โพสต์เมื่อ : 30 เมษายน 2558 เวลา 13:40:11
รีโนเวทตึกแถวเก่า ให้กลายเป็นบ้านสวย ๆ แบบฮิปสเตอร์ ชนิดที่เห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วต้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว งานนี้ ! ตึกแถวเก่า ๆ ยิ่งอายุมากเท่าไร ความเก่าและทรุดโทรมก็มีมากขึ้นไปตามกาลเวลา แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจับมาแปลงโฉมใหม่ให้คืนชีพกลับมาดูดีได้อีกครั้ง ก็คงต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงินกันหน่อย วันนี้เราจึงมีตัวอย่างการรีโนเวทตึกแถวแบบที่เห็นแล้วต้องอึ้ง !! จาก คุณ asahi dry สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากให้ได้ชมกัน เรียกว่าเปลี่ยนจากตึกแถวโทรม ๆ ที่เจ้าของเรียกว่า "หน้าปลวก" ให้กลายเป็นบ้าน Hipster ที่สวยหรูและดูดีสุด ๆ ไปเลยทีเดียว
ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster !! โดย คุณ asahi dry
ต้องออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็นรีวิวแรกครับเกี่ยวกับการรีโนเวทตึกแถว ซึ่งก็คือบ้านหรือเรือนหอของผมและภรรยานั่นเอง ที่จริงอยากทำนานแล้วแต่เพิ่งมีเวลามานั่งถ่ายรูปจัดบ้านใหม่ให้สวยงามเพราะทำบ้านเสร็จมา 2 ปีแล้ว แต่ช่วงนี้ออกจากงานประจำแล้วรับฟรีแลนซ์เลยมีเวลามากขึ้นเพราะงานน้อยลง 555 ตัวผมเองมีอาชีพเป็นมัณฑนากรอยู่แล้ว หรือ Interior designer นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องออกแบบตกแต่งภายในนั้นเป็นงานถนัดอยู่แล้วเพราะทำอยู่ทุกวัน
ตัวอาคารเดิมค่อนข้างเก่าน่าจะ 30-40 ปีมาแล้ว เป็นรูปที่ถ่ายในซอยเนื่องจากหารูปก่อนรีโนเวทไม่เจอแต่ตึกแถวในซอยก็หน้าตาเหมือน ๆ กันหมด
เนื่องจากตึกเก่ามาก หน้าบ้านกว้างแค่ 3.4 เมตร (ซึ่งปกติเดี๋ยวนี้ตึกแถวหน้ากว้าง 4 เมตรขึ้นไป) สูง 4 ชั้น รวมชั้นลอยจะเป็น 5 ชั้น และระบบน้ำ ไฟฟ้า เก่ามากจึงต้องการรื้อใหม่ทั้งหมด ส่วนคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่อยากได้ก็คือแบบ Contemporary ดูอบอุ่น ๆ แบบห้องรก ๆ ก็ยังสวยได้ ไม่เอาแบบโมเดิร์นเรียบจ๋อง อารมณ์บ้านยุโรปนิด ๆ ส่วนภายนอกก็อยากให้มีระแนงมาปิดด้านนอกเพื่อบังสายตาจากตึกฝั่งตรงข้าม และลดความร้อนจากแสงแดดในตัว
จึงเริ่มต้นออกแบบภายนอกใหม่ให้มีระแนงครอบ และกันสาดที่ดูโมเดิร์น ประตูหน้าบ้านออกแบบให้เป็นประตูไม้เพราะไม่ต้องจอดรถในบ้าน
หน้าต่างเดิมก็เจาะช่องใหม่ให้ลงถึงพื้น เพื่อให้ดูโปร่งขึ้น
ของใหม่ขยายเต็มช่อง
ทำกันสาดใหม่ด้วยโครงเหล็กดีไซน์เรียบกรุ แผ่นโพลีสีเทาดำ
