วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สรุปหนังสือ MAXIMUM ACHEIVEMENT : Brian Tracy

Maximum Achievement
Strategies and Skills That Will Unlock Your Hidden Powers to Succeed

MAKE YOUR LIFE A MASTERPIECE
7 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ
1.Peace of mind ความสงบของใจ ถ้าเรามีความสงบในใจ อะไรก็เป็นไปได้เสมอ
2.Health and energy สุขภาพและพลังกาย ถึงจะเป็นคนที่ร่ำรวยแค่ไหน ก็ควรมีสุขภาพดีมากกว่าเงินสดอยู่ดี
3.Loving relationships :คนที่มีความสุข จะแวดล้อมด้วยความรัก ไม่ว่าจะจากครอบครัวหรือเพื่อน
4.Financial freedom เป้าหมายที่ควรจะตั้งไว้ก็คือ มีเงินให้มากพอที่จะไม่ต้องกังวลถึงมันอีก
5.Worthy goals and ideas  ตั้งเป้าหมายที่มีคุณค่า ถ้าเราไม่มีเป้าหมายอะไร ชีวิตก็แค่ขยับอยู่แต่กับที่
6.Self knowledge & awareness คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเป็นใคร แยกให้ออกว่าเราต่างจากคนอื่นยังไง
7.Personal fulfillment ทุกอย่างในชีวิตเป็นอย่างที่ต้องการหรือเปล่า เราได้กำหนดฝันด้วยตัวเองใช่ไหม

THE SEVEN LAW OF MENTAL MASTERY
ยอมรับความจริงข้อนี้ ชีวิตเป็นเรื่องยาก ก้าวผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว หยุดถึงข้อจำกัดในชีวิต ทุกฝันสามารถเป็นจริงได้
1.The law of control ถ้าเราได้ควบคุมชีวิตตัวเองเต็มที่ เราก็จะอึดอัดเพราะคนอื่นน้อยลง
2.The law of cause and effect ถ้าความคิดเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตก็จะเปลี่ยนตามแน่นอน
3.The law of belief จงคิดอย่างผู้ชนะ ถ้าเราคิดว่าเป็นคนขี้แพ้ ก็จะไม่มีวันชนะตลอดกาล
4.The law of expectation ชีวิตของเราจะเป็นยังไงขึ้นกับคำทำนายของตัวเอง
เมื่อเราคาดคิดสิ่งดีจะเกิดขึ้น มันก็จะเกิดตามนั้น
5.The law of attraction ทุกคนอยากอยู่ใกล้ ๆ คนที่เต็มไปด้วยความสุข จงเป็นคนที่น่าดึงดูด
6.The law of correspondence ถ้าภายในเรารู้สึกดี ชีวิตภายนอกเราก็จะเป็นไปตามนั้นเช่นกัน
โลกข้างนอกจะเปลี่ยนตามข้างใน
7.The law of mental equivalency ไม่ว่าตอนนี้เรากำลังคิดว่าโลกนั้นดีหรือเลวร้ายอยู่
มันก็จะเป็นไปแบบนั้น ความคิดของเราจะเป็นตัวกำหนด”ความจริง”

THE MASTER PROGRAM
ทัศนคติแบบ positive  จะเปลี่ยนทุก ๆ อย่างไปทาง positive ทัศนคติคือวิธีการมองสิ่ง ๆ นั้น
การจำกัดความตัวเอง (self concept) คือการควบคุมความเชื่อ ซึ่งไปกำหนดความคาดหวังอีกที
ลองเช็คดูว่าการจำกัดความตัวเองของเรากำลังสนับสนุนหรือถ่วงเราอยู่
และเพื่อที่จะพัฒนามันไม่สำคัญว่าตอนนี้เราจะเป็นแบบไหน
จงมองตัวเองในแบบที่เราอยากเป็นในอนาคต  ( self-ideal )
ลองนึกภาพดูว่าเราอยากจะเป็นใคร? เช็คดูว่าเรามองและรู้สึกกับตัวเองไปในทาง positive หรือเปล่า

ถ้าจะเปลี่ยนการจำกัดความตัวเองในแง่ negative จงไล่มันออกไปด้วย positive
เปลี่ยนตัวเองโดยการเปลี่ยนความคิด ปรับความคิดให้เป็น positive ติดต่อกันอย่างน้อย 21 วัน
คิดแต่สิ่งดี ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเอง มองตัวเองอย่างผู้ชนะ และแสดงในแบบนั้น
การเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นเรื่องง่ายถ้าความคิดเราเปลี่ยนไปแล้ว

