามีองค์กรลับแทรกซึมชิลด์ โดยนิคก็ยังไม่รู้ว่าคือไฮดร้า และนิคก็ยังไม่รู้อีกว่า คนสั่งการองค์กรลับในชิลด์หรือไฮดร้าก็คือเพียซ นิคไปบอกให้เพียซชะลอโครงการอินไซต์ไว้ก่อน


เพียซจึงสั่งให้ละลายการแช่แข็งบัคกี้ และให้บัคกี้ไปลอบสังหารนิค นิคเกือบตายหนีรอดมาได้และไปหาสตีฟที่บ้านเพื่อจะมอบข้อมูลให้สตีฟ และบอกสตีฟว่า ห้ามไว้ใจใคร บัคกี้ตามมาซุ่มยิงนิคที่บ้านสตีฟอีกครั้ง "เคท"พยาบาลข้างๆห้องหรือเอเจ้นท์13ได้ยินเสียงปืนในห้องสตีฟ จึงเปิดเผยตัวและคุ้มครองนิคเบื้องต้นเพื่อนำส่งโรงพยาบาล 

     สตีฟไล่ตามบัคกี้ไป สตีฟและบัคกี้ปะทะกันและเจอกันครั้งแรกในรอบ 70 ปี สตีฟตามจับบัคกี้ไม่ทัน ต่อมาที่โรงพยาบาลของชีลด์ นิคอยู่ในห้องผ่าตัด ซึ่งมีฮิลล์,โรมานอฟ,และสตีฟ เฝ้าอยู่ ฮิลล์บอกโรมานอฟว่านิคถูกกระสุนแกะรอยไม่ได้ยิง สตีฟบอกโรมานอฟว่า มือสังหารมีแขนเหล็ก โรมานอฟรู้ทันทีว่าคือใคร แต่ยังไม่พูดออกมา หลังจากนั้นผ.อ.นิค ฟิวรี่ก็ตาย(แกล้งตายอีกละ)  

และเพียซก็เรียกสตีฟไปพบทันที เพียซบอกว่า นิคคือคนจ้างทหารรับจ้างไปยึดเรือปล่อยดาวเทียมเอง และนิคคือคนทรยศของชิลด์ เพียซซักถามสตีฟว่านิคไปหาสตีฟทำไม? ตอนนี้สตีฟไม่ไว้ใจใครแล้ว จึงไม่บอกเพียซ เพียซจึงสั่งให้หน่วยชิลด์และทีมสไตรท์จับกุมสตีฟในข้อหาปิดบังข้อมูลและมีส่วนรู้เห็นกับการตายของนิค แต่เอเจ้นท์13ไม่ค่อยเชื่อ สตีฟหนีมาเจอโรมานอฟที่รอดักพบ โรมานอฟบอกสตีฟว่า คนที่ฆ่านิค คือมือสังหารในตำนานวงการสายลับชื่อ Winter Soldier  เค้าคนนี้ทำการลอบสังหารทั่วโลกมา 70 กว่าปีแล้ว เป็นผีในตำนาน


โรมานอฟและสตีฟค้นหาแหล่งสร้างไฟล์ที่แรกจากข้อมูลในเฟลซไดรฟ์ จนไปถึงฐานทัพเริ่มแรกก่อตั้งของชิลด์ ที่นี่สตีฟพบ ดร.โซล่าในระบบสมองกลอยู่ในเซิฟเวอร์หลักของหน่วยนี้ ดร.โซล่าเล่าให้สตีฟฟังว่าไฮดร้าแทรกซึมและเติบโตอยู่ในชิลด์มาตั้งแต่ต้น ชิลด์คือไฮดร้า ไฮดร้าคือชิลด์ จากนั้นมีจรวดยิงใส่ฐานทัพชิลด์ที่สตีฟและโรมานอฟอยู่ ซึ่งเพียซสั่งยิงเอง สตีฟช่วยกำบังแรงระเบิดให้โรมานอฟทำให้ทั้งคู่รอดมาได้ หลักฐานทุกอย่างพังทลายไปพร้อมกับสมองกลของ ดร.โซล่า สตีฟและโรมานอฟมาขอความช่วยเหลือจากแซม วิลสัน เพราะไม่อาจเชื่อใจใครในชิลด์ได้อีกแล้ว แซม,สตีฟ,และโรมานอฟ จับได้ว่าซิตเวลล์กับเพียซเป็นไฮดร้า ทั้ง3เลยไปจับซิตเวลล์เพื่อรีดข้อมูล แซมเปิดเผยว่าตนคือฟอลคอนตอนนี้ 

