วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

17 ประโยคที่ผู้นำที่ดีเขาพูดกันทุกวันในที่ทำงาน

15
เหล่าผู้นำในแต่ละวงการที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามีทัศนคติที่ดี อีกทั้งยังสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกน้องในที่ทำงาน แทนที่จะเป็นคนสั่งการอย่างเดียว โดยทำตัวให้เหมือนเพื่อนร่วมงานระดับเดียวกัน เพื่อสร้างความนับถือ ความเชื่อใจ และความจงรักภักดีต่อนายจ้างมากขึ้น
1. What do you think? ถามหาความคิดเห็น
เจ้านายที่ดีจะรู้ว่า ลูกน้องของคุณเป็นแหล่งไอเดียใหม่ๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ซ้ำกัน เพราะแต่ละคนมีความคิดแตกต่างกัน และเมื่อนายจ้างถามลูกน้องว่ามีความคิดเห็นอะไรบ้าง โดยแสดงความสนใจว่าความคิดเห็นของลูกน้องคุณนั้นมีประโยชน์ต่อการทำงานเป็นอย่างมาก
2. I trust you พูดแสดงออกให้ลูกน้องรู้ว่าคุณเชื่อใจเขา
ลูกน้องทุกคนย่อมต้องการให้นายจ้างของพวกเขาไว้ใจ และเมื่อลูกน้องเห็นว่านายจ้างแสดงออกถึงความเชื่อใจแล้ว พวกเขาก็พร้อมทำงานให้ออกมาดีด้วยความซื่อตรง และไว้ใจนายจ้างกลับด้วย
3. I know you can do it ผมรู้ว่าคุณทำได้
คำพูดให้กำลังใจเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้อง ทำให้ลูกน้องมีความมั่นใจในการทำงาน งานที่ออกมาก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
4. It’s not your Fault ไม่เป็นไร ไม่ใช่ความผิดคุณ
บางครั้งเมื่อเกิดปัญหาขึ้นและไม่มีลูกน้องคนไหนสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่ากล่าวโทษ เพราะทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ บอกให้ลูกน้องรู้ว่าสิ่งนี้เราสามารถแก้ไขมันร่วมกันได้
5. I’m proud of you ภูมิใจในตัวพวกคุณ
ทุกคนชอบฟังคนรอบข้าง ไม่ว่าจะพ่อแม่ เจ้านาย หรือคนรอบข้างกล่าวชื่นชม ว่าเขาภูมิใจในตัวพวกเขา โดยเฉพาะคำชมจากเจ้านายว่าภูมิใจในผลงานที่ลูกน้องทำ ช่วยเพิ่มกำลังใจในการทำงาน
6. Please ใช้คำพูดเชิงขอ มากกว่าการออกคำสั่ง
ไม่ว่าเจ้านายหรือลูกน้อง ทุกคนไม่ชอบถูกสั่งงาน ปรับเปลี่ยนวิธีการพูดใหม่ เลือกคำพูดที่ไม่เหมือนการออกคำสั่ง ใช้ถ้อยคำที่สุภาพเมื่อต้องการให้ลูกน้องทำงานให้
7. Thank you ขอบคุณ
เชื่อหรือไม่ว่า 58% ของการสำรวจลูกน้องในที่ทำงานชอบให้นายจ้างกล่าวแสดงการขอบคุณเมื่อลูกน้องทำงานเสร็จลุล่วง
8. Great idea-let’s do it เป็นความคิดที่ดีมาก ทำต่อไปนะ
เมื่อนายจ้างได้ความคิดหรือไอเดียดีๆจากลูกน้อง บางครั้งไอเดียหรือความคิดเหล่านี้มีมากจนหยิบมาใช้ไม่หมด พูดให้กำลังใจว่าความคิดที่พวกเขาคิดนั้นดีแล้ว และให้ทำกันต่อไป
9. I’ve always got time for you มีเวลาให้ตลอดเวลา
มีเวลาว่างพบปะกับลูกน้องเท่าที่จะทำได้ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นต่างๆที่พวกเขาอยากพูดหรืออยากบอกกับนายจ้าง เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้การทำงานออกมาดียิ่งขึ้น
10. I couldn’t have done it without you สองหัวดีกว่าหัวเดียว
บอกลูกน้องของคุณว่าพวกเขามีค่ามากแค่ไหนในที่ทำงานแห่งนี้ และงานทุกอย่างนั้นจะไม่สำเร็จและออกมาดีได้เลยถ้าไม่ได้พวกเขาอยู่คอยเป็นกำลังสำคัญ
11. No one is perfect ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
บางครั้งการทำงานที่มีข้อผิดพลาด ไม่ควรอย่างยิ่งสำหรับคำพูดซ้ำเติมหรือว่ากล่าว ทางที่ดีนายจ้างควรพูดให้กำลังใจ เพราะทุกอย่างไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ให้เอาข้อผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียน
12. What can I do to help? มีอะไรให้ช่วยได้บ้าง
ลูกน้องทุกคนต้องการให้นายจ้างสนับสนุน และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คอยติดตามความเป็นไปของสิ่งที่เข้าไปช่วยเหลือ
13. I made a mistake ยอมรับเมื่อทำขอผิดพลาด
ไม่มีลูกน้องคนไหนที่ให้ความเคารพนายจ้างที่ปัดความรับผิดชอบ หรือไม่ยอมรับเมื่อตัวเองทำผิด ซ้ำร้ายยังมีนายจ้างบางประเภทที่ชอบโยนความผิดให้คนอื่นรับช่วงต่อ นายจ้างจำพวกนี้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี และลูกน้องจะเริ่มตีตัวออกห่าง วิธีเรียกความศรัทธาคืนมาที่ไวที่สุดคือยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง และแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ให้ถูกต้อง
14. I need your help อย่าอายที่ต้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ด้อยกว่า
เมื่อต้องการความช่วยเหลือจากใครซักคน อย่าอายที่ต้องกล่าวขอความช่วยเหลือจากลูกน้องของคุณ เพราะพวกเขาเต็มใจและพร้อมช่วยเหลือคุณอยู่แล้ว
15. Anything is possible ทุกสิ่งเป็นไปได้
ผู้นำที่ดีนั้นจะรู้ว่าไม่มีข้อจำกัดใดๆที่มาขัดขว้างการทำงานให้สำเร็จได้ คอยเติมเต็มแรงบันดาลใจและข้อมูลที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังต้องทำตัวให้เหมือนแก้วที่มีน้ำอยู่แค่ครึ่งเดียว ที่พร้อมรับความรู้ใหม่ๆเข้ามาเติมเต็มได้ตลอดเวลา
16. I’m sorry กล่าวคำขอโทษบ้าง
คำกล่าวแสดงความเสียใจ หรือขอโทษ เป็นโยคที่ทุกคนต้องการได้ยิน ทั้งยังช่วยรักษาความรู้สึกซึ่งกันและกันได้ดี ถึงแม้จะเป็นเจ้านายหรือนายจ้างก็ตามเมื่อทำผิดก็ควรกล่าวคำขอโทษ
17. I’ve got your back เป็นแนวหลังที่คอยสนับสนุน
ลูกจ้างทุกคนย่อมต้องการกองหลังคอยช่วยหนุนและสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้านายหรือนายจ้างของพวกเขาเอง ใช้อำนาจที่ตัวเองมีในทางที่ดี ทำให้ลูกน้องเชื่อมั่นว่าเขาสามารถไว้ใจเจ้านายของพวกเขาได้ทั้งในเวลาสุขและทุกข์
ที่มา : http://news.voicetv.co.th/infographic/170922.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น