ถ้าไม่นับ IDE ในการเขียนโปรแกรม
เครื่องมือที่ช่วยให้งานง่ายขึ้น และช่วยประสานงานให้กับคนในทีมก็มีความจำเป็นเอามากๆในยุคนี้
มันหมดยุคแล้วที่จะมานั่งเขียน Monthly Report ส่ง Manager ทุกเดือน พูดคุยส่งเอกสารผ่านอีเมล์
ว่าแล้วผมจะแนะนำ Tool ที่เราได้เลือกใช้มาฝากกัน
1. Redmine-Agile plugin (Project Management) http://www.redmine.org/
ตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่เป็น Agile สามารถช่วยในการทำ Agile Process ตั้งแต่ Product Backlogs, User Story, ย่อยไปจนถึง Task สามารถ Estimate ออกมาเป็น burn down chart ได้อีกด้วย และตัว Redmine เองยังเป็น Issue Tracking ได้อีกครบสูตรจริงๆ
2. Trello (Task Management) https://trello.com/
ถ้ากล่าวถึง trello คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัดมันคือ Task Management ที่ดีและง่ายตัวหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าเราใช้ Redmine มันจะเป็นการทำงานคนเดียวต่อ 1 งาน แต่ถ้าเกิดว่าในกรณีที่มีการทำงานร่วมกันหลายคน สามารถใช้ trello เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ เช่นใส่บุคคลที่ร่วมกันทำงานนั้นๆให้เสร็จ ตัวอย่างนี้เป็นบอร์ดรวมของเราชาว Nextzy เป็นการบอกว่าใครทำอะไรกันอยู่ โดยยึดหลัก ระบบคัมบัง (Kanban System) ที่ประกอบด้วย Todo > Doing > Done แต่ของเราจะเพิ่มในส่วนของ Testing/Verifly เองเพื่อที่จะให้ Tester หรือ Product Owner ช่วยตรวจสอบว่าสิ่งที่ทำนั้นภูกต้องตาม User Story หรือไม่
3. Copy(File Sharing & Sync) http://copy.com/
ทำงานทำอยู่ได้เหมือน Dropbox เลยเพียงแต่ตัวนี้ใช้ได้ถึง 15 GB เราเลยเลือกใช้กันเป็นตัวนี้ ใช้มาเป็นปีแล้วยังไม่เต็มเลย จริงๆเราเอาไว้ส่งไฟล์กันเฉยๆในกรณีที่เป็นไฟล์ใหญ่ๆ เราจะใช้ Airdrop บน Mac กัน
4. Jenkins CI(continuous integration) https://jenkins-ci.org/
หากคุณขี้เกลียดมานั่ง build, test, deploy ตัวนี้ช่วยคุณได้ มันจะช่วยรัน Build และรัน Unit Test ให้คุณ และหากคุณต้องการให้มัน Deploy ไปที่ Node เทส ก็สามารถให้มันไปดึงจาก Git Repo ได้เลย สนับสนุนทั้ง Mobile App(Native) และ Java Web ได้ เพราะเราก็ใช้อยู่
5. BitBucket (Source Control) https://bitbucket.org/
ยุคนี้มันต้อง Git เท่านั้น Git มันมีหลายอย่างที่ SVN ทำไม่ได้ เช่น Git Sub Module, Git Flow มาใช้ BitBucket กันเถอะ เราสามารถ Push Code จากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ และทีมก็สามารถทำงานจากที่บ้านได้
6. SourceTree (Git Client) https://www.sourcetreeapp.com/
ไหนๆเราก็ใช้ BitBucket ซึ่งเป็นของ Atlassian ซึ่งทาง Atlassian ก็ได้สร้าง Git Client มาอีกตัว ที่เราเลือกเพราะว่า GUI มันสวยงามและง่ายในการทำงาน ปกติยังไม่มี Tool ตัวนี้ ได้นั่ง Git Command กันอย่างเดียว ฮ่าๆ T T
7. Slack (Modern Chat For Team) https://slack.com/
ตัวนี้เป็นพระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้ ทางเราจะพยายามใช้อีเมล์ให้น้อยที่สุดเราเลยได้ตัวนี้มา ซึ่งเราจะใช้ Slack เอาไว้แชดคุยงาน เมื่อก่อนเราคุยกันด้วย Line Group ซึ่งมันดูรกๆ พอได้ slack มาเราก็สามารถแบ่งกลุ่มกันคุยได้อย่างอิสระ และสามารถ Integrate กับ Tool อื่นๆได้อีก เช่นถ้าใครมีการเปลี่ยน Trello เราก็สามารถสั่งให้ Slack แชดบอกในกลุ่มได้ (ดังรูป)
สร้าง Bot เข้าไปเกรียนในกลุ่มได้
8. Safaribooksonline (Ebook Online) https://www.safaribooksonline.com/ (399US/ 1 Year / User)
Geek ที่ดีต้องมีของดีเอาไว้อ่านแนะนำที่นี่เพราะมีหนังสือออกใหม่มาให้อ่านตลอด แถมสามารถอ่านเท่าไรก็ได้แบบบุปเฟ่เลยทีเดียว
9. Macbook Pro Ratina 13″ CTO RAM 16GB
เนื่องจากส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบ Windows เท่าที่ควร เพราะใช้ คำสั่งๆอะไรๆก็ลำบาก จะสั่ง make อะไรก็ไม่ได้ ใช้ vi ก็ไม่ได้ Tool บางตัวก็มีเฉพาะบน Mac อีก และปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์กันมากมายเราเลยตัดสินใจซื้อ Mac เพราะ OS มันฟรี 555 และเวลาลง Stream เอาไว้เล่นเกม Ram มันชอบหมด เลยสั่ง CTO เป็น Ram 16 GB จะได้ไม่มีปัญหา Stream กระตุกอีกต่อไป อีกอย่างคือแบตมันอยู่ได้ถึง 9 ชั่วโมงเวลาไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟก็ไม่ต้องไปหาร้านที่มีปลั๊กสามาารถทำงานได้อย่างสบายๆทั้งวัน
เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับเครื่องมือที่กล่าวไป ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ การใช้เครื่องมือที่ดีก็ช่วยให้เราลดระยะเวลาในการทำงานไปได้มากเลยนะครับ
โชคดี โค๊ดไม่มีบัค คร๊าบบบบบ ปลอดภัยจากอันตรายทุกท่านครับ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น