THE MASTER MIND
พลังจิตของเราสามารถเปิดประตูได้ทุกบาน ถ้าพร้อมที่จะปลดล็อคพลังนั้นแล้ว
อันดับแรกต้องโฟกัสไปในสิ่งที่เราอยากจะสำเร็จ
วางความคิดลงบนเป้าหมายนั้น และคิดถึงมันทั้งวัน
อย่าปล่อยให้ความคิดลบ ๆ เข้ามาในสมอง ถ้าจุดประสงค์ชัดเจนหนทางก็จะปรากฏออกมาเอง
ความคิดสามารถบรรจุความรู้สึกได้แค่ชนิดเดียว “ไม่บวกก็ลบ”
ถ้าเราพบว่ากำลังคิดลบกับปัญหาอยู่จงหยุด แล้วไปคิดวิธีการแก้ไขปัญหาแทน
โฟกัสเฉพาะสิ่งที่เราสามารถแก้ไขได้

Dr. Coué พบว่าผู้ป่วยที่สามารถฟื้นจากอาการป่วยได้ดีกว่าผู้ป่วยคนอื่น  จากการใช้ positive thinking
เค้าท่องคาถานี้ทุกวัน “ร่างกายของชั้นมันกำลังดีขึ้น ๆ ทุกวัน ในทุก ๆ ทาง”
นอกจากนั้นหมอกับพยาบาลที่ดูแลเองก็ช่วยคอนเฟิร์มความเชื่อนั้น
ด้วยการบอกกับคนไข้ทุก ๆ วัน ว่า “คุณกำลังจะดีขึ้น ทุกๆ วัน ในทุก ๆ ทาง”
อาจจะดูไร้สาระแต่มันเวิร์ค แค่ความคิดบวกเล็กน้อยก็เพียงพอต่อการสร้างปาฎิหารย์แล้ว

THE MASTER SKILL
เศรษฐีวงการน้ำมันที่ชื่อ H.L.Hunt สามารถกลับมาเป็นร่ำรวยเป็นพันล้านจากที่เคยล้มละลายได้
เพราะ Hunt ได้ทำตามสูตรของความสำเร็จที่เรียบง่าย
อันดับแรก ตัดสินใจอย่างแน่ชัดว่าเราต้องการอะไร? คนส่วนมากไม่เคยทำแบบนั้นอันดับที่สอง
กำหนดสิ่งที่คุณจะต้องจ่ายเพื่อมัน ตอนนี้เรามีเป้าหมายหรือยัง
ถ้ายัง จงตั้งมันด้วยความเชื่อ แล้วมันจะเป็นจริง
และเพื่อบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งจงทำตาม 12 ขั้นตอนนี้
1.Develop desire
จงเช็คให้แน่ใจว่ากำลังไล่ตามสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ

2.Develop belief
พัฒนาความเชื่อว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้

3.Write it down
เขียนแผนที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้โดยละเอียด

4.List the benefits ใน furnace of achievement
เป้าหมายนั้นคือพลังงาน
จดประโยชน์ที่จะได้รับออกมา จากการบรรลุเป้าหมายนั้น

5.Analyze your starting point
วิเคราะห์ว่าเราอยู่ตรงไหน เมื่อเรารู้จุดเริ่มต้นเราจะรู้ว่าไปได้ถึงไหนแล้ว

6.Set a deadline
เป้าหมายคือความฝันที่มีกำหนดของเวลา

7.Make a list of all obstacles
ลิสต์อุปสรรคที่อาจจต้องเจอ จงเตรียมตัวให้ดี

8.Identify needed information
วินิจฉัยสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ทักษะ
ความสามารถที่ต้องพัฒนาเพื่อให้คู่ควรกับเป้าหมาย

9.List the people whose help you will need
ลิสต์รายชื่อคนที่สามารถช่วยเราได้
และตัดสินใจว่าจะตอบแทนเค้ายังไง ไม่มีใครทำโดยไม่ได้อะไรตอบแทน

10.Make a plan
คุณต้องมีพิมพ์เขียวในการสร้างบ้าน
คุณต้องมีแผนการที่จะคอยเช็คสิ่งที่จะต้องทำ
ปรับแต่งตามความสำคัญกับเวลาที่มี

11.Use visualization
นึกภาพตัวเราที่ได้สำเร็จตามเป้าหมาย จนมันฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึก

12.Never give up
อย่ายอมแพ้ อย่าหนีอุปสรรค ทุกอย่างที่มีค่าไม่ได้มาง่ายดายอยู่แล้ว

MORE MENTAL MASTERY
นำ superconscious mind มาใช้ โดยการสั่งการจิตอย่างชัดเจน
ด้วยประโยคที่เป็น positive และเด็ดเดี่ยวเช่น
“ชั้นจะลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมภายในปีนี้”
เมื่อเราพูดแบบนี้ซ้ำ ๆ จะเกิด mental switch ใน superconscious mind
จงเชื่อในพลังนี้ อย่าได้สงสัยมัน