ซิตเวลล์สารภาพหมด บัคกี้จับตาดูอยู่และสังหารซิดเวลล์ปิดปาก โรมานอฟถูกบัคกี้ยิง สตีฟกับบัคกี้สู้กันอย่างสูสี พละกำลังความสามารถเท่าเทียมกัน บัคกี้ทำหน้ากากหลุด สตีพจึงรู้ว่า Winter Soldier ก็คือบัคกี้นั่นเอง รัมโรว์และทีมสไตรท์มาถึงพอดี และล้อมจับตัวคนทั้ง3ได้ บัคกี้จึงหลบฉากไป(รัมโรว์กับบัคกี้เป็นพวกเดียวกัน) ขณะที่ทั้ง3อยู่บนรถคุมขังของทีมสไตรท์ เอเจ้นท์ฮิลล์ได้ปลอมตัวเป็นทีมสไตรท์อยู่บนรถด้วยและช่วยทั้ง3หนีสำเร็จ 

ฮิลล์พาทั้ง3ไปฐานลับชิลด์เพื่อรักษาบาดแผลถูกยิงของโรมานอฟ ที่นั่นทั้ง3พบกับ ผ.อ.นิคซึ่งฮิลล์พามาหลบซ่อนเพื่อรักษาตัวที่นี่ ทั้งหมดปรึกษากันว่าจะทำยังไงกับโครงการอินไซต์และชิลด์ สตีฟเสนอว่าต้องล้มหน่วยชิลด์ไปเลย เพราะไม่รู้ว่าไฮดร้าแทรกซึมได้ขนาดไหนแล้ว ทุกคนเห็นตามสตีฟ  

หลังจากสมองกลของดร.โซล่าถูกทำลาย ก็มีสัญญาณลับแทรกซึมเข้าไปในทุกการสื่อสารทุกๆฐานลับของชิลด์ โดยมีเนื้อหาว่า " ไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป.. ออกมาจากเงามืดได้แล้ว.. เฮล ไฮดร้า " ที่ฐานทัพลับหนึ่งของชิลด์ที่ชื่อ เดอะฮับ วิคตอเรีย แฮนด์ ผู้บัญชาการฐานนี้ ก็มีคำสั่งให้ควบคุมเดอะบัสมาที่เดอะฮับ เพื่อจะทำการสืบสวนทีมโคลสัน ว่าเป็นไฮดร้าหรือไม่ โดยกาแร๊ตก็อยู่บนเดอะบัสด้วย เมื่อเดอะบัสมาถึงเดอะฮับ กาแร๊ตก็เผยตัวว่าตนคือไฮดร้า และสู้กับโคลสัน สุดท้ายโคลสันจับกุมกาแร๊ตได้  วิคตอเรียจะคุมตัวกาแร๊ตไปขังที่คุกชื่อเดอะฟริจจ์เอง แต่วอร์ดขอไปด้วย และระหว่างทางคุมตัวไปนั้น วอร์ดก็สังหารวิคตอเรีย และปล่อยกาแร๊ต จากนั้นทั้งกาแร๊ตและวอร์ดก็ปล่อยนักโทษที่เอะฟริจจ์จนหมด และยังไปที่เดอะสลิงช็อท เพื่อเอาอาวุธอันตรายออกมาอีกด้วย 
(ฐานลับต่างๆของชิลด์ ลิ้งนี้ครับ http://pantip.com/topic/33475655 )


ิ   กัปตันโรเจอร์บุก"Triskelion" ซึ่งก็คือฐานทัพใหญ่ชิลด์พร้อมกับเอเจ้นท์ฮิลล์และฟอลคอน ทั้งสามยึดห้องควบคุมการสั่งการสื่อสารของไทรสเคลเลี่ยนไว้ได้ สตีฟกระจายเสียงบอกทุกคนในชิลด์ว่า ไฮดร้าแทรกซึมอยู่ในชิลด์ และเพียซ เป็นไฮดร้า เอเจ้นท์13หรือชารอนจึงร่วมกับชิลด์ที่เข้าข้างกัปตันอเมริกา เข้าขัดขวางรัมโรว์ซึ่งเป็นไฮดร้าในคราบชิลด์  (เหตุการณ์ที่เดอะฮับและที่ไทรสเคลเลี่ยนเกิดขึ้นพร้อมกัน)

เพียซกำลังจะฆ่ากรรมาธิการสภาความมั่งคงโลกของชีลด์ แต่โรมานอฟที่แฝงตัวเป็น1ในกรรมาธิการขัดขวางไว้ สุดท้ายแล้วเพียซก็ฆ่ากรรมมธิการไป3คน(มีทั้งหมด4คน) นิคเข้ายึดห้องสั่งการและฆ่าเพียซ ฟอลคอนกำลังต่อสู้กับรัมโรว์ แต่ตึกเกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน นิคและโรมานอฟขับเฮลิคอปเตอร์มาช่วยฟอลคอนทัน 
ทางด้านรัมโรว์นั้นบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดและตึกไทรส์เคลเลี่ยนถล่มใส่ ก่อนจะถูกนำไปรักษาตัว (ต่อมารัมโรว์จะกลายเป็นครอสโบนท์ ศัตรูอีกตัวของกัปตัน) กัปตันสู้กับบัคกี้อยู่บนยานอินไซต์ กัปตันหยุดอินไซต์ได้สำเร็จ และเรียกความจำบัคกี้กลับมาได้ส่วนนึง ยานอินไซต์ทั้งสามลำถล่มไปพร้อมกับไทรส์เคลเลี่ยน กัปตันและบัคกี้จึงหล่นลงทะเลสาป บัคกี้ช่วยกัปตันไว้และจากไป