หน้าบ้านเดิมที่เป็นประตูเหล็กแบบตึกแถวทั่วไป
ก็เปลี่ยนเป็นประตูไม้บานคู่ มีซุ้มปูนและไฟสไตล์ยุโรปแบบนี้ ตามที่ออกแบบไว้
โดยรวมออกมาเป็นแบบนี้ครับ
แตกต่างจากบ้านข้าง ๆ อย่างสิ้นเชิง
ถ่ายจากดาดฟ้าตึกตรงข้าม
ระหว่างทำแบบด้านนอกก็มีการเปลี่ยนแบบไปเรื่อย ๆ สุดท้ายจึงมีกระจกมาแทรกระแนงอะลูมิเนียมบางส่วน ให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น ค่าระแนงอะลูมิเนียมชุดนี้ไม่รวมกันสาดประมาณ 50,000 บาท เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้คงเกือบแสนละมั้ง ตอนกลางคืนเปิดไฟบ้าง
ภายนอกก็มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวมาดูในบ้านกันบ้างว่าจะเปลี่ยนไปได้ขนาดไหนกัน
มาดูภายในกันบ้าง ชั้น 1 โถงทางเข้า, ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ คือ เปลี่ยนประตูทางเข้า
กั้นห้องติดแอร์ เนื่องจากเข้ามาจะเป็นโถงสูง 2 ชั้น
ขยายห้องน้ำด้านหลังบ้าน
กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซั่ม เพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์
โถงทางเข้าชั้น 1 เดิมตึกนี้ถูกใช้เป็นโกดังมาก่อน
หลังรีโนเวท ผ่างงงงงงง !!
พื้นทั้งหมดปูกระเบื้องใหม่ ฝ้าบางส่วนก็กรุยิปซัมทำฝ้าเรียบ กั้นห้องเพื่อติดแอร์ เข้ามาในบ้านซ้ายมือก็เป็นผนังตกแต่ง มีเตาผิงปลอมที่ออกแบบให้เป็นตู้เก็บพวกถุงเท้า
และบรรดาของตกแต่งที่ผมชอบเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่าง ๆ **ดอกไม้แห้งพวกยิปซี ยิปโซ เป็นเคล็ดลับที่ทำให้บ้านดูดีขึ้นได้ในราคาไม่แพง และอยู่ได้นาน
มุมจากชั้นลอยมองลงไปโถงทางเข้าเดิม
ผนังที่กรุเพิ่มเพื่อซ่อนสายไฟต่าง ๆ และตกแต่งด้วยกรอบรูปแบบวินเทจ และหัวกวางที่อุตส่าห์ไปหิ้วมาจากจีน
หัวกวางเป็นไอเทมที่ผมมีความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อิอิ
การให้แสงสว่างไม่ต้องมาจากดาวน์ไลท์เสมอไป Chandelier และไฟติดผนัง เป็นตัวช่วยให้บรรยากาศบ้านดีขึ้น
ฝั่งขวามือจากทางเข้าก็เป็นตู้รองเท้า และที่แขวนกุญแจ
ประตูหน้าบ้านและเหล็กดัด สั่งทำตามแบบให้ดูเข้ากับส่วนอื่น ๆ ของบ้าน การเลือกมือจับก็เป็นสิ่งสำคัญ
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูเหล็กเดิม
หลังรีโนเวทกลายเป็นห้องนั่งเล่นและรับแขก มีการเสริมพื้นชั้นลอยให้ยื่นออกมาเยอะขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทานอาหาร
ฝ้าห้องนี้จะเตี้ยเป็นพิเศษ เนื่องจากโครงสร้างเดิมตึกเก่า ๆ จะเตี้ยและแคบมาก
