วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

ภูธรภาค 5 ทลาย รง.ชำแหละรถ ของนักแข่งรถดัง พบของกลางมูลค่านับ 100 ล้าน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 พ.ย. 2558 16:15
149,870 ครั้ง


ตร.ทีมสืบสวนภาค 5 บุกทลายโรงงานชำแหละรถยนต์หนีไฟแนนซ์ หลุดจำนำ และโจรกรรมมา ที่มีเสี่ยนักแข่งรถ 'ไก่ ทีเคแอลเรซซิ่ง' เป็นเจ้าของ ที่กลาง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบชิ้นส่วนรถ และรถหรูจำนวนมาก คาดว่ามูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท...
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2558 นี้ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธุ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ที่ส่งอะไหล่ที่ถูกชำแหละขายทั่วประเทศ มีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน มี นายอนุสรณ์ หรือไก่ แซ่หลิว อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าแก๊งและเจ้าของโรงงานชำแหละรถ นายนันทกร ปัญญา อายุ 20 ปี ชาวบ้าน ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก นายณัฐดนัย วรรณยศ อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายแซ่เต๋อ แซ่ห่ม อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนายวีระพล แซ่ปี อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว

สถานที่เป็นโกดังเปิดเป็นอู่ซ่อมรถและจำหน่ายอะไหล่ ชื่อพีเอสเคอะไหล่ยนต์ ในบริเวณบ้านเลขที่ 23/1 ต.หนองหาร อ.สันทราย ภายในบริเวณบ้านเนื้อที่ 5 ไร่เศษ พบของกลางเป็นเครื่องยนต์รถยนต์ ที่ถูกชำแหละออก 15 เครื่อง โครงรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 51 โครง แชสซีรถยนต์กระบะจำนวน 124 ชิ้น รถยนต์ที่รอการชำแหละ จำนวน 26 คัน เป็นรถยนต์หรูและมีรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ณ 9266 กรุงเทพฯ มูลค่า 4 ล้านบาท ถูกรอการชำแหละอยู่ นอกจากนี้ยังพบของกลางจำนวนมากถูกนำมาซ่อนในหนองน้ำบริเวณบ้านอีก และยังพบอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 2 กระบอกของนายอนุสรณ์ โดยอ้างว่าเป็นอาวุธปืนที่มีผู้นำมาจำนำไว้
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวถึงผลการจับกุมแก๊งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ในครั้งนี้ว่า ทางชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธุ์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 ได้ทำการสืบทราบว่าที่โกดังแห่งนี้ที่ด้านหน้าเปิดเป็นอู่ซ่อมรถพรางตา ซึ่งเป็นแหล่งชำแหละรถยนต์ที่หนีไฟแนนซ์มา รวมทั้งรถที่มาจากการโจรกรรม รถที่นำมาจำนำแล้วขาดจำนำ และเป็นรถทุกประเภทที่เกิดจากการกระทำความผิดต่างๆ นานา นำรถมาจำหน่ายที่แห่งนี้เพื่อให้ขบวนการนี้ทำการชำแหละ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีขนาด 5 ไร่เศษ มีผู้ดำเนินกิจการก็คือ นายอนุสรณ์ แซ่หลิว อายุ 27 ปี เป็นชาวจีนฮ่อ หมู่บ้านอรุโณทัย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว เป็นเจ้าของพื้นที่นี้ด้วย โดยเปิดบริการจำหน่ายอะไหล่ด้วย ใช้ชื่อว่า พีเอสเค อะไหล่ยนต์
ชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องยนต์ ที่ถูกชำแหละมากองรวมกันในโรงงาน

ผู้ต้องหาได้นำรถยนต์ที่ได้มาจากการกระทำผิดในฐานความผิดต่างๆ นำมาชำแหละและส่งขายไปยังที่เซียงกงพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงกรุงเทพมหานครทุกแห่ง โดยพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน มีหัวหน้าแก๊งก็คือ นายอนุสรณ์ หรือ ไก่ อดีตเรียนมาทางช่างยนต์ เป็นเจ้าของกิจการอู่นี้ทั้งหมด ได้ดำเนินการเปิดอู่และโรงชำแหละรถมานาน 1 ปี 2 เดือน มีการรับจำนำและชำแหละรถไปแล้วประมาณร่วม 200 คัน รวมทั้งรถยนต์หรูบีเอ็มดับบลิว ที่อ้างว่ามีผู้นำมาจำนำไว้ และหากขาดส่งก็จะชำแหละขายอีก โดยชิ้นส่วนทุกชิ้นที่ชำแหละออก 2 วัน ต่อ 3 คัน โดยมีทีมงานที่เก่งในด้านชำแหละรถ ที่มีความรู้ความสามารถ โดยของกลางที่พบนี้มีจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท จึงจะต้องมีการสืบสวนขยายผลไปถึงกลุ่มต่างๆ ที่ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ สำหรับนายอนุสรณ์กับพวก ทางตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรไว้ก่อน



สำหรับนายอนุสรณ์ หรือ ไก่ แซ่หลิว ชาวจีนฮ่อ เป็นนักแข่งรถยนต์ระดับแชมป์ภูมิภาค ใช้ชื่อ "ไก่ ทีเคแอลเรซซิ่ง" เป็นนักแข่งรถฝีมือดี ชอบใช้ชีวิตระดับเสี่ยหนุ่ม เพราะฐานะร่ำรวยมีบ้านหลังใหญ่ และยังสร้างตึกแถวขายอีก โดยทางตำรวจจะขยายผลถึงเส้นทางการเงินที่ได้มา ก่อนที่จะมีการลงทุนสร้างเป็นโรงงานชำแหละรถขนาดใหญ่
ส่วนการเข้าจับกุมครั้งนี้ ทางชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 รับแจ้งจากนายธนวัฒน์ กิตติสถากุล อายุ 52 ปี เจ้าของกิจการ หจก.พลอยการพิมพ์ และ บริษัทรถเช่าเชียงใหม่ว่า รถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส ได้ถูกโจรกรรมไปและได้ติดตามหาตามที่ต่างๆ จนเข้ามาดูอะไหล่ที่ชำแหละในโรง ชำแหละรถแห่งนี้ ตนพบเครื่องยนต์โตโยต้าที่ถูกชำแหละ มีหมายเลขเครื่องยนต์ตรงกับรถที่แจ้งหายไว้เพียง 1 วัน ก็ถูกชำแหละจนหมดแล้ว จึงได้เข้าแจ้งตำรวจ จึงมีการบุกเข้าทลายในครั้งนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น