    ที่เรือบัญชาการรบของชิลด์กลางมหาสมุทร ขณะไทรสเคลเลี่ยนกำลังถล่ม ในเวลาเดียวกันนั้น ไฮดร้าส่วนนึงก็ยึดและสังหารลูกเรือชิลด์ไปมากมาย  นิคสั่งให้อิซซี่กับบ็อบบี้ หรือ ม็อคกิ้งเบิร์ดไปทำลายเรือรบนี้ทิ้ง เพราะไม่ต้องการให้ข้อมูลลับในเรือรั่วไหล แต่แม๊กซ์ หัวหน้าวิศวกรบนเรือและโรเบิร์ต กอนซาเลซ ผู้บัญชาการเรือ ไม่เห็นด้วยในการทำลายเรือ เพราะจะทำให้ลูกเรือที่เหลือนับร้อยชีวิตตายหมด สุดท้ายแล้วทั้งหมดตัดสินใจสู้ตายกับไฮดร้าไม่ทำลายเรือ และทุกคนรอดมาได้ กอนซาเลซจึงไม่เชื่อในตัวนิคและแนวทางของนิคอีกต่อไป และนี่คือต้นกำเนิด เรียล ชิลด์..

ชิลด์ล่มสลาย ไฮดร้าถูกเปิดโปงการมีตัวตน กัปตันเริ่มสืบค้นการกำเนิดของ Winter Soldier เพื่อตามหาบัคกี้เพื่อนรัก ฟอลคอน ยินดีติดตามสตีฟไปไหนไปด้วย มาเรีย ฮิลล์ ไปทำงานกับโทนี่ ชารอนไปเป็นซีไอเอ และโรมานอฟถูกรัฐบาลสอบสวน ทีมโคลสันหนีมาซ่อนตัวที่ฐานลับของนิค วอร์ดมาหลอกจับสกายไปโดยได้ไมค์ช่วยเหลือ ก่อนที่โคลสันและฮิลล์จะตามมาช่วย กาแร๊ตกับวอร์ดยึดเดอะบัส และนำเซรุ่มซากศพครีฉีดตัวเอง นั่นทำให้กาแร๊ตเห็นชุดรูปแบบประหลาด ดังเช่นโคลสันและผู้ที่เคยถูกทดลองในโปรเจคตาฮิติ ทีมโคลสันบุกบริษัทไซเบอเทค โคลสันเข้าต่อสู้กับกาแร๊ตและไมค์ (ทั้งสองคือเด๊ทล็อค ซึ่งเหมือนๆกับไซบอร์คนั่นเอง)

     นิคมาช่วยโคลสันและจับกาแร๊ตได้สำเร็จ เพราะได้ความช่วยเหลือของไมค์ด้วย เพราะไมค์ไม่ฟังคำสั่งกาแร๊ตอีกต่อไป เนื่องจากลูกชายตนไม่โดนจับแล้วจากความช่วยเหลือของสกาย เมย์จับกุมตัววอร์ดได้สำเร็จเช่นกัน  และโคลสันก็สังหารกาแร๊ตภายหลัง 

    เอเจ้นท์ไมค์ ปีเตอร์สัน หรือเด๊ทล็อค ก็หลบหายไปในการแฝงตัวในเงามืด และเด๊ทล็อคก็ทำงานให้โคลสันแบบลับๆตั้งแต่นั้น และ บัคกี้ ค้นหาตัวตนของเค้าเอง บัคกี้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์หน่วยฮาวลิ่งคอมมานโดของตนเองในนิวยอร์ค และทราบว่า ตนเองคือใคร..


(ไฮดร้ากับชิลด์ฆ่าล้างบางกันทั่วประเทศโครมๆๆ.. แถมออกทีวีด้วย แต่อีตาฮอร์คอายไปไหน??? )

เมื่อชิลด์ล่มสลาย กองทัพสหรัฐฯนำโดยนายพลทัลบอทก็เข้ามายึดทุกอย่างในชิลด์ทั้งหมด ทั้งฐานบัญชาการลับ รวมถึงสิ่งของอันตรายรหัส 084 ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือดีไวเนอร์

   นิค ฟิวรี่ ฝากฝังให้โคลสันรับตำแหน่งผู้อำนวยการชิลด์ต่อจากตน พร้อมกับมอบทูลบ๊อกซ์ให้โคลสันฟื้นฟูและก่อตั้งชิลล์ขึ้นมาใหม่ และนิคก็หายไปในเงามืดอีกคน ทางด้านไฮดร้า เมื่อไม่มีเพียซแล้ว บารอน วอน สตรัคเกอร์ ก็ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของไฮดร้าแต่เพียงผู้เดียว 

(เอเจ้นท์คนนึงในชิลด์ซึ่งเป็นสายไฮดร้า ลักลอบนำคฑาโลกิมาให้บารอนนานแล้วนะครับ)