ตกแต่งด้วยการแขวนกระจกเงาให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกนิดหนึ่ง และเพิ่มหมอนบนโซฟาให้ดูน่านั่ง ๆ นอน ๆ มากขึ้น แต่ต้องเลือกสีให้เข้ากันนะ
ของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จะเป็นตัวช่วยให้ห้องน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ใช้แสงจากโคมไฟหลาย ๆ จุดเป็นตัวเสริมบรรยากาศห้อง บางครั้งแทบจะไม่ต้องติดดาวน์ไลท์เลย
หมอนบางใบก็เลือกให้มี Texture บ้าง แต่คุมโทนสีให้เข้ากัน
ชั้น Built-in เพื่อให้ลงล็อกกับ space พอดี ถ้ากลัวจะรกให้หากล่องมาใส่ของเอา
โคมไฟหน้าตาเก๋ ๆ อีกจุด
โคมไฟหน้าตาเก๋ กรอบรูปหลาย ๆ ขนาด เอามาวางพิงกำแพงไว้ก็ได้ไม่ต้องแขวนเสมอไป **เคล็ดลับ รูปสวย ๆ ที่จะใส่กรอบ บางทีรูปอาจจะเป็นแค่ตัวหนังสือนิ่ง ๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปวิวมาใส่กรอบเสมอไปเพราะทำให้เชยได้
ชั้นลอย ห้องทานอาหาร, Pantry, ครัว
ขยายพื้นชั้นลอยให้กว้างขึ้น
ทุบผนังกั้นห้อง ด้านหลังทำสเต็ปขึ้น เนื่องจากความสูงต่างกัน 37 เซนติเมตร
เจาะช่องหน้าต่างด้านหลัง
ชั้นลอยเดิมที่กั้นห้องส่วนที่ต่อเติมเอาไว้ ซึ่งความสูงของพื้นต่างกันถึง 37 เซนติเมตร
หลังรีโนเวท ทลายผนังออกและเปลี่ยนเป็นครัวที่รับแสงยามเช้า
ด้านหลังโต๊ะกินข้าวมีตู้ไว้เก็บของต่าง ๆ ที่รก ๆ ได้ มีอะไรยัดใส่ตู้ไว้ก่อน
ตู้จีนดู Antique ซึ่งตั้งอยู่ตรงผนังที่เน้นให้สีเข้มกว่าตู้ ทำให้ตู้ดูเด่นมากขึ้น
นั่งกินข้าวก็มองลงไปที่โถงทางเข้าชั้น 1 ได้
มุมแพนทรีจัดของให้เป็นระเบียบ ของที่ไม่ค่อยสวยก็จับใส่ตู้หรือโหลให้เรียบร้อย
ตู้ไม้ข้างไมโครเวฟนั่นก็ถูกดัดแปลงเป็นตู้ยาสามัญ
ที่เก็บขนมปังก็ถูกดัดแปลงเป็นที่เก็บช้อน-ส้อมให้เรียบร้อย **ของกระจุกกระจิกพวกนี้ ผมค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ซื้อมาในทีเดียวกัน บางชิ้นก็ไปเจอที่ร้านขายของแต่งบ้านที่ญี่ปุ่นก็อุตส่าห์ไปหิ้วมาเพราะราคาไม่แพง เห็นแล้วบางทีอยากจะยกมาทั้งร้าน อย่างตู้เก็บขนมปังนี่ราคาไม่น่าเกิน 700 บาท ถ้าจำไม่ผิดครับ
ส่วนครัวก็เก็บของใส่ตู้เป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อย **เคล็ดลับถ้าทำบ้านใหม่ควรเลือกชุดจานชามให้เป็นแบบเดียวกันให้หมดเพื่อความสวยงาม ถ้ากลัวเลือกไม่ถูกก็เอาขาวล้วนหรือดำล้วนไว้ก่อนเพราะอยู่ได้กับทุกสี ดีกว่าไปเลือกลายมิกกี้เม้าส์ไม่เข้ากับอะไรเลยนะครับ
ก่อนจะมาเป็นครัวแบบนี้
ส่วนเตาแก๊สและเตาอบเล็ก ๆ ใต้เตาแก๊สใช้เป็นผ้ารูดเพื่อซ่อนถังแก๊สแต่ต้องเลือกผ้าที่ลายเข้ากันกับห้อง รวมถึงผ้าเช็ดมือด้วย ในเคสนี้คือเลือกสีเขียวเข้ากับสีกระเบื้อง
