140,570 ครั้ง
สมาชิกเฟซบุ๊ก Taksid Charasseangpaisarn ของทันตแพทย์รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับแม่ค้าร้านจัดฟันเถื่อน ระบุว่า วันนี้ (24 พ.ย.) ได้รักษาคนไข้ที่ผ่านการจัดฟันแฟชั่นมาก่อน และพบว่าคนไข้รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งภายนอกดูเหมือนคนปกติทั่วไป เนื่องจากได้รับประทานยาต้านไวรัส และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เลยตั้งข้อสงสัยว่า คลินิกหรือแม่ค้าจัดฟันเถื่อนทราบหรือไม่ว่า คนไข้รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อ หากแม่ค้าไม่ทราบ แล้วคนไข้มีเลือดออกจากบาดแผลในช่องปาก เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้จัดฟันนั้นนำไปไว้ที่ไหน มีการใช้ต่อหรือไม่ รวมทั้งขยะปนเปื้อนต่างๆ เก็บทิ้งไว้ที่ใด เพราะทั้งแม่ค้า ลูกค้าคนอื่นๆ และคนเก็บขยะ ล้วนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนั้น
ข้อความส่วนหนึ่งของทันตแพทย์รายนี้ เขียนไว้ว่า "วันนี้ครับ เจอคนไข้จัดฟันแฟชั่นมาถอดเครื่องมือออก จริงๆ แล้วก็คงจะไม่มีอะไร มารื้อเครื่องมือแฟชั่นออก ขูดหินปูนให้ อุดฟันที่ผุให้ตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ คนไข้เป็นคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV ทานยาต้านไวรัส พบแพทย์สม่ำเสมอ ดูแล้วก็เหมือนคนปกตินี่แหละ ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้
คำถามที่ถามคนไข้ก็คือ คนไข้ไปทำที่ไหนมา แน่นอนว่าไม่ใช่คลินิกทำฟัน ที่มีระบบการฆ่าเชื้อตามหลัก แต่เป็นห้องพักคอนโดของแม่ค้า สิ่งที่น่ากังวลคือ แม่ค้าจัดฟันเถื่อนรู้หรือเปล่าว่า ในเลือดน้องมีเชื้ออยู่? ถ้าเกิดมีแผลเลือดออกในปาก เชื้อก็ออกมา (คิดว่าคงไม่รู้ ถ้ารู้คงไม่ทำให้) เครื่องมือที่เอามาทำเสร็จแล้วไปไหน? คนที่มาทำต่อเป็นใคร? ขยะปนเปื้อนที่เอาไปทิ้งหายไปไหน?
สิ่งที่หมอกับสื่อต่างๆ พร่ำบอกสม่ำเสมอว่า การทำปลอดเชื้อเป็นเรื่องสำคัญ ร้านพวกนี้ส่วนมากไม่มีระบบการฆ่าเชื้อ ของที่ใช้ก็วนล้าง อย่างมากก็ต้ม แค่นั้นเชื้อพวกนี้ไม่ตายแน่นอน ทั้งแม่ค้า ลูกค้า (รายต่อไป) คนเก็บขยะ ล้วนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนั้น แล้วมีใครติดเชื้อไปจากเคสนี้หรือเปล่า (หวังว่าคงไม่มี)
เชื่อเถอะคนที่ไปทำ เราไม่รู้หรอกว่าใครมีเชื้ออะไรในตัวหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ HIV ที่น่ากังวล (คนเป็นส่วนมากมีความรู้และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น) แต่เชื้อที่น่ากังวลและติดได้ง่ายกว่า คงจะเป็น Hepatits หรือโรคตับอักเสบ ถ้าติดแล้วอนาคตมีโอกาสเป็นมะเร็งตับ แม่ค้ารู้หรือเปล่า ลูกค้าที่ไปทำรู้หรือเปล่า ว่าเชื้อพวกนี้มันส่งต่อได้"
"สุดท้ายตอนนี้ก็คงจะกรรมใครกรรมมัน ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ความรู้ตามโอกาส” ทันตแพทย์โพสต์ทิ้งท้าย