    ณ จักรวาลอันห่างไกล กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ได้รับว่าจ้างจาก เดอะโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นชาว"แซนด้าร์"ให้ตามหาลูกออร์ป หัวหน้ากลุ่มราเวนเจอร์ "ยอนดู อูดอนต้า" พบว่าลูกออร์ปอยู่ที่ดาวโมแร๊ก จึงให้ปีเตอร์ ควิล(สตา-ร์ลอร์ด) ไปเอาลูกออร์ปกลับมา 

ทีมโคลสันได้รับสมาชิกใหม่สามคน นั่นก็คือแมกซ์ อิซซี่ และ บ็อบบี้ ซึ่งทั้งสามคนคือเรียลชีลด์ที่กอนซาเลสส่งมาสอดแนมทีมโคลสันนั่นเอง บ็อบบี้นั้นแฝงตัวไปอยู่กับไฮดร้าก่อนช่วงแรก ส่วนอิซซี่ก็นำเพื่อนทหารรับจ้างมาช่วยงานชิลด์ของโคลสัน ในภารกิจที่โคลสันสั่งให้อิซซี่ไปบุกฐานทัพของทัลบอทชิงดีไวเนอร์มาคืน  ทีมของอิซซี่ก็โดนฆ่าโดยมือสังหารไฮดร้าทั้งหมด รวมถึงอิซซี่ด้วย เพราะไวท์ฮอลล์ก็ส่งมือสังหารมาชิงดีไวเนอร์เช่นกัน แต่ฮันเตอร์ทหารรับจ้างผู้เก่งกาจรอดมาได้คนเดียว ฮันเตอร์จึงทำงานให้โคลสันต่อไป โดยเป็นการชั่วคราวเทานั้น


   ณ ดาวโมแร๊กนั้นสูญสิ้นอารยธรรมและเป็นดาวร้างไปแล้ว ปีเตอร์ตามหาลูกออร์ปจนพบ ขณะเดียวกัน"โรแนน"ที่ตามหาลูกออร์ปเช่นกัน ก็พบว่าลูกออร์ปอยู่ที่นี่ จึงให้"โครอธ"ผู้รักษากฎของครี เดินทางไปเอาลูกออร์ปกลับมา ปีเตอร์กับโครอธจึงปะทะกัน ปีเตอร์หนีโครอธมาได้และคิดจะขายลูกออร์ปเอง 


ยอนดูโกรธมาก จึงตั้งค่าหัวปีเตอร์ไว้ 40,000หน่วย โครอธกลับมารายงานโรแนนว่า มนุษย์ผู้มีฉายาว่า สตาร์ลอร์ดได้เอาลูกออร์ปไป โรแนนจึงสั่งให้เนบิวล่าไปชิงลูกออร์ป แต่กาโมร่าเห็นโอกาสชิงลูกออร์ปไปให้เดอะ คอลแลคเตอร์ จึงอาสาไปชิงลูกออร์ปจากปีเตอร์เอง

ปีเตอร์เดินทางไปดาวแซนด้าร์เพื่อขายลูกออร์ปให้เดอะโบรกเกอร์ (เดอะคอลเลคเตอร์ว่าจ้างเดอะโบรคเกอร์อีกที) เมื่อมาถึงแซนด้าร์ ปีเตอร์ก็ถูกจับตาโดยร็อคเก๊ตและGroot (ร็อคเก็ตเป็นแร็คคูนที่โดนตัดต่อพันธุกรรม ทำให้ร็อคเก็ตมีความสามารถเหนือกว่าแร็คคูนปกติ ชำนาญยุทธศาสตร์การรบทุกชนิด และ Groot เป็นมนุษย์พืชผู้แข็งแกร่ง ตายยาก เพราะเป็นต้นไม้สามารถงอกใหม่ได้ตลอด(ถ้าจับGrootเผาจะเป็นไง?)

ร็อคเก๊ตและGrootเป็นนักล่าค่าหัวตัวฉกาจ ทั้งสองเดินทางมาแซนด้าร์เพื่อหาคนที่มีค่าหัว และพบว่าปีเตอร์มีค่าหัวถึง40,000หน่วยจากยอนดูที่ตั้งค่าหัวไว้ และกำลังรอจังหวะจับตัวปีเตอร์ซึ่งปีเตอร์กำลังเข้าไปขายลูกออร์ปให้กับเดอะโบรกเกอร์ แต่เมื่อเดอะโบรกเกอร์รู้ว่าโรแนนก็ตามหาลูกออร์ปนี้เช่นกัน เดอะโบรกเกอร์จึงปฎิเสธการซื้อขายเพราะกลัวโรแนน ปีเตอร์ไม่มีที่ขายลูกออร์ปแล้ว จังหวะเดียวกันนั้น กาโมร่าก็โผล่มาชิงลูกออร์ปจากปีเตอร์ ทั้งสองกำลังต่อสู้กัน Groot ก็เข้ามาจับปีเตอร์ และร๊อคเก็ตก็เข้าขัดขวางกาโมร่า 