อุปกรณ์ครัวก็ควรเลือกให้เข้าชุดกันทั้งหมด
ครัวเป็นครัวที่ทำจากปูน ตามสไตล์ครัวไทยที่ต้องการความแข็งแรง แล้วกรุด้วยกระเบื้อง ส่วนหน้าบานแบบนี้เลือกซื้อสำเร็จได้ตามโฮมโปรราคาไม่แพงครับ
ชั้น 2 ห้องนอน, ห้องแต่งตัว, ห้องน้ำ
ขยายห้องน้ำ ย้ายตำแหน่งสุขภัณฑ์ แบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง
ปรับทิศทางบันไดเนื่องจากการขยายห้องน้ำทำให้ทางเดินแคบลง
กั้นห้องนอนและห้องแต่งตัว
ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน
กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซัมเพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์
ห้องน้ำรูหนู และบันไดเดิม ๆ แบบตึกแถวสแตนดาร์ด
พอขยายห้องน้ำจึงต้องปรับทิศทางบันไดใหม่แบบนี้
ราวกันตกก็เปลี่ยนใหม่หมดเป็นราวเหล็กนิ่ง ๆ เรียบ ๆ ทาสีดำ และเจาะช่องหน้าต่างใหม่เป็นทรงยาว ๆ แสงเข้าตอนเช้า ๆ สวยงาม
เปิดประตูเข้าห้องนอน ใช้ประตูไม้กรุกระจกฝ้า พื้นในส่วนนอนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้จริง เพื่อให้ได้สัมผัสที่สบายเท้า
ส่วนแต่งตัวเน้นลิ้นชักเพื่อเก็บของเยอะ ๆ และหน้าบานตู้เสื้อผ้ากรุด้วยกระจกเงาเพื่อใช้ส่องไปในตัว เนื่องจากที่แคบมาก
ชุดหน้าต่างเดิมในห้องนอน
ขยายหน้าต่างให้เต็มที่เพื่อความโปร่งโล่งสบาย
การเลือกผ้าปูสำคัญมาก ควรเป็นโทนสีที่เข้ากันแต่มีโทนเข้มอ่อนต่างกัน ตกแต่งหัวเตียงด้วยกระจกเงา หรือจะเป็นกรอบรูปก็ได้ และเน้นผนังด้วยสีเข้ม
ข้างเตียงเสริมผนังเพิ่มขึ้นมาด้วยยิปซัมบอร์ด เพื่อซ่อนสายไฟและติดโคมไฟหัวเตียง การที่ไม่เห็นสายไฟเดินยั้วะเยี้ยตามผนังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านสไตล์นี้ดูสวยขึ้น ม่านห้องนอนควรมีม่านโปร่งและม่านทึบ
เตียง โต๊ะหัวเตียง ตู้วางทีวี เข้าเซตกันทั้งหมดและราคาไม่แพง จาก IKEA อยู่ที่การจัดการกับสิ่งรอบข้างให้เข้ากันทั้งหมด ก็ทำให้ห้องดูดีได้ด้วยของที่ราคาไม่แพง
ห้องน้ำเน้นเรียบ ๆ แบ่งส่วนแห้ง-เปียกชัดเจน กระจกเงาเป็นตู้เก็บของต่าง ๆ ได้และมีชั้นวางหนังสือ ผมชอบอ่านการ์ตูนตอนนั่งส้วม 55
ชั้น 3 ห้องทำงาน, ห้องน้ำ
กั้นห้องใหม่ด้วยชุดอะลูมิเนียมสีดำ และประตูกระจกใส ให้ดูโปร่งสบาย
ขยายห้องน้ำ และเปลี่ยนทิศทางบันได
ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน
เปิดประตูเข้าห้องทำงานก็จะเจอส่วนนั่งเล่นก่อน
ห้องทำงานตั้งใจจะประหยัดงบ จึงเปลี่ยนแนวออกแบบให้ดูโมเดิร์นเรียบ ๆ มากกว่า และดูดิบ ๆ อย่างสายไฟก็เดินในท่อโชว์ให้เห็นไปเลย ฝ้าเพดานก็เปิดหมดเห็นท้องพื้นชั้นบน เพื่อเพิ่มความสูงของห้อง