ลองทดลองแบบนี้ครับ หลับตา..อย่าคิดอะไรทั้งนั้น
เมื่อความคิดเราเข้าสู่ความว่างเปล่า ลองสั่งตัวเองให้”อย่าคิดถึงกระต่ายสีขาว.
จะพบว่าเราทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เราพยายามจะไม่คิดถึงมัน
แต่มันก็เข้ามาในหัว ข้ออ้างที่คนส่วนมากมักใช้ก็คือชั้นไม่มีเงินมากพอ
ชั้นมันการศึกษาต่ำ ชั้นมีหนี้สินเยอะ ชั้นยังไม่พร้อมที่จะก้าวต่อไป
ความคิดลบ ๆ พวกนี้จะปกปิดพลัง superconscious mind
เราไม่สามารถใช้พลังนี้ได้จนกว่าเราจะรับผิดชอบต่อตัวเอง
ระวังอารมณ์ร้าย ๆ โกรธ หงุดหงิด กลัว ต่อต้าน รู้สึกผิด
อารมณ์เหล่านี้เป็นผู้ร้าย ถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ มันจะเอาชีวิตเราไป
จงใช้ Law of substitution เมื่ออารมณ์ลบ ๆ เหล่านี้โผล่ขึ้นมาทดแทนมันด้วย positive
“ชั้นจะรับผิดชอบสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชั้น”
อย่าปล่อยให้อารมณ์ลบ ๆ พวกนั้นฉุดเรา
เราสามารถฟื้นฟูจิตใจด้วยกำลังใจของเราการซื่อสัตย์ต่อตัวเองได้เองโดยไม่ต้องพึ่งใคร
จงยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน
จำเอาไว้ว่าถ้าเรารับผิดชอบมันเราจะควบคุมมันได้
ถึงแม้ว่าในวัยเด็กอาจเลวร้ายแต่เราจะอยู่กับมันไปตลอดหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนี้มันจะมีอะไรดีขึ้น ถึงแม้พ่อแม่จะไม่รักเราก็รักตัวเองได้อยู่ดี
ไม่ว่ายังไงก็ตาม”จงรับผิดชอบชีวิตตัวเอง”

STRESS
ความเครียดเป็นปัญหาใหญ่ มันมีสาเหตุใหญ่ ๆ จาก 7 ข้อนี้
1.Worry การกังวลเป็นปัญหาเกี่ยวกับการไม่ตัดสินใจ มันค่อยบั่นทอนสุขภาพจิตเรา
วิธีการรับมือก็คือ
1.เขียนสิ่งที่เรากังวล
2.คิดถึงสิ่งแย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้
3.ยอมรับมันถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ
4.Minimax หาวิธีที่จะทำให้สิ่งที่แย่ที่สุดเบาบางลง

2.Meaning หาจุดประสงค์ที่แท้จริง ความหมายของสิ่งที่เราทำอยู่
3.Incomplete action การผัดวันประกันพรุ่ง ทำให้เราหงุดหงิดกระวนกระวาย จงจบสิ่งที่เราเริ่มไว้
4.Fear of failure เรามักกลัวความล้มเหลวมาจากอดีตที่ผ่านมา เมื่อเกิดความกลัวขึ้น
จงพูดกับตัวเองว่า ชั้นทำได้ แล้วเผชิญหน้ากับมัน
5.Rejection เราไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครในการก้าวต่อไปข้างหน้า
คำปฎิเสธก็แค่คำปฎิเสธ
6.Denial เราต้องยอมรับว่าความจริงบางทีก็ไม่ได้น่าพอใจนัก แต่มันก็ต้องเกิดอยู่ดี
7.Anger ในบรรดาอารมณ์ทางลบ โกรธนั้นรุนแรงที่สุด ควบคุมความโกรธ
โดยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่โกรธ จงตั้งความสงบในจิตใจเป็นเป้าหมายสำคัญ

HUMAN RELATIONSHIPS
ความฉลาดทางสังคม คือความสามารถในการอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้คนอื่นรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเค้าเอง
ใส่ใจคนอื่น ชื่นชม เห็นด้วยกับเค้า ยิ้มให้ กตัญญู เป็นผู้ฟังที่ดี
ตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อผู้อื่น สิ่งที่สำคัญที่สุด จงแสดงความรักต่อคนรอบตัวเสมอ

TAKE AWAYS
-ถึงแม้ชีวิตจะเป็นเรื่องยาก แต่บ่นไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ยอมรับและก้าวต่อไป
-กฎสำคัญข้อแรกคือ ทั้งสุขภาพกายและจิต ควบคุมชีวิตเรา
-เราเป็นผู้สั่งการโชคชะตา ชีวิตจะดีหรือร้ายก็ขึ้นกับว่า “เราสร้างมันมายังไง?”
-กำแพงที่กีดขวางเรา สร้างขึ้นจากข้างในไม่ใช่ภายนอก
-การจำกัดความตัวเอง กำหนดว่าเราเป็นใครและสิ่งที่เราจะพิชิตได้
-พลังจิตของเรามีไม่จำกัด เลือกใช้มันเฉพาะในเรื่องที่ต้องการ
-จงเลือกที่จะ positive ทดแทน negative
-คุณไม่สามารถพิชิตเป้าใดๆ ถ้าเราไม่ได้ตั้งมันตั้งแต่แรก
-เป็นคนที่น่าเข้าหา ด้วยการคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ

#injextion time
#ทำไมไม่บอกกู … หมอกิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น