ทั้ง 4 กำลังตะลุมบอนกันอุตลุต "คอร์ปแมน เด"  แห่งหน่วยโนวาคอร์ปก็เข้ามาจับกุมทั้ง 4 ไป โนวาคอร์ปตรวจสอบประวัติทั้ง 4 แล้ว จึงรู้ว่าเป็นอาชญากรตัวฉกาจของจักรวาลทั้งสิ้น จึงนำทั้ง 4 ไปขังไว้ที่ "คิวน์"
"เดร็ก" จอมทำลายล้าง ที่ติดคุกที่คิวน์อยู่ก่อนหน้านี้ ได้จับตาดูกาโมร่าเพื่อรอจังหวะฆ่าทิ้ง(เพราะกาโมร่าเป็นบุตรบุญธรรมธานอสและทำงานให้โรแนนซึ่งฆ่าลูก-เมียเดร๊ก) พอได้โอกาสกำลังจะฆ่า ปีเตอร์มาขวางไว้ เพราะปีเตอร์รู้ว่ากาโมร่ามีที่ขายลูกออร์ป และเพื่อเป็นการตอบแทนเดร็กที่ไว้ชีวิตกาโมร่า ปีเตอร์สัญญาว่าจะพาเดร็กไปสังหารโรแนนให้ได้

ปีเตอร์รู้ว่าร็อคเก็ตเก่งเรื่องวางแผนแหกคุก จึงบอกร็อคเก็ตว่าลูกออร์ปมีค่ามากกว่าค่าหัวปีเตอร์เยอะ ถ้าพาตนและกาโมร่าแหกคุกไปได้ กาโมร่าจะพาไปหาผู้ซื้อ(เดอะ คอลเลคเตอร์) ซึ่งลูกออร์ปมีค่าถึงสี่พันล้านหน่วย ร็อคเก็ตจึงตกลงช่วยแหกคุก ระหว่างแหกคุกเดร็กข่วยพวกปีเตอร์สกัดพวกผู้คุมและหนีไปด้วย เดร็กหวังจะติดตามปีเตอร์และกาโมร่าไป เพราะหวังว่าโรแนนต้องมาตามล่ากาโมร่าแน่
โรแนนและเนบิวล่าตามรอยกาโมร่ากับสตาร์ลอร์ดมาถึงคุกคิวน์ เนบิวล่าจับผู้คุมมาสอบสวนถึงทั้งคู่ พบว่าทั้งคู่หนีไปแล้ว โรแนนจึงสั่งเนบิวล่าทำลายคุกนี้ซะ เพื่อปกปิด ไม่ให้โนวาคอร์ปรู้ว่าตนหาอะไรอยู่
กาโมร่าพาทุกคนมาที่Khowhere เพื่อมาหา ทานิเลีย ทิวาน เดอะ คอลเลคเตอร์
(โนวแวร์ คือ ศรีษะของสิ่งมีชีวิตโบราณจากฟากฟ้า เดอะ คอลเลคเตอร์อาศัยอยู่ที่โนวแวร์และเก็บของสำคัญต่างๆจากหลายจักรวาลไว้ที่นี่)


ยอนดูกับกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ได้ติดตามสตาร์ลอร์ดมาจนถึงดาวแซนด้าร์ และบังคับให้เดอะโบรกเกอร์บอกว่าใครกันแน่คือผู้ต้องการลูกออร์ป เดอะโบรกเกอร์จึงสารภาพว่าผู้ว่าจ้างคือเดอะคอลเลคเตอร์ ยอนดูและพวกจึงตามปีเตอร์ไปที่โนวแวร์ทันที
ปีเตอร์,ร็อคเก๊ต,กาโมร่า,และGroot เข้าไปพบเดอะ คอลเลคเตอร์ ทิ้งเดร็กไว้ภายนอกคนเดียว ด้วยความที่เดร็กอาฆาตจนขาดสติ เดร็กจึงหาทางติดต่อโรแนนและบอกโรแนนว่า กาโมร่า สตาร์ลอร์ด และลูกออร์ป อยู่ที่โนวแวร์ เพื่อหวังให้โรแนนมาที่นี่และสังหารซะ โรแนนและกองทัพเดอะ ดาร์ค เอสเตอร์จึงมุ่งหน้ามาที่โนวแวร์
ที่คลังเก็บสมบัติของเดอะคอลเลคเตอร์ ขณะทิวานกำลังเปิดลูกออร์ปเพื่อชมอัญมณีที่อยู่ข้างใน เดอะคอลเลคเตอร์ก็เล่าให้ทั้ง 4 ฟังถึงประวัติความเป็นมาของอัญมณีขุมพลังดึกดำบรรพ์ทั้ง 6 ชนิด ซึ่งลูกออร์ปคือ Power Stone 1 ใน 6 อัญมณีนั้นด้วย 
(ออร์ป คือ Power Stone 1ใน Infinity Stone)