หน้าต่างใหม่เต็มบานทำให้ห้องดูโปร่งน่านั่งทำงานมากขึ้น เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในห้องใช้ของ IKEA รุ่นที่ราคาไม่แพงทั้งสิ้น เช่น โซฟา 2,900 บาท แถมกางออกเป็นเตียงได้ ตู้ไม้ 1 พันกว่าบาทถ้าจำไม่ผิด ขาโต๊ะ 800 บาทสองขา Top โต๊ะสั่งทำพิเศษไซส์ใหญ่ 3,000 บาท โต๊ะกลางตรงโซฟา 300 บาท ชั้นสังกะสีวางอุปกรณ์โมเดล 700 บาท สรุปราคาเฟอร์นิเจอร์ทั้งห้องถูกกว่ากีตาร์ 1 ตัวอีกครับ 555
ห้องนี้ไม่ได้ติดดาวน์ไลท์เลยครับ ใช้ไฟจากโคมห้อยเพดาน 2 ดวงเท่านั้น ถ้าเป็นโต๊ะทำงานและมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือก็จะมีโคมไฟตามจุดที่จะต้องใช้งาน
ชั้นวางของก็หากล่องหรือลิ้นชักเสริมมาจัดเก็บของให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อทำให้ห้องไม่รก
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ติดบันได ก็อยากเปลี่ยนแนวให้เป็นสไตล์ Toscana ที่ดูอิฐ ๆ หยาบ ๆ หน่อย เลยออกมาเป็นแบบนี้ ผนังปูนนี่ช่างฉาบไว้ไม่ดีอยู่แล้ว เลยเข้ากับแนวซะงั้นต้องดูหยาบ ๆ หน่อย 555
ส่วนชั้น 4 นั้นใช้เป็นห้องเก็บของ จึงไม่ได้ตกแต่งอะไร แค่กั้นห้องใหม่และทาสีเท่านั้น
รวม ๆ แล้วงบประมาณทั้งหมดน่าจะประมาณ 1.5 ล้านบาท ถ้าจำไม่ผิด คร่าว ๆ คือ
ค่าเดินระบบน้ำและไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด
ทาสีทั้งภายในภายนอก
ทุบรื้อและก่อผนังใหม่+ผนังเบายิปซัมบอร์ด
ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม+ชุดเหล็กดัดมุ้งลวดใหม่
ระแนงหน้าบ้าน+กันสาด
ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
ปูกระเบื้องทั้งหลัง พื้น+ผนัง
เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั้งหมด
สุขภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด
ซึ่ง 1.5 ล้านบาทนั้น เป็นการจ้างช่างแต่ละส่วนแยก ๆ มา ไม่ได้จ้างเป็นผู้รับเหมา เราจึงต้องเป็นคนคุมงานเองและคอยซื้อของเองซึ่งจะเหนื่อยมาก และที่สำคัญไม่เสียค่าออกแบบเนื่องจากออกแบบเองทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นกรณีคนปกติที่ต้องจ้างผู้รับเหมาและคนออกแบบก็ตีไปว่าน่าจะอยู่ที่ 2 ล้านกว่าบาทซึ่งเป็นราคาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วครับ สุดท้ายบ้านจะน่าอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับบ้านที่ตัวเองอยู่นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น