สำหรับอันตรายที่จะได้รับจากการจัดฟันเถื่อนนั้น ทันตแพทย์หญิงนฤมล ทวีเศรษฐ์ ที่ปรึกษาสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยกับ สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ก่อนหน้านี้ ระบุว่า การจัดฟัน พิมพ์ปาก ใส่รีเทนเนอร์เถื่อน ฯลฯ โดยไม่ได้ใช้เครื่องมือที่สะอาดผ่านการฆ่าเชื้อโรค เครื่องมือที่ไม่สะอาดอาจนำเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย หรือนำเชื้อโรคจากคนๆ หนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ เช่นโรคตับอักเสบ เมื่อใดที่ทันตแพทย์จะทำฟัน จึงต้องอบฆ่าเชื้อโรคที่เครื่องมืออย่างดี เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ทั้งวัณโรค เอดส์ หรือไวรัสตับอักเสบ เพื่อไม่ให้ติดต่อไปสู่ผู้ป่วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Taksid Charasseangpaisarn
ข้อความส่วนหนึ่งของทันตแพทย์รายนี้ เขียนไว้ว่า "วันนี้ครับ เจอคนไข้จัดฟันแฟชั่นมาถอดเครื่องมือออก จริงๆ แล้วก็คงจะไม่มีอะไร มารื้อเครื่องมือแฟชั่นออก ขูดหินปูนให้ อุดฟันที่ผุให้ตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ คนไข้เป็นคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV ทานยาต้านไวรัส พบแพทย์สม่ำเสมอ ดูแล้วก็เหมือนคนปกตินี่แหละ ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้
คำถามที่ถามคนไข้ก็คือ คนไข้ไปทำที่ไหนมา แน่นอนว่าไม่ใช่คลินิกทำฟัน ที่มีระบบการฆ่าเชื้อตามหลัก แต่เป็นห้องพักคอนโดของแม่ค้า สิ่งที่น่ากังวลคือ แม่ค้าจัดฟันเถื่อนรู้หรือเปล่าว่า ในเลือดน้องมีเชื้ออยู่? ถ้าเกิดมีแผลเลือดออกในปาก เชื้อก็ออกมา (คิดว่าคงไม่รู้ ถ้ารู้คงไม่ทำให้) เครื่องมือที่เอามาทำเสร็จแล้วไปไหน? คนที่มาทำต่อเป็นใคร? ขยะปนเปื้อนที่เอาไปทิ้งหายไปไหน?
สิ่งที่หมอกับสื่อต่างๆ พร่ำบอกสม่ำเสมอว่า การทำปลอดเชื้อเป็นเรื่องสำคัญ ร้านพวกนี้ส่วนมากไม่มีระบบการฆ่าเชื้อ ของที่ใช้ก็วนล้าง อย่างมากก็ต้ม แค่นั้นเชื้อพวกนี้ไม่ตายแน่นอน ทั้งแม่ค้า ลูกค้า (รายต่อไป) คนเก็บขยะ ล้วนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนั้น แล้วมีใครติดเชื้อไปจากเคสนี้หรือเปล่า (หวังว่าคงไม่มี)
เชื่อเถอะคนที่ไปทำ เราไม่รู้หรอกว่าใครมีเชื้ออะไรในตัวหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ HIV ที่น่ากังวล (คนเป็นส่วนมากมีความรู้และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น) แต่เชื้อที่น่ากังวลและติดได้ง่ายกว่า คงจะเป็น Hepatits หรือโรคตับอักเสบ ถ้าติดแล้วอนาคตมีโอกาสเป็นมะเร็งตับ แม่ค้ารู้หรือเปล่า ลูกค้าที่ไปทำรู้หรือเปล่า ว่าเชื้อพวกนี้มันส่งต่อได้"
"สุดท้ายตอนนี้ก็คงจะกรรมใครกรรมมัน ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ความรู้ตามโอกาส” ทันตแพทย์โพสต์ทิ้งท้าย
สำหรับอันตรายที่จะได้รับจากการจัดฟันเถื่อนนั้น ทันตแพทย์หญิงนฤมล ทวีเศรษฐ์ ที่ปรึกษาสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยกับ สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ก่อนหน้านี้ ระบุว่า การจัดฟัน พิมพ์ปาก ใส่รีเทนเนอร์เถื่อน ฯลฯ โดยไม่ได้ใช้เครื่องมือที่สะอาดผ่านการฆ่าเชื้อโรค เครื่องมือที่ไม่สะอาดอาจนำเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย หรือนำเชื้อโรคจากคนๆ หนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ เช่นโรคตับอักเสบ เมื่อใดที่ทันตแพทย์จะทำฟัน จึงต้องอบฆ่าเชื้อโรคที่เครื่องมืออย่างดี เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ทั้งวัณโรค เอดส์ หรือไวรัสตับอักเสบ เพื่อไม่ให้ติดต่อไปสู่ผู้ป่วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น