คาริน่าสาวใช้ของเดอะคอลเลคเตอร์ เกิดอยากได้อำนาจจากอัญมณีและครอบครองพลังนี้ไว้ จึงจับอัญมณีนั้น ผลทำให้คลังเก็บสมบัติของเดอะคอลเลคเตอร์ระเบิด และสาวใช้คาริน่าก็โดนพลังอัญมณีเผาผลาญร่างกายแหลกสลายไป
      กาโมร่าเห็นว่าไม่ควรให้เดอะคอลเลคเตอร์เก็บอัญมณีพลังมหาศาลขนาดนี้ไว้ เธอเห็นควรให้โนวาคอร์ปเป็นผู้เก็บรักษาดีกว่า ขณะนั้นกองทัพของโรแนนก็มาถึงโนแวร์ เดร็กจึงเข้าต่อสู้กับโรแนนแต่สู้ไม่ได้ เนบิวล่าชิงอัญมณีจากกาโมร่าไปได้ และนำไปมอบให้โรแนน ด้านกาโมร่ากับปีเตอร์ก็ถูกกลุ่มราเวนเจอร์จับไว้ ทุกคนในกลุ่มราเวนเจอร์อยากฆ่าปีเตอร์ แต่ยอนดูยังปราณีปีเตอร์เสมอ เหตุเพราะยอนดูก็เห็นปีเตอร์เป็นลูก เพราะเลี้ยงมากับมือ ปีเตอร์ขอร้องให้กลุ่มราเวนเจอร์ไปช่วยหน่วยโนวาคอร์ปต่อสู้กับกองทัพของโรแนน โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าจะให้ลูกออร์ปกับยอนดู

    ด้านทางโรแนนเมื่อได้ลูกออร์ปมาแล้ว และขณะกำลังสื่อสารทางไกลไปหาธานอส โรแนนก็ได้ล่วงรู้ถึงพลังอัญมณีนี้ว่า มีพลังสูงขนาดทำลายดวงดาวได้ในพริบตา โรแนนจึงนำอัญมณีใส่ในคฑาพลังของตนเอง และปฎิเสธการร่วมมือและไม่ยอมก้มหัวให้ธานอสอีกต่อไป ธานอสได้แต่แสยะยิ้มมุมปากและตัดการสื่อสารไปเงียบๆ และชาวครีผู้บ้าคลั่งคนนี้ก็มุ่งหน้าไปดาวซานด้าร์ทันที


    ที่โลก โคลสันจะส่งตัวแกรนท์ วอร์ด ให้กับ สว.วอร์ดซึ่งเป็นพี่น้องกัน วอร์ดหนีได้และตามไปฆ่าพี่ชายตัวเอง ก่อนจะมาอยู่กับไวท์ฮอลล์ภายหลัง ซึ่งพอกาแร๊ตตาย วอร์ดก็ไม่จำเป็นต้องรับคำสั่งจากไฮดร้า และวอร์ดไม่ได้ภักดีไฮดร้า เจตนาวอร์ดมีเพียงแค่สกายเท่านั้น นายพลทัลบอทก็ไม่ตามล่าโคลสันอีกต่อไป และเป็นพันธมิตรกับโคลสัน

โคลสันนั้นเห็นชุดรูปแบบประหลาดในสมองตลอด ตั้งแต่ฟื้นจากโครงการตาฮิติ ในที่สุดโคลสันก็ปะติดปะต่อเรื่องราวจนรู้ว่า ชุดรูปแบบนี้คือแผนผังของเมือง และเมืองนี้ก็คือวิหารชาวครีนั่นเอง 
  
โคลสันและไวท์ฮอลล์พบวิหารชาวครีเกือบจะพร้อมๆกัน ทั้งไฮดร้าและชิลด์จึงมุ่งไปที่นั่น โคลสันสังหารไวท์ฮอลล์ที่นี่ และเอเจ้นท์33 ซึ่งถูกไวท์ฮอลล์ล้างสมองก็เป็นอิสระ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี เอเจ้นท์33จึงพาวอร์ดหนี สุดท้ายแล้วสกายและเรน่าก็โดนปลุกพลังจากเทอริเก้นมิส ซึ่งแตกออกมาจากดีไวเนอร์ ทั้งคู่จึงกลายเป็น" INHUMANS "

(ขั้นตอนการปลุกพลังลิ้งค์นี้ครับ http://pantip.com/topic/33421975)

กอร์ดอน หนึ่งในอินฮิวแมน รับรู้ถึงการเพิ่มขึ้นของกลุ่มตน เพราะทุกครั้งที่มีผู้กลายเป็นอินฮิวแมน ดีไวเนอร์ที่เหลือจะเปล่งแสงออกมา ซึ่งกอร์ดอนก็มีดีไวเนอร์อยู่หนึ่งอัน กอร์ดอนจึงปรึกษากับผู้อาวุโสระดับสูงของอินฮิวแมนว่า ควรทำอย่างไรดี  และกอร์ดอนก็ตัดสินใจว่า เค้าจะตามเรื่องเอง (ผู้อาวุโสของอินฮิวแมนคือ เจียหยิง แม่สกายนั่นละครับ) หลังจากนั้นไม่นาน กอร์ดอนก็เทเลพอร์ตมาเอาตัวเรน่าไปที่อาฟเตอร์ไลฟ์เป็นคนแรก และกอร์ดอนมาพาคาลไปสงบสติที่อาฟเตอร์ไลฟ์ภายหลังอีกคน (คาล พ่อของสกาย ไม่ใช่อินฮิวแมน)


ที่กลุ่มยานสลัดอวกาศราเวนเจอร์ ปีเตอร์ก็ติดต่อคอร์ปแมน เด เจ้าหน้าที่ของโนวาคอร์ปบนดาวแซนด้าร์เพื่อแจ้งว่าโรแนนได้อัญมณี Power Gem ไป และกำลังไปถล่มดาวแซนด้าร์ พวกของตนกับกลุ่มราเวนเจอร์กำลังไปช่วย โนวาไพรม์ปรึกษาเหล่าโนวาคอร์ปว่าควรเชื่อกลุ่มอาชญากรกลุ่มนี้หรือไม่? คอร์ปแมน เด ออกความเห็นว่าสมควรจะเชื่อไว้ก่อน 

(โนว่าไพรม์ "Nova Prime" =นายกรัฐมนตรี คือ"ตำแหน่ง"หัวหน้าสูงสุดของหน่วยตำรวจอวกาศโนวาคอร์ป)

โนวาคอร์ปตรวจพบกลุ่มยานรบเดอะ ดาร์ค เอสเตอร์ "The Dark Ester" ของโรแนนใกล้เข้ามา จึงรู้ว่าปีเตอร์พูดเรื่องจริง ทุกคนรู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ตามห้ามให้โรแนนลงถึงพื้นดาวแซนด้าร์เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นโรแนนจะใช้อัญมณีสัมผัสดวงดาวและดาวแซนด้าร์ต้องโดนทำลายล้างแน่นอน ปีเตอร์,เดร็ก กาโมร่า,และGroot, ทั้ง 4 ลอบขึ้นไปบนยานรบของโรแนน ร็อคเก๊ตขับเครื่องบินรบสู้กับกองยานรบโรแนนอยู่ข้างนอก ร่วมกับหน่วยโนวาคอร์ปและกลุ่มราเวนเจอร์ กาโมร่าและเนบิวล่าปะทะกัน กาโมร่าไม่อยากสู้กับเนบิวล่า สุดท้ายเนบิวล่าตัดมือตัวเองและหนีไปได้ 

เดร็กสังหารโครอธและบุกเข้าไปจนถึงตัวโรแนน และเข้าต่อสู้กับโรแนน เดร็กกำลังจะถูกโรแนนฆ่า แต่ร็อคเก๊ตขับยานบินรบพุ่งชนห้องบังคับการบินเดอะ ดาร์ค เอสเตอร์ยานรบของโรแนน ทำให้ทุกคนกระจัดกระจาย ยานรบเดอะ ดาร์ค เอสเตอร์กำลังตก กรูธจึงใช้เส้นใยร่างกายต้นไม้ของตนปกป้องเพื่อนๆจากแรงปะทะที่ยานตก ยานโรแนนตกถึงพื้นและทุกคนรอด แต่กรูธร่างกายแหลก เหลือแต่กิ่งก้านต้นไม้ของตัวเองเล็กๆ (ร็อคเกีตเอากิ่งกรูธมาปลูกใหม่ได้ ไม่ตายครับ) 

โรแนนก็รอดจากยานตกเช่นกัน ขณะที่โรแนนกำลังจะทำลายดาวแซนด้าร์ ปีเตอร์ถ่วงเวลาโรแนนไว้ เพื่อให้เดร็กยิงปืนใหญ่ใส่คฑา เมื่อคฑาโดนยิงอัญมณีพลังจึงร่วงออกมา ปีเตอร์รีบไปแย่งจากโรแนนและปีเตอร์ก็กำลังโดนพลังอัญมณีเผาผลาญ และน่าประหลาดที่ปีเตอร์ไม่ตาย แต่ก็คงทนได้ไม่นาน กาโมร่า,เดร็ก,ร็อคเก็ต,จึงมาช่วยปีเตอร์กระจายพลัง และปีเตอร์ก็ยิงพลังจากอัญมณีสังหารโรแนน 


กาโมร่ารีบนำอัญมณีใส่ลูกออร์ปคืน ยอนดูมาทวงสัญญากับปีเตอร์เรื่องลูกออร์ป ปีเตอร์ให้ของปลอมไป และนำของจริงมอบให้หน่วยโนวาคอร์ปเก็บรักษาไว้ โนวาไพรม์สงสัยว่าปีเตอร์ทนพลังอัญมณีได้อย่างไร จึงตรวจร่างกายปีเตอร์ และพบว่าปีเตอร์เป็นลูกครึ่งมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สายพันธุ์เก่าแก่มากๆ แม้แต่หน่วยโนวาคอร์ปก็ไม่รู้จักสายพันธุ์นี้ จากวีรกรรมช่วยเหลือหน่วยโนวาคอร์ปรบกับกองยานรบของโรแนน และสังหารโรแนนชาวครีผู้คลั่งสงครามลงได้ และยังช่วยไม่ให้โรแนนทำลายล้างเผ่าพันธุ์แซนด้าร์ ทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ในจักรวาลขนานนามพวกเขาว่า (ผู้พิทักษ์แห่งจักรวาล)"Guardian of the galaxy"

(กรูธน้อยกำลังเติบโต..และเต้นระบำ^^ )


ณ ดาวฮาล่าซึ่งเป็นที่ที่จักรวรรดิ์ครีอาศัยอยู่ "วินแทค" ชาวครีผู้ฝักใฝ่คุณธรรม วินแทคได้รับสัญญาณว่ามีมนุษย์ใช้วิหารของครีที่โลกในรอบหลายพันปี และวินแทคก็รับรู้ว่า บัดนี้ มีมนุษย์โลกถูกปลุกพลังขึ้นแล้ว ชาวครีเข้าใจผิดไปเองที่คิดว่าการทดลองของพวกตนเมื่อหลายพันปีก่อนไม่สำเร็จ ซึ่งแท้จริงแล้วสำเร็จดีเกินคาด วินแทคไม่ต้องการให้ชาวครีบางกลุ่มที่กระหายสงครามรับรู้ว่า การทดลองครีสลาฟวอริเออร์ที่โลกมนุษย์สำเร็จ วินแทคจึงนำเครื่องมือลบความทรงจำ และมุ่งหน้ามาที่โลก เพื่อกำจัดมนุษย์ผู้ถูกปลุกพลังและลบความทรงจำมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด


ณ แอสการ์ด ฮัมดาลล์เห็นชาวครีผู้หนึ่งมุ่งหน้าไปที่โลก (ฮัมดาลล์เห็นทุกอย่างในเก้าอาณาจักรนะครับ รวมถึงโลกด้วย) ด้วยนิสัยชาวครีนั้นมักชอบทำสงครามและรุกรานอารยธรรมอื่น ฮัมดาลล์จึงไม่นิ่งนอนใจ และส่งเลดี้ซิฟลงมาที่โลกเพื่อยับยั้งชาวครี โดยที่ยังไม่รู้ว่าครีผู้นี้จะมาทำอะไรที่โลกกันแน่

สกายหลังจากถูกปลุกพลังเป็นอินฮิวแมน ก็เก็บเป็นความลับไม่ยอมเปิดเผยให้ใครรู้ จนกระทั่งวินแทคและเลดี้ซิฟรู้เข้าจนได้ ทีมโคลสันทุกคนจึงช่วยสกายหนีจากการตามล่าของวินแทคและเลดี้ซิฟ สุดท้ายสกายต้องยิงตัวเองเพื่อให้ตัวเองหยุดปล่อยพลังสั่นสะเทือน (Earth Quake) เลดี้ซิฟจึงไม่ทำอะไรสกาย และวินแทคก็โดนเครื่องลบความจำตัวเองโดยโดนบ็อบบี้เล่นงาน ผลทำให้วินแทคจำไม่ได้ว่ามาโลกทำไม เลดี้ซิฟจึงให้ฮัมดาลล์พาวินแทคไปส่งกลับดาวฮาล่า 



โคลสันนำสกายไปที่เซฟเฮ้าส์ ก่อนที่เรียลชีลด์ของกอนซาเลซจะบุกฐานลับโคลสันและยึดทูลบ็อกซ์ไว้ กอร์ดอนพาสกายเทเลพอร์ตหนีพวกเรียลชิลด์ เพราะสกายเรียกให้กอร์ดอนมาช่วย หลังจากเธอใช้พลังสั่นสะเทือนของเธอซัดป่าราบเป็นหน้ากลอง และกอร์ดอนก็พาสกายไปที่ Afterlife (อาฟเตอร์ไลฟ์คือสถานที่ฝึกควบคุมพลังของอินฮิวแมน อยู่ที่ใดไม่ปรากฎ) และพบกับเจียหยิงแม่ของเธอ


   โคลสันและฮันเตอร์โดนเรียลชิลด์ตามจับ แต่เด็ทล๊อคมาช่วยไว้ทัน ฟิซและซิมม่อนใช้แผนหลอกล่อเรียลชิลด์จนกระทั้งฟิซนำทูลบ็อกซ์ออกมาได้ โดยที่เรียลชีลด์ไม่รู้ เพราะซิมม่อนทำของปลอมอีกอันไว้ที่พวกเรียลชิลด์  หลังจากออกมาจากรีลชิลด์ฟิซก็หาทางเปิดทูลบ็อกซ์และติดต่อกับโคลสันทันที
   

    และที่อาฟเตอร์ไลฟ์ สกายก็พบกับอินฮิวแมนอีกคน คือลินคอร์น ผู้ซึ่งมีพลังควบคุมไฟฟ้าสถิตในทุกอณูบนโลกได้  ที่สุดแล้วทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็ได้พร้อมหน้าพร้อมตากัน และเรน่ามีพลังหยั่งรู้อนาคต นอกเหนือจากรูปร่างที่เปลี่ยนไป  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น